จี้รัฐเร่งแผนไบโอชีวภาพหวั่นล่าช้ากระทบลงทุนตั้งคอมเพล็กซ์หมื่นล้าน

18 พ.ค. 2561 | 04:27 น.
จีจีซี จี้กระทรวงอุตฯชงครม.ไฟเขียวมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพ ภายในเดือนพ.ค.นี้ หวั่นล่าช้าโครงการไบโอคอมเพล็กซ์ 1หมื่นล้านบาทสะดุด ขณะที่โครงการชลบุรีคอมเพล็กซ์เตรียมก่อสร้างโรงงานกลีเซอรีน 2 หมื่นตันต่อปีภายหลังโรงงานไบโอดีเซลแห่ง 2 กำลังการผลิต 2 แสนตันต่อปี เสร็จไตรมาส 3 ปีนี้

นายจิรวัฒน์  นุริตานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ จีจีซี ในเครือบริษัท พีทีที โกลบอล เคมีคอล จำกัด(มหาชน) หรือ พีทีทีจีซี เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทยหรือไบโออีโคโนมี ที่จะเป็นการเชื่อมโยงกับการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี)  ซึ่งขณะนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้นำเรื่องเสนอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพราะหากอนุมัติแล้ว จะมีผลทำให้การพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพของประเทศเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากมาตรการดังกล่าว จะเป็นการปลดล็อกประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม ว่าด้วยการตั้งโรงงานนํ้าตาลในรัศมีตํ่ากว่า 50 กิโลเมตร จากโรงงานนํ้าตาลเดิมที่ตั้งอยู่ก่อนแล้วได้

GGC-323

รวมถึงการแก้ไขพ.ร.บ.อ้อยและนํ้าตาลทราย ที่สามารถให้นำนํ้าอ้อยไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชนิดอื่นได้ นอกจากนํ้าตาล อีกทั้งมาตรการการเงินการคลังในการสนับสนุน เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ การปรับปรุงกฎหมายผังเมือง ให้สามารถก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่ในเขตพื้นที่สีเขียวและพื้นที่ที่มีศักยภาพ สำหรับดำเนินกิจการอุตสาหกรรมเคมีชีวภาพ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการลงทุนจากพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ไปสู่ภูมิภาคอื่นของประเทศได้

โดยเฉพาะโครงการนครสวรรค์ Biocomplexเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจชีวภาพ (Bioeconomy) ในพื้นที่นำร่อง อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ที่จะใช้เงินลงทุนระยะแรกกว่า 1 หมื่นล้านบาท จะสามารถเกิดขึ้นได้ตามแผนหรือเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้า จากที่ก่อนหน้านี้บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท เกษตรไทยอินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS เพื่อลงทุนไบโอคอมเพล็กซ์ (Biocomplex) ในสัดส่วนการถือหุ้นฝ่ายละ 50% ไปแล้ว

นายจิรวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการของบริษัทที่อยู่ในอีอีซีนั้น ขณะนี้โรงงานไบโอดีเซล (เมทิลเอสเทอร์) แห่งที่ 2 หรือ “ชลบุรี Biocomplex (CBC)”  ตั้งอยู่ในเขตประกอบการไทยอีสเทิร์น อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี กำลังการผลิตนํ้ามันไบโอดีเซล 2 แสนตันต่อปี คาดว่าโรงงานจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 3 ปีนี้ จะช่วยเสริมกำลังการผลิตของโรงงานแห่งที่ 1 (ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 3 แสนตันต่อปี)  ให้จีจีซีมีกำลังการผลิตติดตั้งมากถึง 5 แสนตันต่อปี

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

ทั้งนี้หลังจากที่โรงงานเมทิลเอสเทอร์แห่งที่ 2 แล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 3 ปีนี้แล้ว บริษัทจะเริ่มก่อสร้างโรงงานกลีเซอรีนแห่งที่ 2 ในพื้นที่ใกล้เคียงกำลังการผลิต2หมื่นตันต่อปีใช้กลีเซอรีนดิบ (Crude Glycerine) เป็นวัตถุดิบใช้เทคโนโลยีของ C.M. Bernardini (C.M.B) ด้วยเงินลงทุนประมาณ  326 ล้านบาท พร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2562 ขณะที่โรงที่ 1 ในจังหวัดระยองมีกำลังผลิต 3.6 หมื่นตันต่อปี ทั้งนี้กลีเซอรีน บริสุทธิ์ (Refined Glycerin, RGL 99.5%) เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นสารตั้งต้นหรือสารเติมแต่งสำคัญในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมเพื่อสุขอนามัย ได้แก่ สบู่ ครีม โลชั่น เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก อุตสาหกรรมยาและอาหาร ได้แก่ ยาแก้ไอนํ้าเชื่อม ผลไม้อบแห้ง ลูกอมและหมากฝรั่ง รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆได้แก่ เรซินพลาสติก ยาสูบและอีพิคลอโรไฮดริน (ECH) เป็นต้น

“ที่ผ่านมาคาดว่าครม. จะเห็นชอบมาตรการฯได้ภายในพฤษภาคมนี้ ซึ่งจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากนั้นจะเริ่มก่อสร้างได้ภายในปลายปีนี้ ส่วนโครงการที่ชลบุรี โรงงานไบโอดีเซลแห่งที่ 2 จะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ ภายหลังจากโรงงานแห่งนี้เสร็จ” นายจิรวัฒน์ กล่าว

หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่38 ฉบับที่ 3,366 วันที่17-19 พฤษภาคม พ.ศ.2561

e-book-1-503x62-7