ครม.ไฟเขียวเพิ่มงบสร้างรัฐสภาใหม่ 512ล้านตีกลับงบสาธารณูปโภคฯ8,135 ล้าน
ครม.ไฟเขียวเพิ่มเติมงบสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ 512 ล. ตีกลับงบสาธารณูปโภค-สาธารณูปการ 8,135 ล้าน ติง รายละเอียดไม่ชัด-บางชิ้นแพงเกินไป
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (15 พฤษภาคม) ได้พิจารณาการขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมจากกรอบวงเงินงบประมาณ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการสำหรับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ และการขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทั้งนี้ ครม.ได้เคยอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ไว้แล้วโดยผูกพันงบประมาณข้ามปี 2554-2556 วงเงินรวม 16,333.70 ล้านบาท
“โดยในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบอนุมัติการขอเพิ่มวงเงินงบประมาณ จำนวน 512.50 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดให้การดำเนินการใน 3 รายการ คือ ค่าก่อสร้าง ค่าควบคุมงาน และค่าจ้างที่ปรึกษา” พล.ท.สรรเสริญ ระบุและว่า
ส่วนการขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 8,135.56 ล้านบาท และขอขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจากเดิมปี 2554-2556 เป็น ปี 2561-2563 เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการด้านอื่นๆ ไปพร้อมกับการก่อสร้างอาคารประกอบ อาทิ งานระบบควบคุมแสงสว่างบริเวณภายในอาคาร ห้องประชุม สส. สว. และห้องประชุม สว.ที่เป็นงานระบบปรับอากาศ เป็นต้น ซึ่งยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวข้างต้นจำนวน 586.90 ล้านบาท โดยในวันนี้ขอให้ครม.พิจารณาเพิ่มงบประมาณ จำนวน 826.16 ล้านบาท รวมเป็นค่าสาธารณูปโภคและค่าสาธารณูปการ เป็นเงิน 1,413.06 ล้านบาท
รวมถึงงานระบบประกอบส่วนอาคารและระบบเทคโนโลยี ซึ่งเคยได้รับอนุมัติไว้จำนวน 3,000 ล้านบาทซึ่งยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ โดยครั้งนี้ขอเพิ่มมา 3,493.49 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6,493.49 ล้านบาท อีกส่วนคือ ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานอีก 229 ล้านบาท รวมทั้ง 3 รายการเป็นเงิน 8,135.56 ล้านบาทนั้น ซึ่งที่ประชุมครม.ตีกลับขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาทำรายละเอียดใหม่ เนื่องจากเห็นว่า ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ประกอบกับอุปกรณ์ประเภทเทคโนโลยีและเครื่องมือสารสนเทศนั้นบางชิ้นมีราคาแพงเกินไป พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนงานของคณะกรรมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ กำหนดให้ส่วนของห้องประชุม สว. กรรมาธิการ (กมธ.) และที่ทำงานของบุคลากรของรัฐสภาแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2561 ส่วนห้องประชุม สส.และพื้นที่เชื่อมต่อบางส่วนนั้น กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2562 เพื่อรองรับการเลือกตั้ง
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุม ครม. (15 พฤษภาคม) ได้พิจารณาการขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติมจากกรอบวงเงินงบประมาณ ที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการสำหรับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ และการขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณค่าก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่พร้อมอาคารประกอบ ค่าควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ และค่าจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ทั้งนี้ ครม.ได้เคยอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาใหม่ไว้แล้วโดยผูกพันงบประมาณข้ามปี 2554-2556 วงเงินรวม 16,333.70 ล้านบาท
“โดยในวันนี้ที่ประชุม ครม.ได้เห็นชอบอนุมัติการขอเพิ่มวงเงินงบประมาณ จำนวน 512.50 ล้านบาท เพื่อเร่งรัดให้การดำเนินการใน 3 รายการ คือ ค่าก่อสร้าง ค่าควบคุมงาน และค่าจ้างที่ปรึกษา” พล.ท.สรรเสริญ ระบุและว่า
ส่วนการขออนุมัติวงเงินงบประมาณเพิ่มเติม จำนวน 8,135.56 ล้านบาท และขอขยายระยะเวลาการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณจากเดิมปี 2554-2556 เป็น ปี 2561-2563 เป็นค่าใช้จ่ายเพื่อดำเนินการด้านอื่นๆ ไปพร้อมกับการก่อสร้างอาคารประกอบ อาทิ งานระบบควบคุมแสงสว่างบริเวณภายในอาคาร ห้องประชุม สส. สว. และห้องประชุม สว.ที่เป็นงานระบบปรับอากาศ เป็นต้น ซึ่งยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวข้างต้นจำนวน 586.90 ล้านบาท โดยในวันนี้ขอให้ครม.พิจารณาเพิ่มงบประมาณ จำนวน 826.16 ล้านบาท รวมเป็นค่าสาธารณูปโภคและค่าสาธารณูปการ เป็นเงิน 1,413.06 ล้านบาท
รวมถึงงานระบบประกอบส่วนอาคารและระบบเทคโนโลยี ซึ่งเคยได้รับอนุมัติไว้จำนวน 3,000 ล้านบาทซึ่งยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ โดยครั้งนี้ขอเพิ่มมา 3,493.49 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 6,493.49 ล้านบาท อีกส่วนคือ ค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานอีก 229 ล้านบาท รวมทั้ง 3 รายการเป็นเงิน 8,135.56 ล้านบาทนั้น ซึ่งที่ประชุมครม.ตีกลับขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปพิจารณาทำรายละเอียดใหม่ เนื่องจากเห็นว่า ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ประกอบกับอุปกรณ์ประเภทเทคโนโลยีและเครื่องมือสารสนเทศนั้นบางชิ้นมีราคาแพงเกินไป พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
ทั้งนี้ ตามแผนงานของคณะกรรมการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ กำหนดให้ส่วนของห้องประชุม สว. กรรมาธิการ (กมธ.) และที่ทำงานของบุคลากรของรัฐสภาแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2561 ส่วนห้องประชุม สส.และพื้นที่เชื่อมต่อบางส่วนนั้น กำหนดให้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2562 เพื่อรองรับการเลือกตั้ง
