“ไชยันต์”ชี้ช่อง“บิ๊กตู่”นั่งนายกฯรอบ2
“ไชยันต์” แนะ “บิ๊กตู่”มีช่องทางเป็นนายกฯรอบ2ได้อย่างชอบธรรม โดยให้พรรคใหม่ใส่ชื่อ “ประยุทธ์”เป็นนายกฯตอนเสนอกกต. ชี้เริ่มเห็นเค้าลาง“รัฐบาลแห่งชาติ”
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สะท้อนความเห็นเกี่ยวกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหลือเวลาอีกเกือบปีในการบริหารประเทศ อยากเสนอว่า คสช.อย่ากังวลกับการที่จะต้องกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ แต่ควรจะเชื่อตามที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่พูดไว้ช่วงร่างรัฐธรรมนูญปี2560 ว่า ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
"ที่ว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ คือหลังเลือกตั้งแล้วรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ส.ส.และส.ว.ยกมือเลือกนายกรัฐมนตรีจากคนในก่อน คือเลือกตามรายชื่อที่พรรคการเมืองเลือกไว้ เมื่อตกลงกันไม่ได้จริงๆ หรือถ้าสภาสามารถหาเสียงได้ 250 เสียงเพื่อปลดล็อคหาคนนอก อันนั้นค่อยว่ากันว่าจะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ หรือใครใน คสช.หรือไม่ กรณีเมื่อนักการเมืองไม่สามารถตกลงกันได้ ค่อยมาตามเงื่อนไขที่จะเป็นและจะมีความชอบธรรมมาก"
นายไชยันต์ กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ คสช.ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องกล้าได้กล้าเสีย โดยให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนำชื่อพล.อ.ประยุทธ์ไปใส่ไว้ ในตอนที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
“กล้าได้กล้าเสียคือ ถ้าประชาชนต้องการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์พรรคนี้ แม้จะเป็นพรรคหน้าใหม่ก็อาจได้เสียงถล่มทลายก็ได้ และบัดนั้นก็จะเป็นายกฯคนใน และมีความชอบธรรม แต่ถ้ายอมให้เอาชื่อไปแล้วแล้วเกิดเสียงก็ต้องยอมรับสภาพ แต่ถ้านายกฯคนใน และคนนอกก็ยังหาไม่ได้ก็ต้องเป็นไปตาม มาตรา5 คือตามประเพณีการปกครอง"
หลังเลือกตั้งของไทยสมัยหน้าเชื่อว่า แม้จะมีพรรคที่ได้คะแนนอันดับที่1 และที่ 2 ก็มีแนวโน้มคะแนนไม่ห่างกัน และไม่มีพรรคใดได้เกินครึ่ง เพราะเราจะเห็นภาพดึงส.ส.ออกจากพรรคใหญ่ มีการแตกตัวกันออกมา มีพรรคใหญ่ที่แม้จะชนะเลือกตั้งก็คงไม่ได้ตำแหน่งอะไร พวกนี้ก็จะถอนตัวออกมาเพื่ออนาคตที่ดีกว่าและรวดเร็วกว่า
ในบ้านเราถ้าติดขัดหรือเกิดทางตันทางการเมือง จะมีสองทางคือเลือกตั้งเสร็จแล้วจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตามประเพณีการปกครองรัฐสภาของเรา หนึ่งคือยุบสภาเพื่อให้ตัวเลขเปลี่ยนแปลงหลังประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ หรือทูลเกล้าฯให้ทรงพระราชทานคำแนะนำ ก็จะกลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติ เพราะตอนนี้เค้าลางของรัฐบาลแห่งชาติปะทุขึ้นแล้ว ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์เดินสายไปทั่ว ดึงพรรคเดิมที่มีขนาดกลาง หลายคนมองว่านี่คือการต่อรองสัญญากันว่าหลังเลือกตั้งจะสนับสนุนกัน
“ ผมว่าจริงๆแล้วเป็นภาพที่จะนำไปสู่การเป็นรัฐบาลแห่งชาติ แต่ต้องค่อยๆรอเงื่อนไขทางการเมืองที่รอให้เป็นด้วย และต้องให้การเมืองถึงทางตันจริงๆก่อน”
นายไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สะท้อนความเห็นเกี่ยวกับ”ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เหลือเวลาอีกเกือบปีในการบริหารประเทศ อยากเสนอว่า คสช.อย่ากังวลกับการที่จะต้องกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ แต่ควรจะเชื่อตามที่นายมีชัย ฤชุพันธ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่พูดไว้ช่วงร่างรัฐธรรมนูญปี2560 ว่า ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ
"ที่ว่าปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ คือหลังเลือกตั้งแล้วรัฐธรรมนูญเปิดโอกาสให้ส.ส.และส.ว.ยกมือเลือกนายกรัฐมนตรีจากคนในก่อน คือเลือกตามรายชื่อที่พรรคการเมืองเลือกไว้ เมื่อตกลงกันไม่ได้จริงๆ หรือถ้าสภาสามารถหาเสียงได้ 250 เสียงเพื่อปลดล็อคหาคนนอก อันนั้นค่อยว่ากันว่าจะเสนอพล.อ.ประยุทธ์ หรือใครใน คสช.หรือไม่ กรณีเมื่อนักการเมืองไม่สามารถตกลงกันได้ ค่อยมาตามเงื่อนไขที่จะเป็นและจะมีความชอบธรรมมาก"
นายไชยันต์ กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ คสช.ต้องการให้พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯอีกสมัย พล.อ.ประยุทธ์ก็ต้องกล้าได้กล้าเสีย โดยให้พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งนำชื่อพล.อ.ประยุทธ์ไปใส่ไว้ ในตอนที่เสนอชื่อนายกรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
“กล้าได้กล้าเสียคือ ถ้าประชาชนต้องการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์พรรคนี้ แม้จะเป็นพรรคหน้าใหม่ก็อาจได้เสียงถล่มทลายก็ได้ และบัดนั้นก็จะเป็นายกฯคนใน และมีความชอบธรรม แต่ถ้ายอมให้เอาชื่อไปแล้วแล้วเกิดเสียงก็ต้องยอมรับสภาพ แต่ถ้านายกฯคนใน และคนนอกก็ยังหาไม่ได้ก็ต้องเป็นไปตาม มาตรา5 คือตามประเพณีการปกครอง"
หลังเลือกตั้งของไทยสมัยหน้าเชื่อว่า แม้จะมีพรรคที่ได้คะแนนอันดับที่1 และที่ 2 ก็มีแนวโน้มคะแนนไม่ห่างกัน และไม่มีพรรคใดได้เกินครึ่ง เพราะเราจะเห็นภาพดึงส.ส.ออกจากพรรคใหญ่ มีการแตกตัวกันออกมา มีพรรคใหญ่ที่แม้จะชนะเลือกตั้งก็คงไม่ได้ตำแหน่งอะไร พวกนี้ก็จะถอนตัวออกมาเพื่ออนาคตที่ดีกว่าและรวดเร็วกว่า
ในบ้านเราถ้าติดขัดหรือเกิดทางตันทางการเมือง จะมีสองทางคือเลือกตั้งเสร็จแล้วจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ ตามประเพณีการปกครองรัฐสภาของเรา หนึ่งคือยุบสภาเพื่อให้ตัวเลขเปลี่ยนแปลงหลังประชาชนได้เลือกตั้งใหม่ หรือทูลเกล้าฯให้ทรงพระราชทานคำแนะนำ ก็จะกลายเป็นรัฐบาลแห่งชาติ เพราะตอนนี้เค้าลางของรัฐบาลแห่งชาติปะทุขึ้นแล้ว ขณะที่พล.อ.ประยุทธ์เดินสายไปทั่ว ดึงพรรคเดิมที่มีขนาดกลาง หลายคนมองว่านี่คือการต่อรองสัญญากันว่าหลังเลือกตั้งจะสนับสนุนกัน
“ ผมว่าจริงๆแล้วเป็นภาพที่จะนำไปสู่การเป็นรัฐบาลแห่งชาติ แต่ต้องค่อยๆรอเงื่อนไขทางการเมืองที่รอให้เป็นด้วย และต้องให้การเมืองถึงทางตันจริงๆก่อน”
