“บูดัวร์ บาย ดิษยา” ชวนผู้หญิงเผยความมั่นใจในแคมเปญ “Be Boudoir”
ความสวยเซ็กซี่ของผู้หญิงต้องมาพร้อมกับความมั่นใจในตัวเอง Boudoir by Disaya (บูดัวร์ บาย ดิษยา) แบรนด์ชุดชั้นในแฟชั่นสตรี สัญชาติไทย ดีไซน์เก๋ระดับอินเตอร์ ผลงานจากฝีมือไทยดีไซเนอร์สาวชื่อดังของเมืองไทย "ออม-ดิษยา สรไกรกิติกูล" ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์แบรนด์ ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท เอ-ลิส คอร์ปอเรท จำกัด จึงจัดแคมเปญ “Be Boudoir” (บี บูดัวร์) ค้นหาสาวๆ ยุคมิลเลนเนียล ที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจ เพื่อเป็นตัวแทนแบรนด์ถ่ายทอดความงามแบบผู้หญิง และสร้างแรงบันดาลใจให้กับหญิงสาวกล้าแสดงความงามในสไตล์ของตัวเองด้วยการมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดชั้นในไอเทมคู่ใจของผู้หญิง โดยสะท้อนความงามผ่านภาพถ่ายจาก ธาดา วารีช ช่างภาพแฟชั่นชื่อดังผู้คร่ำหวอดในวงการถ่ายภาพมากว่า 23 ปี ณ เอลิส คอร์ปอเรท ซ.สุขุมวิท 31
"ออม – ดิษยา สรไกรกิติกูล" ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ บริษัท เอ-ลิส คอร์ปอเรท จำกัด เผยว่าตลอดระยะเวลา 14 ปี แบรนด์ Boudoir by Disaya ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งบูดัวร์เน้นดีไซน์ชุดชั้นในให้เข้ากับผู้หญิงหลากหลายสไตล์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงคือ ความมั่นใจจากข้างในและกล้าแสดงออกมา ดังนั้นเราจึงตั้งใจจัดแคมเปญ บี บูดัวร์ เพื่อค้นหาสาวบูดัวร์ 3 สาว 3 สไตล์ ขึ้น เป็นการอัพเดทสาวบูดัวร์ว่า ตัวตนที่แท้จริงของสาวบูดัวร์คือผู้หญิงยุคใหม่ และอยากสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงให้มีความมั่นใจ ให้ภูมิใจในความเป็นตัวเอง และสะท้อนความงดงามผ่านการสวมใส่ชุดชั้นใน เป็นเสมือนการจุดพลังความกล้าจากภายในสู่ภายนอก เพราะแบรนด์ บูดัวร์ บาย ดิษยา เชื่อว่า ผู้หญิงทุกคนมีความสวยในสไตล์ของตัวเอง
ด้าน"จอร์จ – ธาดา วารีช " ช่างภาพที่ดึงเสน่ห์ของหญิงสาวออกมาได้ดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย กล่าวถึงแคมเปญ Be Boudoir” (บี บูดัวร์) ว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ บูดัวร์ บาย ดิษยา เพราะเป็นเคมเปญที่ฉลองครบรอบ 14 ปี วันนี้ได้ร่วมเป็นหนึ่งในทีมแคสติ้ง เพื่อค้นหานางแบบคนใหม่ของบูดัวร์ รู้สึกสนุกและรู้สึกประทับใจทุกๆ คนที่มาร่วมในแคมเปญ เพราะผู้เข้าร่วมแต่ละคนมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนและแตกต่างกันออกไป ซึ่งบางครั้งอาจเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ดูธรรมดา แต่พอมาอยู่หน้ากล้อง เขากลับสามารถดึงเสน่ห์ และความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งสะท้อนความมีเสน่ห์ของผู้หญิง ที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ของเขาจริงๆ
สำหรับบรรยากาศการเฟ้นหาสาวบูดัวร์เป็นไปอย่างคึกคักของเหล่าหญิงสาวผู้มีความมั่นใจที่ต่างจัดเต็ม มิกซ์แอนด์แมทช์ บราลูกไม้ซีทรูแบบสามเหลี่ยมไร้ทรง ดีไซน์ซิคเนเจอร์ของแบรนด์ ที่สวยงามจากด้านหน้าสู่ด้านหลัง ให้เข้ากับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ เพื่อสะท้อนความงามแบบผู้หญิงบูดัวร์ โดย 3 สาวมั่น 3 สไตล์ผู้ที่ชนะแคมเปญ บี บูดัวร์ ได้แก่ สาวเปรี้ยวลุคอินเตอร์" นิล - ชิงดวง ดอยเกอร์ส", สาวมั่นรักอิสระ"แป้ง - ณัฐฐศศิ ชยางกูร ณ อยุธยา" และ สาวหวานที่ใส่ใจทุกรายละเอียด "คิทตี้ - ชิชา อมาตยกุล"
นิล - ชิงดวง ดอยเกอร์ส เผยว่า ดีใจที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงที่ยังไม่กล้าแสดงออกถึงตัวตน ซึ่งการสร้างความมั่นใจ ผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้เพียงแค่รักตัวเอง ส่วนสไตล์แฟชั่นในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุด อย่างการเลือกชุดชั้นในก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมพลังใจได้ เพราะถ้าเลือกชุดชั้นในที่ดีไซน์สวยแล้ว ก็จะรู้สึกมั่นใจขึ้น กล้าโชว์มากขึ้น เพราะชุดชั้นในของฉันสวย ”
ส่วน แป้ง - ณัฐฐศศิ ชยางกูร ณ อยุธยา กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้รับคัดเลือกเป็นสาวบูดัวร์ ซึ่งผู้หญิงทุกคนสามารถเป็นสาวบูดัวร์ได้เพราะสาวบูดัวร์ คือ ผู้หญิงที่ภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจในความเซ็กซี่ในสไตล์ตัวเอง คือผู้หญิงเซ็กซี่ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊ แต่เป็นผู้หญิงที่รู้จักตัวเองว่าต้องการอะไร มีอิสระในการมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดชั้นในกับเสื้อผ้าในสไตล์ตัวเอง
ด้าน คิทตี้ - ชิชา อมาตยกุล เผยว่า รู้สึกดีใจที่มีเคมเปญนี้เกิดขึ้น เพราะเป็นเคมเปญที่ช่วยสร้างพลังใจให้ผู้หญิงกล้าคิด กล้าทำ กล้าเผยตัวตนจริงๆ ออกมาก และรู้สึกภูมิใจในรูปร่างของตัวเอง โดยถ่ายทอดผ่านแฟชั่นการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ใจทุกดีเทล ไม่ได้แต่งตัวสวยแค่ภายนอก แต่รวมถึงการเลือกชุดชั่นในด้วย เป็นการแสดงตัวตนในอีกรูปแบบหนึ่ง คือ แต่งตัวข้างนอกอาจจะเรียบๆ แต่ข้างในคือมีลูกเล่น
นอกจากนี้ภายในงาน ดีไซเนอร์สาว ออม – ดิษยา สรไกรกิติกูล ยังได้แนะนำการมิกซ์แอนด์แมทช์บรากับเสื้อผ้า 4 สไตล์ 4 ลุค ได้แก่ สไตล์ Simple (ซิมเพิล) โดยสามารถจับคู่กางเกงยีนส์ทรงสวยเข้ารูป กับ บราลูกไม้สีเข้มที่มีดีไซน์เก๋ๆ เลือกใส่กับรองเท้าผ้าใบสบายๆ หรือบูทส์แบบลุยๆ ก็จะได้ลุคเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นลุคที่ซ้อนความเซ็กซี่ภายใต้ความเรียบง่าย
ถัดมาเป็น สไตล์ 2 Paradox (พาราด็อกซ์) หรือการแต่งตัวแบบขัดแย้ง ด้วยการเลือกบราลูกไม้สีดำ สวมทับด้วยสูทเข้าชุดสีเดียวกัน ได้ลุคเท่ๆ เป็นการผสมผสานความขัดแย้งระหว่างความฟอร์มอลของชุดสูทกับความลำลองของชุดชั้นใน แต่ถ้าต้องการเพิ่มความเท่ก็สามารถเลือกสูททรงผู้ชายโอเวอร์ไซส์เล็กน้อย ก็จะได้ลุคผู้หญิง ขี้เล่น และมีสไตล์มากขึ้น
สำหรับสาวๆ ที่อยากได้ลุคเซ็กซี่ชวนค้นหา แนะนำให้แต่งตัว สไตล์ Duplicate (ดูปพลิเคท) โดยเลือกชั้นในลูกไม้ซีทรูสวมทับชั้นนอกด้วยเสื้อซีทรูอีกชั้น เป็นการนำความซ้ำซ้อนมาผสมกันก็จะได้ลุคที่ชวนให้น่าค้นหามากขึ้น โดยสามารถเลือกได้ทั้งสีตัดกัน อาทิ บราสีเข้มตัดกับเสื้อซีทรูสีสว่าง หรือเลือกสีคุมโทน อย่าง ชุดชั้นในสีเหลืองอ่อนทับด้วยเสื้อลูกไม้ซีทรูสีครีมเหลืองเป็นต้น แต่หากอยากได้ลุคที่ดูหรูหราก็สามารถเลือกแต่งตัว สไตล์ Elegant (เอเลแกนซ์) คือ เลือกชุดราตรียาวคอวีแหวกลึก หรือ เปิดหลัง เผยให้เห็นชุดชั้นในลูกไม้ภายใน เป็นสไตล์ที่สะท้อนถึง ความจริงจัง หรูหรา แต่แฝงความซุกซน ขี้เล่น และเซ็กซี่ไว้ข้างใน
อัพเดทเทรนแฟชั่นและร่วมสัมผัสความงามของหญิงสาวในสไตล์สาวบูดัวร์ในแคมเปญ “Be Boudoir” ได้ที่ Facebook หรือ Instagram: Boudoir By Disaya
"ออม – ดิษยา สรไกรกิติกูล" ครีเอทีฟไดเร็คเตอร์ บริษัท เอ-ลิส คอร์ปอเรท จำกัด เผยว่าตลอดระยะเวลา 14 ปี แบรนด์ Boudoir by Disaya ได้รับเสียงตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งบูดัวร์เน้นดีไซน์ชุดชั้นในให้เข้ากับผู้หญิงหลากหลายสไตล์ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หญิงคือ ความมั่นใจจากข้างในและกล้าแสดงออกมา ดังนั้นเราจึงตั้งใจจัดแคมเปญ บี บูดัวร์ เพื่อค้นหาสาวบูดัวร์ 3 สาว 3 สไตล์ ขึ้น เป็นการอัพเดทสาวบูดัวร์ว่า ตัวตนที่แท้จริงของสาวบูดัวร์คือผู้หญิงยุคใหม่ และอยากสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงให้มีความมั่นใจ ให้ภูมิใจในความเป็นตัวเอง และสะท้อนความงดงามผ่านการสวมใส่ชุดชั้นใน เป็นเสมือนการจุดพลังความกล้าจากภายในสู่ภายนอก เพราะแบรนด์ บูดัวร์ บาย ดิษยา เชื่อว่า ผู้หญิงทุกคนมีความสวยในสไตล์ของตัวเอง
ด้าน"จอร์จ – ธาดา วารีช " ช่างภาพที่ดึงเสน่ห์ของหญิงสาวออกมาได้ดีที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย กล่าวถึงแคมเปญ Be Boudoir” (บี บูดัวร์) ว่า รู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับ บูดัวร์ บาย ดิษยา เพราะเป็นเคมเปญที่ฉลองครบรอบ 14 ปี วันนี้ได้ร่วมเป็นหนึ่งในทีมแคสติ้ง เพื่อค้นหานางแบบคนใหม่ของบูดัวร์ รู้สึกสนุกและรู้สึกประทับใจทุกๆ คนที่มาร่วมในแคมเปญ เพราะผู้เข้าร่วมแต่ละคนมีคาแร็กเตอร์ที่ชัดเจนและแตกต่างกันออกไป ซึ่งบางครั้งอาจเห็นว่าผู้หญิงคนนี้ดูธรรมดา แต่พอมาอยู่หน้ากล้อง เขากลับสามารถดึงเสน่ห์ และความเป็นตัวเองออกมาได้อย่างน่าประหลาดใจ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งสะท้อนความมีเสน่ห์ของผู้หญิง ที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ของเขาจริงๆ
สำหรับบรรยากาศการเฟ้นหาสาวบูดัวร์เป็นไปอย่างคึกคักของเหล่าหญิงสาวผู้มีความมั่นใจที่ต่างจัดเต็ม มิกซ์แอนด์แมทช์ บราลูกไม้ซีทรูแบบสามเหลี่ยมไร้ทรง ดีไซน์ซิคเนเจอร์ของแบรนด์ ที่สวยงามจากด้านหน้าสู่ด้านหลัง ให้เข้ากับเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์ เพื่อสะท้อนความงามแบบผู้หญิงบูดัวร์ โดย 3 สาวมั่น 3 สไตล์ผู้ที่ชนะแคมเปญ บี บูดัวร์ ได้แก่ สาวเปรี้ยวลุคอินเตอร์" นิล - ชิงดวง ดอยเกอร์ส", สาวมั่นรักอิสระ"แป้ง - ณัฐฐศศิ ชยางกูร ณ อยุธยา" และ สาวหวานที่ใส่ใจทุกรายละเอียด "คิทตี้ - ชิชา อมาตยกุล"
นิล - ชิงดวง ดอยเกอร์ส เผยว่า ดีใจที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงที่ยังไม่กล้าแสดงออกถึงตัวตน ซึ่งการสร้างความมั่นใจ ผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้เพียงแค่รักตัวเอง ส่วนสไตล์แฟชั่นในแบบที่เป็นตัวเองมากที่สุด อย่างการเลือกชุดชั้นในก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมพลังใจได้ เพราะถ้าเลือกชุดชั้นในที่ดีไซน์สวยแล้ว ก็จะรู้สึกมั่นใจขึ้น กล้าโชว์มากขึ้น เพราะชุดชั้นในของฉันสวย ”
ส่วน แป้ง - ณัฐฐศศิ ชยางกูร ณ อยุธยา กล่าวว่า รู้สึกภูมิใจที่ได้รับคัดเลือกเป็นสาวบูดัวร์ ซึ่งผู้หญิงทุกคนสามารถเป็นสาวบูดัวร์ได้เพราะสาวบูดัวร์ คือ ผู้หญิงที่ภูมิใจในตัวเอง ภูมิใจในความเซ็กซี่ในสไตล์ตัวเอง คือผู้หญิงเซ็กซี่ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊ แต่เป็นผู้หญิงที่รู้จักตัวเองว่าต้องการอะไร มีอิสระในการมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดชั้นในกับเสื้อผ้าในสไตล์ตัวเอง
ด้าน คิทตี้ - ชิชา อมาตยกุล เผยว่า รู้สึกดีใจที่มีเคมเปญนี้เกิดขึ้น เพราะเป็นเคมเปญที่ช่วยสร้างพลังใจให้ผู้หญิงกล้าคิด กล้าทำ กล้าเผยตัวตนจริงๆ ออกมาก และรู้สึกภูมิใจในรูปร่างของตัวเอง โดยถ่ายทอดผ่านแฟชั่นการเลือกเสื้อผ้าที่ใส่ใจทุกดีเทล ไม่ได้แต่งตัวสวยแค่ภายนอก แต่รวมถึงการเลือกชุดชั่นในด้วย เป็นการแสดงตัวตนในอีกรูปแบบหนึ่ง คือ แต่งตัวข้างนอกอาจจะเรียบๆ แต่ข้างในคือมีลูกเล่น
นอกจากนี้ภายในงาน ดีไซเนอร์สาว ออม – ดิษยา สรไกรกิติกูล ยังได้แนะนำการมิกซ์แอนด์แมทช์บรากับเสื้อผ้า 4 สไตล์ 4 ลุค ได้แก่ สไตล์ Simple (ซิมเพิล) โดยสามารถจับคู่กางเกงยีนส์ทรงสวยเข้ารูป กับ บราลูกไม้สีเข้มที่มีดีไซน์เก๋ๆ เลือกใส่กับรองเท้าผ้าใบสบายๆ หรือบูทส์แบบลุยๆ ก็จะได้ลุคเรียบง่าย แต่ไม่ธรรมดา เพราะเป็นลุคที่ซ้อนความเซ็กซี่ภายใต้ความเรียบง่าย
ถัดมาเป็น สไตล์ 2 Paradox (พาราด็อกซ์) หรือการแต่งตัวแบบขัดแย้ง ด้วยการเลือกบราลูกไม้สีดำ สวมทับด้วยสูทเข้าชุดสีเดียวกัน ได้ลุคเท่ๆ เป็นการผสมผสานความขัดแย้งระหว่างความฟอร์มอลของชุดสูทกับความลำลองของชุดชั้นใน แต่ถ้าต้องการเพิ่มความเท่ก็สามารถเลือกสูททรงผู้ชายโอเวอร์ไซส์เล็กน้อย ก็จะได้ลุคผู้หญิง ขี้เล่น และมีสไตล์มากขึ้น
สำหรับสาวๆ ที่อยากได้ลุคเซ็กซี่ชวนค้นหา แนะนำให้แต่งตัว สไตล์ Duplicate (ดูปพลิเคท) โดยเลือกชั้นในลูกไม้ซีทรูสวมทับชั้นนอกด้วยเสื้อซีทรูอีกชั้น เป็นการนำความซ้ำซ้อนมาผสมกันก็จะได้ลุคที่ชวนให้น่าค้นหามากขึ้น โดยสามารถเลือกได้ทั้งสีตัดกัน อาทิ บราสีเข้มตัดกับเสื้อซีทรูสีสว่าง หรือเลือกสีคุมโทน อย่าง ชุดชั้นในสีเหลืองอ่อนทับด้วยเสื้อลูกไม้ซีทรูสีครีมเหลืองเป็นต้น แต่หากอยากได้ลุคที่ดูหรูหราก็สามารถเลือกแต่งตัว สไตล์ Elegant (เอเลแกนซ์) คือ เลือกชุดราตรียาวคอวีแหวกลึก หรือ เปิดหลัง เผยให้เห็นชุดชั้นในลูกไม้ภายใน เป็นสไตล์ที่สะท้อนถึง ความจริงจัง หรูหรา แต่แฝงความซุกซน ขี้เล่น และเซ็กซี่ไว้ข้างใน
อัพเดทเทรนแฟชั่นและร่วมสัมผัสความงามของหญิงสาวในสไตล์สาวบูดัวร์ในแคมเปญ “Be Boudoir” ได้ที่ Facebook หรือ Instagram: Boudoir By Disaya
