ทางออกนอกตำรา : “ทรู-เอไอเอส” เป็นใคร ทำไมคิดค่าปรับ 1.5%

05 พ.ค. 2561 | 10:49 น.
 

ทรู ผมเคยเขียนไปฉบับก่อนหน้าว่า ใครที่คิดว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะไม่ใช้อำนาจมาตรา 44 ไปโอบอุ้ม บริษัทโทรคมนาคม 2 รายคือ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิสฯ (เอไอเอส) และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่นฯ ที่ไปยื่นเรื่องกับรัฐบาลลงวันที่ 21 กันยายน 2560 เพื่อขอผ่อนผันการชำระเงินประมูลคลื่น 900 MHz งวดที่ 4 ในปี 2563 ที่กลุ่มทรูจะต้องชำระ 60,218 ล้านบาท และกลุ่มเอไอเอส ต้องชำระ 59,574 ล้านบาท ออกไปอีก 5-7 ปี โดยคิดดอกเบี้ยจากการจ่ายช้าแค่ 1.5% ปิดฉากลงไปหลัง กสทช.ประกาศชัดว่า จะไม่ช่วยเหลือผู้ประกอบการมือถือที่ขอเลื่อนชำระค่าประมูลคลื่น 4 จี ต้องกลับไปคิดใหม่ เพราะมันยังไม่จบ...

4g ตอนที่ผมบอกว่ายังไม่จบ เพราะคุณวิษณุ เครืองาม บอกว่าในวันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2561 จะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาหารืออีกครั้ง และจะรายงานให้ คสช.ทราบในวันจันทร์ที่ 23 เมษายน 2561 ส่วนจะได้ข้อสรุปเมื่อใดขึ้นอยู่กับ คสช.

ครั้นพอวันที่ 24 เมษายน 2561 เวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีความคืบหน้ากรณีใช้คำสั่งมาตรา 44 เพื่อช่วยเหลือการประมูลคลื่นความถี่โทรคมนาคม และการประมูลทีวีดิจิตอลว่า ได้มีการหารือพูดคุยกันว่าจะมีมาตรการอย่างไร ที่เหมาะสมออกมาที่จะดูแลในเรื่องนี้ โดยตรงแยกออกเป็น 2 ประเด็น อันแรกคือทีวีดิจิตอล อันที่ 2 คือคลื่นความถี่ ซึ่งจะต้องดูบริบทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความเดือดร้อน ความพร้อมไม่พร้อมของระบบต่างๆ มันต้องมาหาวิธีการแก้ไข
61-2 “ถ้าจะบอกว่าทำอันนู้นไม่ได้ อันนี้ไม่ได้ มันก็แก้ไม่ได้สักอย่าง รัฐบาลยืนยันอยู่แล้วว่าประเทศชาติต้องไม่เสียผลประโยชน์ ทุกอย่างมันต้องมีหนทางแก้ไข หากสังคมเข้าใจว่ารัฐบาลนี้เข้ามาโดยไม่เอื้อประโยชน์กับใคร แต่ถ้าไม่ทำอะไรเลย มันจะเสียหายหรือเปล่านั้น ต้องว่ากันอีกเรื่อง” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

ด้วยเหตุนี้ ผมขอยืนยันตรงนี้ว่า การผลักดันให้คสช.ใช้อำนาจมาตรา 44 ไปขยายเวลาการชำระค่าประมูล 1 แสนล้านบาทเศษ และให้คิดดอกเบี้ยที่ตํ่าเตี้ยชนิดที่คนเดินดินกินข้าวแกงไม่เคยได้รับแค่ 1.5% นี้ ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพ “คุณสมชาย” เด็ดขาดเพราะถึงขณะนี้ “ปฏิบัติการล็อบบี้รัฐบาล” กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม

แว่วจาก “ซอยสายลมทะลุค่ายทหาร” ย่าน ร.1 รอ. ริมวิภาวดีรังสิตว่า “ผู้ใหญ่ค่ายมือถือ 2 ราย เสนอให้ขยายเวลาในการชำระออกไปแค่ 3 ปี ให้คิดดอกเบี้ยได้ 2%” นัยว่าเพื่อลดแรงเสียดทาน...
19-08-17 เขาบอกว่า ที่ขยับดอกเบี้ยปรับให้ 0.5% เพราะเสียงคัดค้านของกระทรวงการคลังที่ระบุว่า ต้นทุนดอกเบี้ยปรับที่เสนอมา 1.5% บิดเบือนตลาดขนาดรัฐบาลยังทำไม่ได้ ตํ่ากว่าต้นทุนในการกู้ยืมของกระทรวงการคลังที่มีต้นทุนการกู้เงินเฉลี่ย 1.5-2% และยังตํ่ากว่าต้นทุนของแบงก์พาณิชย์ ที่มีอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ 1.51-1.96% เสียอีก

เขาจึงปรับขึ้นมาให้ที่ 2% เป็นเวลา 3 ปี เพื่อที่จะเข้าร่วมประมูลคลื่น 900 และ 1800 เมกะเฮิรตซ์ครั้งใหม่ได้...555

ผมเห็นว่าเรื่องนี้รัฐบาลต้องมีความชัดเจนว่าจะเอาอย่างไร มิใช่ปล่อยให้มีการระแวงและเกิดข้อครหาว่า กำลัง “ตกปลาในบ่อใหญ่ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงคนในช่วงเลือกตั้ง”
1437556706_lte อีกทั้งหากพิจารณาจากหลักการของบทบัญญัติในมาตรา 44 นั้น ระบุชัดถึงการใช้อำนาจของ คสช.ว่า “ในกรณีที่หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจําเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่างๆ การส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติ หรือเพื่อป้องกัน ระงับ หรือปราบปรามการกระทําอันเป็นการบ่อนทําลายความสงบเรียบร้อยหรือความมั่นคงของชาติ ราชบัลลังก์ เศรษฐกิจของประเทศ หรือราชการแผ่นดิน ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายในหรือภายนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

โดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ มีอํานาจสั่งการ ระงับยับยั้งหรือกระทําการใดๆ ได้ ไม่ว่า การกระทํานั้นจะมีผลบังคับในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือในทางตุลาการ และให้ถือว่าคําสั่งหรือการกระทํา รวมทั้งการปฏิบัติตามคําสั่งดังกล่าว เป็นคําสั่งหรือการกระทํา หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมายและรัฐธรรมนูญนี้และเป็นที่สุด ทั้งนี้เมื่อได้ดําเนินการดังกล่าวแล้ว ให้รายงานประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติและนายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็ว”
201402201392938912
จะเห็นว่า อำนาจ ม.44 นั้น ไม่ได้ให้อำนาจ คสช.ไว้ในการขยายระยะเวลาการจ่ายค่างวดประมูลคลื่นมือถือเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะถึงเอกชนไม่จ่ายเงินก็ไม่บ่อนทำลายเศรษฐกิจของประเทศ และรัฐบาลสามารถคิดค่าปรับจากการเบี้ยวค่างวดได้ แถมที่ผ่านมาเอกชน 2 ราย ยังทำกำไร มีเงินปันผลคืนให้ผู้ถือหุ้นกันอย่างอู้ฟู่ในปี 2560 เป็นเครื่องยืนยัน

อีกทั้งข้อเสนอที่คิดดอกเบี้ยแค่ 1.5-2% นั้นต้องถือว่าไม่เคยมีปรากฏว่า จะมีเอกชนรายใดในประเทศไทยได้รับมาก่อนนอกจากผู้ประกอบการดิจิตอลที่ขาดทุนยับจากการทำงานไม่เป็นของ “กสทช.”

อ้อเกือบลืมไป มีกรณีของแบงก์กู้ที่ยืมเงินกันและคิดดอกเบี้ยแค่ 1.5% ในตลาดซื้อคืนพันธบัตร (อาร์พี) แต่ต้องเสนอซื้อหรือขายพันธบัตร ไม่ตํ่ากว่า 300 ล้านบาทต่อรายการ และต้องเสียค่าธรรมเนียมในการเสนอซื้อและขายตราสารหนี้ในตลาดซื้อคืน แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย ร้อยละ 0.06 จากยอดซื้อขาย
TF005591
อ้อเกือบลืมไปอีกกลุ่มที่ได้รับดอกเบี้ยตํ่าขนาดนี้ เป็นผู้ประกอบการ SMEs ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่รัฐบาลลุงตู่พล.อ.ประยุทธ์ นี่แหละจัดสินเชื่อที่ช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs เป็นพิเศษ ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงิน 1,000 ล้านบาท คิดดอกเบี้ยเพียง 1.5%

แม้แต่ผู้ประกอบการที่จนในพริบตาจากอุทกภัย รัฐบาลยังจัดเงินให้ 5,000 ล้านบาท แต่คิดดอกเบี้ย 3% แล้วยักษ์ใหญ่มือถือ 2 ราย ทั้ง “เอไอเอส-ทรู” นี่เป็นใคร ทำไมจะเบี้ยวค่างวดที่ชนะการประมูลแล้วรัฐบาลจะเข้าไปช่วย และคิดค่าปรับตํ่าแสนตํ่า1.5-2%

ขณะที่ผู้ใช้มือถือหากค้างชำระหนี้ค่างวดเขาคิดดอกเบี้ยแสนแพง แถมยังตัดสัญญาณเข้าให้อีก
ไม่เชื่อท่านนายกฯลุงตู่ รองนายกฯ ลุงป้อม ยัน ผบ.ทบ.ลองค้างค่างวดจ่ายมือถือสิ...ท่านจะรู้ว่าเป็นอย่างไร

..............................
คอลัมน์ | ทางออกนอกตำรา หน้า 6 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3363 ระหว่าง วันที่ 6-9 พ.ค.2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง.......


[caption id="attachment_278956" align="aligncenter" width="503"] ทางออกนอกตำรา | อย่าใช้ ม.44 ลักหลับคนไทยอุ้มมือถือ ทางออกนอกตำรา | อย่าใช้ ม.44 ลักหลับคนไทยอุ้มมือถือ[/caption]

[caption id="attachment_278957" align="aligncenter" width="503"] ทางออกนอกตำรา : อุ้ม “ทรู-เอไอเอส” ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร ทางออกนอกตำรา : อุ้ม “ทรู-เอไอเอส” ยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร[/caption]

[caption id="attachment_278958" align="aligncenter" width="503"] ทางออกนอกตำรา : จะอุ้มชู 2 ค่ายยักษ์มือถือ หาหอกพระแสงอันใดพี่เอย... ทางออกนอกตำรา : จะอุ้มชู 2 ค่ายยักษ์มือถือ หาหอกพระแสงอันใดพี่เอย...[/caption]