ยกเครื่องรพ.สัตว์เจริญสุข ชูเทคโนโลยีเพิ่มบริการขยายสาขาไซซ์เล็ก

23 พ.ค. 2561 | 09:03 น.
โรงพยาบาลสัตว์เจริญสุข ชี้แนวโน้มสุนัขสายพันธุ์เล็ก-แมวได้รับความนิยมเพิ่มตามไลฟ์สไตล์คนไทยที่เปลี่ยนไป เร่งเสริมบริการทั้งสื่อสารผ่านไลน์ บริการจัดส่งสินค้าผ่านแกร็บไบค์ ล่ามแปลภาษาญี่ปุ่น บริการที่พัก VIP สำหรับเจ้าของสัตว์ พร้อมรีโนเวตครั้งใหญ่สุดในรอบ 20 ปีหวังสร้างโอกาสในการรักษาสัตว์ป่วย

วันนี้คนไทยหันมานิยมเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นเพื่อน หรือเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวมากกว่าการเลี้ยงเพื่อใช้งาน สิ่งที่เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงคือหันมานิยมเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์เล็ก เพื่อความสะดวกสำหรับผู้ที่พักอาศัยอยู่ในคอนโดฯ รวมทั้งนิยมเลี้ยงแมวมากขึ้น และใส่ใจในการดูแลมากขึ้น ขณะที่สัตวแพทย์จะเน้นการให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการป้องกัน ว่าจะส่งผลดีต่อสุนัข แมว และสัตว์เลี้ยงอื่นๆ มากกว่าการรักษาเมื่อเจ็บป่วยแล้ว

นสพ.เศรษฐพร เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลสัตว์เจริญสุข เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นโยบายในการบริหารจัดการของโรงพยาบาลสัตว์เจริญสุข จะมุ่งเน้นใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. เทคโนโลยี การนำเครื่องมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือแนวทางการรักษาใหม่ๆ เข้ามาต่อเนื่องเพื่อให้ผลการรักษาออกมาดีที่สุด 2. ด้านการศึกษา โรงพยาบาลส่งเสริมให้แพทย์และพยาบาลศึกษาหาความรู้ในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการศึกษาดูงานต่างประเทศ การเข้าร่วมประชุมต่างประเทศ เพื่อให้รับรู้ถึงโรคสายพันธุ์ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรักษา เพื่อให้รู้เท่าทันโรคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น 3. ด้านการบริการ ซึ่งเป็นการนำเสนอรูปแบบการให้บริการใหม่ เช่น การโทร.ติดตามความคืบหน้าในการรักษา การให้คำปรึกษาในการดูแลสัตว์ป่วย ฯลฯ เพื่อรองรับการรักษาพยาบาลสัตว์ป่วย

hos

ทั้งนี้พบว่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีผู้นำสัตว์เลี้ยงมารักษาเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจัยมาจากหลายประการ อาทิ การดูแลใส่ใจในสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น การระบาดของโรคต่างๆ ทำให้เจ้าของหันมาเน้นการป้องกัน รวมถึงการที่สัตว์เลี้ยงมีอายุยืนมากขึ้น เป็นต้น

“โรงพยาบาลให้ความสำคัญกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสื่อสาร เช่น การใช้ไลน์ในการติดต่อกับหมอและเจ้าของสัตว์โดยตรง การส่งรูป ส่งคลิปวิดีโอ ซึ่งจะช่วยให้การรักษาเบื้องต้นได้เร็วและถูกวิธี ซึ่งจะบรรเทาอาการสัตว์ได้มาก”

ปัจจุบันโรงพยาบาลสัตว์เจริญสุข เปิดให้บริการ 2 แห่ง ได้แก่ เอกมัย ซอย 5 (หรือทองหล่อ ซอย 10) ในรูปแบบโรงพยาบาลสัตว์ครบวงจร พร้อมเปิดบริการ 24 ชม. ไม่ว่าจะเป็นโรคทั่วไป การผ่าตัด การฝังเข็ม และการใช้สมุนไพร ฯลฯ และศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ จะเน้นให้บริการด้านคำปรึกษา และรักษาโรคทั่วไป รวมทั้งการออกบูธให้ความรู้ การดูแลสัตว์ รวมทั้งการฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าฟรีเพื่อเป็นการช่วยเหลือสังคมด้วย ซึ่งในอนาคตบริษัทมีแผนขยายสาขาขนาดเล็กเพิ่มขึ้น เพื่อเข้าไปให้บริการต่อชุมชนมากขึ้นด้วย

“สาขาเอกมัย จะเน้นรักษาสัตว์ป่วยหนัก สัตว์ที่ต้องการดูแลอย่างใกล้ชิด โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งมีมาทั่วประเทศ ทั้งชลบุรี ภูเก็ต ฯลฯ รวมทั้งผู้พักอาศัยในกรุงเทพฯ ทั้งระยะใกล้และไกล ซึ่งแน่นอนว่าในบริเวณดังกล่าว มีชาวต่างชาติจำนวนมาก ดังนั้นที่นี่จึงมีลูกค้าชาวต่างชาติจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี รวมถึงจีน ฯลฯ ที่นี่จึงมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง อาทิ ล่ามชาวญี่ปุ่น เพื่อช่วยสื่อสาร ให้ข้อมูลและแนวทางการรักษาที่ถูกวิธีด้วย”

นสพ.เศรษฐพร กล่าวอีกว่า ล่าสุดโรงพยาบาลได้ปรับปรุงพื้นที่ครั้งใหญ่สุดในรอบ 20 ปี เพื่อให้เจ้าของและสัตว์ป่วยได้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น รวมทั้งปรับรูปแบบการให้บริการ จัดระบบ ระเบียบการรักษาและให้บริการใหม่ เพื่อให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และคล่องตัวมากขึ้น ทั้งระบบแพทย์ พยาบาลซึ่งมีอยู่กว่า 70 ชีวิต นอกจากนี้ยังเพิ่มที่พัก VIP สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ต้องการมาดูแลสัตว์อย่างใกล้ชิด รวมทั้งยังเป็นที่พักของเจ้าของที่เดินทางมาจากต่างประเทศอีกด้วย

รพ.สัตว์

นอกจากนี้บริษัทยังปรับรูปแบบการจำหน่ายสินค้าผ่านทางเว็บไซต์ แทนการจำหน่ายภายในโรงพยาบาล ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อและมารับสินค้าได้ที่โรงพยาบาล หรือจะสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ และโรงพยาบาลจัดส่งให้ผ่านทาง แกร็บไบค์ หรือช่องทางอื่นๆ ได้ด้วย อาทิ อาหาร, อาหารเสริม, อุปกรณ์ทำแผล, ของเล่นเสริมทักษะสัตว์เลี้ยง เป็นต้น โดยจะเริ่มให้บริการตั้งแต่กลางปีนี้เป็นต้นไป

                    หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,367 วันที่ 20-23 พ.ค. 2561

e-book-1-503x62-7