'บินไทย' ฟันพันล้าน! ขายออฟฟิศซิดนีย์

18 พ.ค. 2561 | 15:05 น.
180561-2157 AppP1-2-3099

การบินไทยฟันพันล้าน! ขายออฟฟิศซิดนีย์สำเร็จ หวังดันรายได้เพิ่มจากการขายอสังหาฯ ส่วนที่เหลือทั่วยุโรปและในไทยยังเดินหน้าขายต่อ พร้อมชู 3 โมเดล เร่งขายซากเครื่องบินเก่า 22 ลำ

หลังจาก บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เดินหน้าประกาศขายอสังหาริมทรัพย์ในต่างประเทศกว่า 6 แห่ง ที่ประเทศอังกฤษ, เดนมาร์ก, อินโดนีเซีย, ออสเตรเลีย, อิตาลี และสเปน ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2558 เพื่อลดต้นทุนค่าบริหารจัดการทรัพย์สินและสร้างรายได้เพิ่ม ล่าสุด สามารถขายอาคารสำนักงานขนาดพื้นที่ 243 ตารางเมตร ที่เมืองซิดนีย์ เป็นผลสำเร็จ หลังจากก่อนหน้านี้ การบินไทยตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 24% ในโรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ให้กับ บริษัท แกรนด์ แอสเสทฯ ได้เงินกว่า 922.50 ล้านบาท และยังเดินหน้าขายหุ้นในโรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิและโรงแรมอมารี แอร์พอร์ท ดอนเมือง อีกด้วย


app-THAILAND_AIRPORT_BK102

แหล่งข่าวระดับสูงจาก บมจ.การบินไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า การขายสินทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับลดค่าใช้จ่าย เพื่อโฟกัสที่ธุรกิจการบินเป็นหลัก ตามมติบอร์ด ตั้งแต่ปี 2558 แต่เพิ่งจะขายอาคารสำนักงานที่ซิดนีย์ได้ ในราคาราวกว่า 40 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 960 ล้านบาท) ซึ่งผู้ชนะการประกวดไม่เพียงให้ราคาสูงสุดกว่าที่ตั้งไว้ ยังให้สิทธิการบินไทยใช้งานต่อได้อีก 1-2 ปี ระหว่างที่ผู้ชนะการประมูลอยู่ระหว่างการวางคอนเซ็ปต์ที่จะปรับมาเป็นธุรกิจโรงแรม หรือ ธุรกิจอื่นที่เหมาะสม

ส่วนการขายอสังหาริมทรัพย์ในประเทศอื่น ๆ การขายยังไม่คืบหน้า อาทิ บ้านพักพร้อมที่ดิน ที่กรุงจาการ์ตา ขนาดพื้นที่ 915 ตารางเมตร, อาคารสำนักงาน ที่กรุงโรม ขนาดพื้นที่ 750 ตารางเมตร, อาคารสำนักงาน ที่กรุงมาดริด ขนาดพื้นที่ 663 ตารางเมตร, บ้านพักแบบทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ที่ถนนสแตมฟอร์ดเคนซิงตัน ลอนดอน ประเทศอังกฤษ ขนาดพื้นที่ 135 ตารางเมตร


appMP33-3102-X

"นอกจากทรัพย์สินในต่างประเทศ ในประเทศก็มีการประกาศขายด้วยเช่นกัน โดยขายสำนักงานและบ้านพักรวมที่ดินที่ภูเก็ตและหาดใหญ่ไปแล้ว ส่วนที่ยังขายไม่ได้ ได้แก่ บ้านพัก 2 ชั้น ที่ ต.จองคำ ขนาดพื้นที่ 306.4 ตารางเมตร จ.แม่ฮ่องสอน, บ้านพัก และอาคารสำนักงานที่ ต.หมากแข้ง พื้นที่ 924 ตารางเมตร ที่ จ.อุดรธานี และอาคารสำนักงานพาณิชย์ 3 ชั้น 3 คูหา ขนาดพื้นที่ 147.2 ตารางเมตร ที่ อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเมื่อกลางปีที่แล้ว ได้มอบหมายให้ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) นำไปประมูลแบบเปิด (Open Auction) แต่ก็ยังขายไม่ได้"

แหล่งข่าว ยังกล่าวต่อว่า การขายสินทรัพย์เป็นส่วนหนึ่งในการลดค่าใช้จ่าย ขณะนี้ ยังขายได้ไม่ถึงครึ่ง ซึ่งก็ต้องดำเนินการต่อไป แต่สิ่งสำคัญการบินไทย ต้องเร่งแก้ปัญหาให้ได้ คือ การขายเครื่องบินที่จอดรอการขายอยู่ 22 ลำ เนื่องจากประกาศขายมาหลายปี แต่ก็ยังหาผู้ซื้อไม่ได้ อาทิ แอร์บัส เอ330-300, แอร์บัส เอ300-600, โบอิ้ง 747-400 ทำให้การบินไทยต้องลงบัญชีด้อยค่า ทำให้เกิดภาระการขาดทุนสะสมมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีผลประกอบการในการปฏิบัติการบินที่ดีขึ้น จึงหาวิธีเร่งการขายให้รวดเร็วขึ้น 3 แนวทาง คือ 1.ขายเป็นซากเครื่องบิน 2.ถอดเป็นชิ้นส่วนแล้วแยกขาย 3.ใช้ที่ปรึกษาหรือโบรกเกอร์ที่มีความชำนาญมาดำเนินการ


tg1-1

"การบินไทยต้องเร่งขายเครื่องบินเก่าโดยเร็ว เพราะช่วง 5 ปี จะมีการสั่งซื้อเครื่องบินใหม่อีก 19 ลำ ภายใต้วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อทดแทนเครื่องที่ปลดระวาง เพื่อคงฝูงบินไว้ที่ 100 ลำ ตามที่บอร์ดได้อนุมัติจัดหาเครื่องบินใหม่ 28 ลำ ส่วนอีก 9 ลำ เป็นของไทยสมายล์ ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างนำเสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม เพื่อเตรียมนำเข้า ครม. พิจารณาต่อไป"


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,366 วันที่ 17-19 พ.ค. 2561 หน้า 01+02

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
มารยาตลาดหุ้น : การบินไทยสัญญาณแห่งอนาคต และครอบครัวหัวร้อน
การบินไทยจัดนิทรรศการIRFยกระดับงานบริการ


e-book-1-503x62-7