ที่นี่ไม่มีความลับ : 11 ปี AIS กำไรท่วมทุน ไฉน กสทช.ต้องอุ้มอีก!

04 พ.ค. 2561 | 12:00 น.
4548548 ข้ออ้างหลักของ 2 ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ที่จะขอให้ "ลุงตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะหัวหน้าคสช.พักการชำระหนี้ค่าใบอนุญาตที่แข่งประมูลออกไป 3 ปี เพราะว่าไม่มีเงินที่จะไปขยายโครงข่ายหรือประมูลแข่งขันในคลื่น 1800 ที่จะมีขึ้นราวเดือนสิงหาคมนี้ ดูจะเป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นยาก

โดยเฉพาะค่าย AIS หรือ ADVANC ถ้าดูผลประกอบการย้อนหลังไป 11 ปี หลังจากกองทุน เทมาเส็กโฮลดิ้ง แห่งสิงคโปร์ เข้าซื้อหุ้น SHIN จำนวน 1,487,740,000 หุ้น หรือคิดเป็น 49.595% ของหุ้น SHIN จาก “ตระกูลชินวัตร” ในราคาหุ้นละ 49.25 บาท จ่ายเงินลงทุนไปทั้งสิ้น 73,271 ล้านบาทเศษ ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2549 ต่อมาเปลี่ยนชื่อจาก SHIN เป็น INTUCH กลุ่มเทมาเส็กปันผลกลับสิงคโปร์ ไปเกินกว่าเงินลงทุน แถมเงินที่ลงทุนยังอยู่ครบ

จากการตรวจสอบข้อมูลในตลาดกลักทรัพย์ 11 ปี ที่ผ่านมา ADVANC เจ้าของแบรนด์ AIS จ่ายปันผล 100 เปอร์เซ็นต์ ของกำไร (ไม่เก็บเงินไว้เป็นกำไรสะสมเพื่อการลงทุน) รวมปันผลไป 3.54 แสนล้านบาท

ลองคิดดู เทมาเส็ก ถือหุ้นผ่าน INTUCH จะขนเงินกลับสิงคโปร์ไปแล้วเท่าไหร่ พอมาวันนี้ถึงเวลาต้องลงทุนเพิ่มกลับโอดครวญขอความช่วยเหลือจากรัฐ ซึ่งนั่นก็คือการเอาเงินของประชาชนทั้งประเทศ ไปช่วยเหลือนั่นเอง (แบบนี้จะง่ายไปมั้ย)
1525433458336 บริษัทมหาชน มีวิธีหาเงินลงทุนได้หลายรูปแบบ ทั้งเอาผลกำไรที่สะสมไว้มาลงทุน (กรณีนี้ไม่มีกำไรสะสมเพราะปันผลออกไปหมด) 2 กู้เงินมาลงทุนใหม่ ทั้งการกู้จากสถาบันการเงินหรือออกหุ้นกู้ด้วยศักยภาพของบริษัทเอง กรณีอย่าง ADVANC ถือเป็นบริษัทชั้นนำเรตติ้งระดับ AAA ที่ใครก็อยากให้กู้หรือออกหุ้นกู้เองก็ไม่ยากย็น หรือวิธีสุดท้าย เพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นความชอบธรรมยิ่งเพราะมีการปันผลไปมากมายเกินเงินลงทุน ในระยะ 11ปีที่ผ่านมา บวกลบคูณหาร ปันผลกันไปแล้วคิดเป็น 2,970 บาทต่อหุ้น ถ้าต้องเจียดเงินเพิ่มทุนเพื่อขยายกิจการก็ไม่น่าเดือดร้อนอะไร ดีกว่าร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐที่ทำให้คิดไปได้ว่า “นี่เป็นการเอาเปรียบประชาชนมั้ย”
จะอ้างเลียนแบบทีวีดิจิตอลก็ใช่ที่ เพราะอุตสาหกรรมทีวีดิจิตอล เป็นหนี้เป็นสิน บางรายถึงขนาดต้องเลิกกิจการ แต่กิจการโทรศัพท์มือถือยังอู้ฟู้ พอที่จะลงทุนขยายกิจการหาประโยชน์จากธุรกิจนี้ได้ต่อแน่นอนประโยชน์สูงสุดพ่อค้าย่อมอยากได้ แต่มันควรพองาม มากเกินไปสังคมก็คงไม่ยอม ต้องยึดหลัก “พอเพียง” ไว้บ้าง

เปิดข้อมูลย้อนหลังให้ดู ไม่ได้ไปว่าอะไรคนที่รวยจากกำไรในกิจการมือถือ แต่กำลังจะให้คนใน “กสทช.” ที่แอบไป “ฮั้ว” จนเอาข้อมูลเท็จ ไปบอกคนใน “คสช.” ให้ออก ม.44 อุ้มคนรวยได้ตระหนักว่า วันนี้สังคมสามารถเข้าถึงและสืบค้นข้อมูลข่าวสาร (อันนี้ต้องขอบคุณที่มาจากระบบอินเตอร์เน็ตที่รวดเร็วและง่ายต่อการค้นหาข้อมูล) ทำให้นำข้อมูลมาตีแผ่ให้ตาสว่างและร่วมกันตรวจสอบการทำงานของ กสทช. เพื่อป้องกันไม่ให้ มี “การสมรู้ร่วมคิดอันเลวร้าย” ผ่านไปได้

................................
คอลัมน์ : ที่นี่ไม่มีความลับ |โดย...เอราวัณ | หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3363 ระหว่าง วันที่ 6-9 พ.ค.2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว