'พลังงาน' เตรียมขยับราคาแนะนำ 'แอลพีจี'

12 พ.ค. 2561 | 06:44 น.
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า สำหรับสถานการณ์แอลพีจี โดยราคาน้ำมันและแอลพีจีในตลาดโลกปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 สัปดาห์ เนื่องจากปัจจัยทางการเมืองระหว่างประเทศและความหวั่นเกรงว่า เหตุการณ์ในตะวันออกกลางอาจบานปลายได้ ทำให้ราคาน้ำมันดิบดูไบเพิ่มขึ้นเป็น 74.58 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคา LPG Cargo เพิ่มขึ้นเป็น 523 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ส่งผลให้ต้นทุนก๊าซแอลพีจีเพิ่มขึ้น และราคาจำหน่ายปลีกมีแนวโน้มที่จะเกินกว่าราคาแนะนำก๊าซปิโตรเลียมเหลวบรรจุถัง (ก๊าซหุงต้ม) ขนาด 15 กิโลกรัม ที่กรมการค้าภายในประกาศควบคุมอยู่ที่ราคาถังละ 353 บาท

ดังนั้น เพื่อไม่ให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของต้นทุนแอลพีจี กระทรวงพลังงานจะติดตามสถานการณ์อีก 1 สัปดาห์ เพื่อเตรียมการประสานงานกับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เพื่อบริหารราคาจำหน่ายก๊าซหุงต้มให้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป และห้ามมิให้มีการจำหน่ายก๊าซแอลพีจีภาคครัวเรือนเกินราคาจำหน่ายปลีกที่กรมการค้าภายในประกาศกำหนด (ราคาแนะนำ)


messageImage_1526034158927

อย่างไรก็ตาม หากราคาแอลพีจีปรับสูงขึ้นอีก จากปัจจุบันราคาที่ 510-520 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งเป็นราคาที่ชนเพดานราคาแนะนำแล้ว ดังนั้น หากราคาแอลพีจีสูงขึ้นอีก กระทรวงพลังงานจำเป็นต้องปรับราคาแนะนำเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงฯ ไม่มีนโยบายที่จะนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเข้ามาอุดหนุนราคาแอลพีจีแน่นอน ปัจจุบันกองทุนน้ำมันมีฐานะ 3.06 หมื่นล้านบาท และกองทุนแอลพีจีมีฐานะ 1 พันล้านบาท สามารถดูแลราคาแอลพีจีได้อีก 3 เดือน โดยขณะนี้ กองทุนแอลพีจีมีรายจ่ายอยู่ที่ 300 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งหากราคาแอลพีจีปรับเพิ่มขึ้นอีก กระทรวงพลังงานสั่งการให้ สนพ. ดูแลและหามาตรการดูแลราคาแอลพีจีต่อไป

สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมัน จากราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ปัจจุบันน้ำมันดิบดูไบ 77 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากสถานการณ์ตะวันออกกกลางที่ตึงเครียด ทำให้ราคาน้ำมันดิบผันผวน 2-3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล แต่จากมาตรการของกระทรวงพลังงานในช่วงที่ผ่านมา และมาตรการแข่งขันผู้ค้า และมาตรการจากกองทุนอนุรักษ์ฯ ยังคงรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ปัจจุบันอยู่ที่ 28-29 บาทต่อลิตร และคาดว่าราคาขายปลีกจะไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร


messageImage_1526034171441

ขณะเดียวกัน กระทรวงพลังงานลดผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนในกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยใช้น้ำมันไบโอดีเซลอี 20 ซึ่งมีราคาถูกกว่าบี7 อยู่ที่ 3 บาทต่อลิตร โดยราคาบี20 จะอยู่ที่ 26 บาทต่อลิตร โดยกระทรวงฯ จะร่วมกับกระทรวงการคลัง คาดว่าอีก 2 สัปดาห์น่าจะเริ่มโครงการนี้ได้ ดังนั้น ในช่วงนี้อยากให้ผู้ประกอบการกลุ่มรถบรรทุกขนาดใหญ่ เตรียมปรับเครื่องยนต์เพื่อรองรับน้ำมันบี20 โดยมั่นใจว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการระยะยาว


……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ที่นี่ไม่มีความลับ : ใครรับผิดชอบ! นโยบายชักเข้า-ชักออก โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน
4 ปี รัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” กับนโยบายพลังงาน



ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว