ดีลเลอร์มิตซูผุดโรงแรม ทุ่ม600ล้าน2ทำเลทองสนามเป้า-ดอนเมือง

10 พ.ค. 2561 | 12:41 น.
กฤษฏากลการ ทุ่ม 600 ล้านบาท รื้อโชว์รูมมิตซูบิชิย่านทำเลทองผุด 2 โรงแรมใหม่ต่อยอดลงทุนรับท่องเที่ยวบูม สวนทางธุรกิจขายรถชะลอตัว ดึงเชนเบสท์เวสเทิร์นบริหาร ชูจุดเด่นโรงแรมแอร์พอร์ต รวมถึงนำแบรนด์ไวบ์ เปิดตัวแห่งแรกในไทยคงเหลือโชว์รูม 2 แห่ง

จากการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของไทยที่เติบโตต่อเนื่อง สวนทางกับธุรกิจดีลเลอร์รถยนต์ ที่ชะลอตัวไปมาก จากการแข่งขันที่สูงขึ้นในยุคโลกาภิวัฒน์เพราะการขายรถยนต์สมัยนี้ ไม่จำเป็นที่คนจะมาซื้อที่โชว์รูมหลายแห่งเหมือนในอดีต เพราะซื้อผ่านออนไลน์ได้หรือไปซื้อในจุดต่างๆที่มีการนำรถไปออกบูธ ทำให้บริษัท กฤษฎากลการ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นดีลเลอร์ขายรถยี่ห้อมิตซูบิชิ มากว่า 26 ปี ตัดสินใจนำโชว์รูมหลายแห่งมาพัฒนาเป็นธุรกิจโรงแรมแทน เพื่อสร้างรายได้เพิ่ม และเพิ่มมูลค่าของที่ดิน

นางวรรณา ฐิติปุญญา กรรมการ บริษัทกฤษฎากลการ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ในขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการนำโชว์รูม จำนวน 2 แห่ง มาพัฒนาเป็นโรงแรม หลังจากพบว่า การตัดสินใจซื้อที่ดินย่านถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อแตกไลน์ธุรกิจมาทำโรงแรมแห่งแรก คือ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ ถ.แจ้งวัฒนะ ซึ่งเปิดให้บริการมากว่า 2 ปีครึ่ง ลงทุนไป 1 พันล้านบาท ได้รับการตอบรับที่ดีมากทั้งจากนักท่องเที่ยวและกลุ่มประชุมสัมมนาคนไทยและต่างชาติ

MP22-3363-A

ประกอบกับประเทศไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว ธุรกิจโรงแรมจึงมีทิศทางเติบโตสามารถส่งต่อให้ลูกหลานได้ ทำให้ตัดสินใจขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น ด้วยการนำพื้นที่ของโชว์รูมสาขาสนามเป้า ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2535 มาพัฒนาเป็นโรงแรมแทน โดยอยู่ระหว่างการสร้างโรงแรมไวบ์ สนามเป้า แบงค็อก ติดสถานีรถไฟฟ้าสนามเป้า คาดว่าจะเปิดให้บริการช่วงกลางปีนี้ เป็นโรงแรมสไตล์โมเดลขนาด 89 ห้อง ลงทุนราว 100 ล้านบาท(ไม่รวมที่ดิน) เน้นลูกค้ากลุ่มแบ็คแพ็คเกอร์

ทั้งยังอยู่ระหว่างสร้างโรงแรมเบสท์เวสเทิร์น นาดา ดอนเมือง แอร์พอร์ต ซึ่งเดิมเป็นโชว์รูมสาขาดอนเมือง ที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2539 มาสร้างเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ขนาด 265 ห้อง ลงทุนราว 500 ล้านบาท(ไม่รวมที่ดิน) ซึ่งจุดเด่นของโรงแรมนี้ก็จะเป็นเหมือนโรงแรมแอร์พอร์ต เพราะอยู่ห่างจากสนามบินราว 6-7 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี2563
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6 สำหรับโรงแรมที่ลงทุนใหม่นี้ จะใช้เชนเบสเวสเทิร์น มาช่วยบริหาร เนื่องจากเห็นผลงานจากโรงแรมแรกที่เปิดให้บริการอยู่แล้ว ดังนั้น 2 โรงแรมที่ลงทุนก็จะให้เชนนี้บริหารเหมือนเดิม ซึ่งการบริหารก็จะใช้แบรนด์ที่แตกต่างกัน อย่างแบรนด์เบสท์เวสเทิร์นพลัส จะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว แบรนด์เบสท์เวสเทิร์น เป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว ส่วนแบรนด์ไวบ์จัดว่าเป็นแบรนด์ใหม่และเป็นโรงแรมสไตล์ใหม่ เน้นความทันสมัยและมีห้องพักไม่มาก ซึ่งโรงแรมที่สนามเป้า จะเป็นแบรนด์ไวบ์แห่งแรกในไทยด้วย

ขณะที่การเปิดให้บริการโชว์รูมของบริษัท ก็จะเหลือเพียง 2 แห่ง คือ สาขาถนนแจ้งวัฒนะ และสาขาถนนรามอินทรา เพราะไม่จำเป็นต้องมีโชว์รูมหลายแห่งเหมือนในอดีต เนื่องจากยอดขายรถยนต์ก็ถดถอย มาตั้งแต่ปี2556 หลังจากเกิดโครงการนโยบายรถคันแรก เมื่อปี 2555 ทำให้คนไม่ได้ซื้อรถอีกหลายปี รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นจากกระแสโลกาภิวัฒน์ ดังนั้น การนำทรัพย์สินที่มีอยู่ ซึ่งเป็นที่ดินที่มีอยู่แล้ว และอยู่ในโลเคชั่นที่ดีมาก ทั้งติดรถไฟฟ้า และใกล้สนามบินดอนเมือง มาสร้างมูลค่าเพิ่มอย่างการพัฒนาเป็นโรงแรมจึงไปได้ดีกว่า

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว