"เคทีบี"จับตาสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรอิหร่านหุ้นไทยอาจมีการรีบาวน์และลงต่อ
"เคทีบี"จับตาสหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรอิหร่านหุ้นไทยอาจมีการรีบาวน์และลงต่อ
นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBSTประเมินการลงทุนในวันนี้ (9 พ.ค.) ว่าจากเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งตัวในกรอบแคบหลังจากประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แถลงถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในระดับสูงต่ออิหร่าน ซึ่งในอดีตสหรัฐฯเคยมีการคว่ำบาตรกับทางอิหร่านในด้านการตัดขาดกิจกรรมทางการเงิน และกิจกรรมเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์
แต่การที่สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรใน"ระดับสูง" นั่นอาจหมายถึงการใช้มาตรการตอบโต้ในแบบเดียวกันที่เคยทำกับเกาหลีเหนือซึ่งเป็นการตัดขาดทางเศรษฐกิจกับอิหร่านสิ้นเชิง พร้อมทั้งเรียกร้องให้นานาชาติทำตามด้วยเช่นกัน ซึ่งหากไม่มีประเทศใดปฏิบัติตาม สหรัฐฯจะถือว่าประเทศดังกล่าวให้ความร่วมมือกับประเทศที่ถูกกล่าวหาโดยทันที เป็นประเด็นที่ต้องตามต่อ แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 76 เหรียญฯ ในเช้าวันนี้ และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดความกังวลต่อระดับเงินเฟ้อและการไหลของเงินลงทุน
สำหรับประเด็นต่างประเทศที่ต้องติดตามคือ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของจีนในวันที่ 10 พ.ค. คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ +1.9% YoY ชะลอลงจากช่วงก่อนหน้าที่ 2.1% และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% จากช่วงก่อนหน้ารวมทั้งรายงานดุลการค้าระหว่างประเทศ คาดว่าจะขาดดุลที่ 2.9 พันล้านปอนด์เป็นการขาดดุลมากกว่าช่วงก่อนหน้าที่ขาดดุล 0.9 พันล้านปอนด์
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (9 พ.ค.) ดัชนีอาจมีการรีบาวน์ แต่มีโอกาสที่ลงต่อได้อีกตอนปิดตลาด จากการที่นักลงทุนเริ่มลดพอร์ตลงทุน แม้วันนี้ตลาดหุ้นไทยมีข่าวบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ ก.คลังจะพิจารณายืดเวลาที่จะใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 จากเดิมต้นปี 2562 ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่จะมีผลในวันนี้ คือการรายงานกำไรของบริษัทในตลาด
โดยรวมยังมองว่าแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ ยังเป็นตัวดึงไม่ให้ดัชนีฯไปได้ไกล จึงยังคงแนะนำชะลอลงทุนหุ้นที่เสี่ยงถูกต่างชาติขาย เน้นลงทุนหุ้นมีปัจจัยเฉพาะตัว โดยจากปัจจัยบวกของหุ้นธนาคารที่อาจมีการเลื่อนการใช้ IFRS9 และราคาหุ้นลงมามาก เป็นโอกาสในการเข้าเก็งกำไรหุ้นธนาคาร อย่าง KBANK ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาท หุ้นกลุ่มส่งออกที่คาดจะได้ประโยชน์คือ HANA
นายชาตรี โรจนอาภา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (KTBST) บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ KTBSTประเมินการลงทุนในวันนี้ (9 พ.ค.) ว่าจากเมื่อคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐฯแกว่งตัวในกรอบแคบหลังจากประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ แถลงถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านและจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจในระดับสูงต่ออิหร่าน ซึ่งในอดีตสหรัฐฯเคยมีการคว่ำบาตรกับทางอิหร่านในด้านการตัดขาดกิจกรรมทางการเงิน และกิจกรรมเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับนิวเคลียร์
แต่การที่สหรัฐฯประกาศคว่ำบาตรใน"ระดับสูง" นั่นอาจหมายถึงการใช้มาตรการตอบโต้ในแบบเดียวกันที่เคยทำกับเกาหลีเหนือซึ่งเป็นการตัดขาดทางเศรษฐกิจกับอิหร่านสิ้นเชิง พร้อมทั้งเรียกร้องให้นานาชาติทำตามด้วยเช่นกัน ซึ่งหากไม่มีประเทศใดปฏิบัติตาม สหรัฐฯจะถือว่าประเทศดังกล่าวให้ความร่วมมือกับประเทศที่ถูกกล่าวหาโดยทันที เป็นประเด็นที่ต้องตามต่อ แต่อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นต่อเนื่องอยู่ที่ระดับ 76 เหรียญฯ ในเช้าวันนี้ และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทำให้เกิดความกังวลต่อระดับเงินเฟ้อและการไหลของเงินลงทุน
สำหรับประเด็นต่างประเทศที่ต้องติดตามคือ รายงานตัวเลขเงินเฟ้อของจีนในวันที่ 10 พ.ค. คาดว่าจะออกมาอยู่ที่ +1.9% YoY ชะลอลงจากช่วงก่อนหน้าที่ 2.1% และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 0.5% จากช่วงก่อนหน้ารวมทั้งรายงานดุลการค้าระหว่างประเทศ คาดว่าจะขาดดุลที่ 2.9 พันล้านปอนด์เป็นการขาดดุลมากกว่าช่วงก่อนหน้าที่ขาดดุล 0.9 พันล้านปอนด์
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (9 พ.ค.) ดัชนีอาจมีการรีบาวน์ แต่มีโอกาสที่ลงต่อได้อีกตอนปิดตลาด จากการที่นักลงทุนเริ่มลดพอร์ตลงทุน แม้วันนี้ตลาดหุ้นไทยมีข่าวบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร ที่ ก.คลังจะพิจารณายืดเวลาที่จะใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9 จากเดิมต้นปี 2562 ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่จะมีผลในวันนี้ คือการรายงานกำไรของบริษัทในตลาด
โดยรวมยังมองว่าแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ ยังเป็นตัวดึงไม่ให้ดัชนีฯไปได้ไกล จึงยังคงแนะนำชะลอลงทุนหุ้นที่เสี่ยงถูกต่างชาติขาย เน้นลงทุนหุ้นมีปัจจัยเฉพาะตัว โดยจากปัจจัยบวกของหุ้นธนาคารที่อาจมีการเลื่อนการใช้ IFRS9 และราคาหุ้นลงมามาก เป็นโอกาสในการเข้าเก็งกำไรหุ้นธนาคาร อย่าง KBANK ขณะที่การอ่อนค่าของเงินบาท หุ้นกลุ่มส่งออกที่คาดจะได้ประโยชน์คือ HANA
