ทันโลก ทันเศรษฐกิจ | ตลาดสหรัฐฯ จะปรับฐานลง 40%?

ตลาดหุ้นสหรัฐอเมริกาในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ต้องเรียกว่า จับสัญญาณได้ยาก เพราะว่ามีปัจจัยชั่วคราวเข้ามากระทบเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น ปัจจัยจากความวิตกกังวลของสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ปัญหาเกาหลีเหนือบ้าง ปัญหาความรุนแรงในซีเรียบ้าง ปัจจัยทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ ล้วนแต่เป็นปัจจัยชั่วคราว ที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดเป็นบางครั้ง

แต่ปัจจัยที่แน่นอน สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดหุ้นในสหรัฐฯ ซึ่งแน่นอนครับ ว่าจะส่งผลกระทบไปทั่วโลกด้วย นั่นก็คือ แนวโน้มของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เอง และทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด

 

[caption id="attachment_279246" align="aligncenter" width="503"] ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์[/caption]

ในขณะนี้ บรรดานักวิเคราะห์เศรษฐกิจในสหรัฐฯ ต่างจับตามองกันไม่กะพริบ ว่า ดัชนีเงินเฟ้อของสหรัฐฯ นั้น จะพุ่งขึ้นแรงมากเกินไปหรือไม่ แน่นอนว่า อะไรที่มากเกินไปก็ย่อมไม่ใช่ผลดี ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ รอให้เงินเฟ้อขยับขึ้นมาแตะ 2.0% ซึ่งเป็นระดับเป้าหมายอยู่นาน แต่นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศได้ปีกว่า ๆ ก็ใช้สารพัดนโยบาย โดยเฉพาะการลดภาษีทั้งนิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทำให้ระดับเงินเฟ้อในระบบของสหรัฐฯ ขยับขึ้นค่อนข้างรวดเร็ว

ขณะที่ การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ปี 2018 นี้ ขึ้นไปแล้วครั้งหนึ่ง 0.25% ไปอยู่ที่ 1.50-1.75% โดยคาดกันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วย อย่างน้อยที่สุดก็อีก 2 ครั้งในปีนี้ และอย่างมากก็อาจจะอีก 3 ครั้ง ก็มีความเป็นไปได้ไม่น้อย เพื่อเบรกไม่ให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นแรงเกินไป




จาก 2 ปัจจัยนี้ล่ะครับ ที่ทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรของสหรัฐฯ ปรับขึ้นเรื่อย ๆ จนขึ้นมาอยู่ที่ 3.0% แล้วในขณะที่ผมกำลังเขียนอยู่นี้ เป็นสัญญาณบอกชัดเจนว่า นักลงทุนกำลังวิ่งเข้าไปหาตลาดพันธบัตร เพราะมั่นคงกว่าหุ้นและได้ดอกเบี้ยสูง กำไรดีกว่า

นั่นล่ะครับ คือ เหตุผลสำคัญว่า เพราะทำไมถึงมีคนบอกว่า หุ้นสหรัฐฯ อาจจะปรับฐานลงถึง 30-40% ในอีกไม่นานนี้ เพราะว่านักลงทุนจะหันไปเทความสนใจให้กับพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนดีกว่านั่นเอง อีกทั้งในช่วงที่ผ่านมา หุ้นสหรัฐฯ ก็แพงมาก ๆ ครับ




เว็บไซต์ข่าวซีเอ็นบีซีรายงานการสัมภาษณ์ นายเรนเนอร์ ไมเคิล พรีส ผู้อำนวยการบริษัทที่ปรึกษา ทอรัส เวลธ์ มองว่า โอกาสที่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะปรับฐานลงมากขนาดนั้นมีแน่นอน เพียงแต่ว่ายังบอกไม่ได้ว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใด

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อีกส่วนหนึ่งมองว่า หากตลาดปรับลงไป 40% จริง ก็อาจจะไม่ถึงจุดที่จะฉุดให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงได้ เพราะต้องบอกว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขณะนี้ค่อนข้างแข็งแกร่งมากทีเดียว

 

[caption id="attachment_279250" align="aligncenter" width="503"] ©Bloomberg[/caption]

แต่แน่นอนครับ หากตลาดปรับลง 40% จริง เศรษฐกิจสหรัฐฯ เองอาจจะเอาอยู่ แต่ก็น่าจะสร้างแรงสั่นสะเทือนขนาด 10 ริกเตอร์ได้ทีเดียว ทั่วโลกก็ต้องระวังไว้ครับ


……………….
คอลัมน์ : ทันโลก ทันเศรษฐกิจ โดย ธนพล ไชยภาษี ([email protected])
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,362 วันที่ 3-5 พ.ค. 2561 หน้า 10

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● หุ้นไทยสัปดาห์นี้ เคลื่อนไหวผันผวนตามตลาดสหรัฐฯ
● บล.เคทีบีประเมินหุ้นไทยสัปดาห์นี้สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนกดดันตลาดอีกครั้ง