SME รับอานิสงส์ 'ออเจ้า' ทุกเมนูอาหารอิงกระแส ดันยอดขาย-รายได้พุ่ง

06 พ.ค. 2561 | 13:11 น.
 

เตือน บุพเพสันนิวาส ปลุกกระแสอาหารไทย กลุ่มผู้ประกอบการเอสเอมอีได้รับอนิสงส์ แบรนด์กล่องทิพย์ อาหารไทยชาววังแบบเดลิเวอร์รี่ เผยยอดพุ่ง 100% ส่งรายได้เพิ่มต่อวันเป็น 6-7 หมื่นบาท ด้าน Love Eaten ชี้ลูกค้าเพิ่ม 10% เผยเมนูยอดฮิต หมูโสร่ง ช่อม่วง ทองหยิบ ฝอยทอง

ละครโทรทัศน์เรื่อง “บุพเพสันนิวาส” นอกจากจะสร้างกระแสความนิยมการแต่งกายแบบไทยโบราณ  และการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยยังเมืองประวัติศาสตร์ของประเทศไทยให้กลับมาคึกคักแล้ว ยังมีส่วนช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เกิดความคึกคักขึ้นมาทันตา เห็นในหลากหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวกับอาหารแบบไทยๆ

[caption id="attachment_279222" align="aligncenter" width="335"] นางฐนิวรรณ กุลมงคล นางฐนิวรรณ กุลมงคล[/caption]

เรื่องดังกล่าว นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย  และประธานกรรมการบริหารกล่องทิพย์ ผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารไทยชาววัง ในรูปแบบกล่องเดลิเวอร์รี่แบรนด์ “กล่องทิพย์” กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ละครเรื่องดังกล่าว มีส่วนในการเพิ่มยอดขายของที่ร้านให้เพิ่มมากขึ้นถึง 100% โดยต่อวันที่ร้านจะต้องทำอาหารหลักซึ่งเป็นอาหารคาวให้กับลูกค้าประมาณ 300 กล่อง และอาหารหวานอีกประมาณ 300-500 กล่อง  ซึ่งถือว่าเต็มตามศักยภาพของร้านที่จะรองรับได้  จนทำให้ไม่สามารถรับออเดอร์เพิ่มได้
29573081_1888832787803171_4301847512013642599_n ทั้งนี้ จากเดิมก่อนที่จะมีละครเรื่องดังกล่าว ที่ร้านจะมียอดออเดอร์สั่งอาหารในแต่ละวันที่ไม่คงที่ แต่ล่าสุด มีออเดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละวันจนไม่สามารถทำให้ได้ทั้งหมด และต้องขอให้ลูกค้าจองออเดอร์ใหม่ในวันถัดไป จนทำให้ปัจจุบันมียอดออเดอร์สั่งจองอาหารยาวไปจนถึงเดือนพฤษภาคม  โดยอาหารที่ได้รับความนิยมได้แก่ หมูโสร่ง  ,กุ้งเผา  ,ช่อม่วง  ,มะม่วงน้ำปลาหวาน  ,ทองหยิบ  และฝอยทอง เป็นต้น  โดยส่งผลให้รายได้ในแต่ละวันเพิ่มขึ้นเป็น 6-7 หมื่นบาท
31143834_1910187485667701_1462325717340520448_n “ยอดที่เพิ่มมากขึ้นขนาดนี้ทำให้ตนต้องมีวันหยุดให้กับพนักงานยาวถึง 10 วันเต็ม  เนื่องจากที่ผ่านมาต้องทำงานกันอย่างหนักเพื่อรองรับออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งเข้ามา  โดยเมนูที่ลูกค้าต้องการก็จะเป็นที่ในละครรับประทานให้เห็น เช่น หมูโสร่ง  ซึ่งตามปกติที่ร้านจะมีเมนูกุ้งโสร่งซึ่งมีรสชาติที่อร่อยเพื่อจำหน่ายอยู่แล้ว แต่ลูกค้าก็เลือกที่จะให้ทำเป็นหมูโสร่งเหมือนกับในละครมากกว่า”
513 นางฐนิวรรณกล่าวต่อไปอีกว่า ด้วยความที่ตนเองเป็นผู้ดูแลตลาดทางด้านช่องทางออนไลน์ด้วยตนเอง  ทำให้เห็นว่าหากผู้ประกอบการรายใดที่ทำการตลาดเป็นก็จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้า  เพื่อรับอนิสงส์จากละครเรื่องดังกล่าวได้  โดยสังเกตได้จากตอนหนึ่งที่ละครมีการรับประทานมะม่วงน้ำปลาหวาน  ในวันถัดไปก็จะมีผู้ประกอบการจำนวนมากโพสขายเมนูดังกล่าวบนช่องทางออนไลน์  ซึ่งผู้บริโภคก็จะมีการสอบถามกันว่าของเจ้าใดที่รสชาติอร่อย  โดยเมนูของที่ร้านก็จะได้รับการแนะนำ  เพราะเป็นร้านที่ทำอาหารไทยแบบชาววังจำหน่ายอยู่แล้ว หลังจากนั้นก็ทำให้ได้รู้ว่ากระแสของอาหารไทยตามละครเรื่อดังกล่าวนี้กำลังจะได้รับความนิยมในระยะต่อไป
29595071_1883746284978488_2418061752271838010_n “ละครเรื่องดังกล่าวนี้ช่วยให้อาหารไทยชาววังแบบเดลิเวอร์รี่ที่เราทำอยู่ และเจ้าอื่นได้มีพื้นที่ทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น  หลังจากที่ก่อนหน้าที่เราเป็นเจ้าแรกที่ทำธุรกิจในรูปแบบนี้  แต่ก็ได้รับความนิยมจากลูกค้าในระดับหนึ่งเท่านั้น”
27867012_1420137708095195_902488200196116613_n สอดคล้องกับความคิดเห็นของนางสาวณภัทร ธานีวรรณ เจ้าของธุรกิจ “Love Eaten” ผู้ประกอบการรับจัดเลี้ยงงานประชุมสัมมนา และงานเลี้ยงสังสรรค์ (Catering) ในรูปแบบของอาหารเพื่อสุขภาพ ซึ่งระบุว่า หลังจากที่ละครออกอากาศ และมีฉากที่เกี่ยวกับการรับประทานขนมไทย ส่งผลให้มีลูกค้ากลุ่มใหม่อย่างหน่วยงานราชการที่ต้องการจัดงาน และจะต้องเตรียมอาหารเพื่อต้อนรับแขกมีออเดอร์เกี่ยวกับขนมไทยเพิ่มมากขึ้นประมาณ 5-10% จากช่วงเวลาปกติ โดยขนมที่ได้รับความนิยมได้แก่ ช่อม่วง ,ขนมใส่ไส้ ,ทองหยิบ ,ทองหยอด และฝอยทอง เป็นต้น
17361694_1129993727109596_6980245916775054202_n “ตามปกติเมนูอาหารที่ Love Eaten จัดให้กับลูกค้าจะมีขนม ,ผลไม้  และเบเกอรี่ให้อยู่แล้ว  แต่ช่วงนี้ลูกค้าจะอยากได้เมนูที่เป็นขนมไทยเพิ่มเติม  เพื่อต้องการความแปลกตาให้กับผู้ที่มาร่วมงาน และต้องการได้เมนูตามที่มีในฉากของละครบุพเพสันนิวาส”
22195225_1300880436687590_3917481855034149180_n ................................
เชกชั่นเอสเอ็มอี | หน้า 13 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,360 ระหว่างวันที่ 26 -28 เมษายน 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว