บิลท์แลนด์เปิดกลยุทธ์รุกขาย“เลสโต”คอนโดแต่งครบเป้าโกยยอดพันล้าน

04 พ.ค. 2561 | 11:00 น.
บิลท์ แลนด์ เปิดกลยุทธ์รุกตลาดอสังหาฯ ปี 61 มั่นใจโกยรายได้สูงกว่า 1,000 ล้านบาท และอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมยื่นไฟล์ลิ่งนำบริษัทฯ เข้าตลาดหลักทรัพย์ช่วงไตรมาส 4 เร่งปิดการขายห้องชุดสร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่ แต่งครบ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง จัดงาน OPEN HOUSE 19-20 พ.ค.นี้ พบโปรโมชั่นสุดคุ้ม ฟรีทุกค่าใช้จ่ายในวันโอน หรือฟรีเครื่องใช้ไฟฟ้า ราคาเริ่มต้น 1.45 ล้านบาท

นายชัยรัตน์ ธรรมพีร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) เผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจอสังหาริมทรัพย์ปี 2561 มีแนวโน้มเติบโตไปในทิศทางที่ดีขึ้นมากกว่าปีก่อน เนื่องจากมีปัจจัยที่ดีขึ้นทั้งจากการส่งออก การท่องเที่ยว อัตราดอกเบี้ยทรงตัวค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ภาครัฐยังมีการลงทุนโครงการด้านสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ต่อเนื่อง จึงเป็นสัญญาณที่ดีของภาคอสังหาริมทรัพย์ ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่น และเริ่มกลับเข้าสู่การตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับปัจจุบันชาวต่างชาติหันมาซื้อคอนโดมิเนียมในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เพราะราคายังถูกมากเมื่อเทียบกับราคาในประเทศของเขา

chairat

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จีน สิงคโปร์ ฮ่องกง คอนโดมิเนียมที่ยังได้รับความสนใจอยู่จะเป็นบริเวณแนวรถไฟฟ้า รถไฟฟ้าใต้ดินทั้งที่สร้างเสร็จแล้วและส่วนต่อขยาย ในขณะที่กำลังซื้อที่ดินของผู้ประกอบการที่จะนำมาพัฒนาโครงการยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เพราะมีแหล่งเงินทุนจากต่างชาติเข้ามาลงทุนร่วมกับคนไทยในการประกอบธุรกิจคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะ ญี่ปุ่น จีน สิงคโปร์ ส่งผลให้ราคาที่ดินดิบมีราคาสูงต่อเนื่อง ทำให้ในอนาคตราคาคอนโดมิเนียมจะมีราคาสูงเพิ่มขึ้นตาม ตลาดก็จะมีการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดที่รองรับกำลังซื้อของคนต่างชาติ

สำหรับโครงการล่าสุดของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) คือ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง เป็นคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จแล้ว แต่งครบพร้อมเข้าอยู่ บนเนื้อที่ 7 ไร่เศษ เป็นคอนโดมิเนียมแบบ Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร จำนวน 786 หน่วย มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในทำเลที่มีศักยภาพสูง ห่างจาก BTS สถานีสำโรงเพียง 400 เมตร และในอนาคตสถานีนี้จะเป็นสถานี Interchange เชื่อมต่อเพื่อเปลี่ยนไปสายสีเหลืองที่วิ่งไปทาง รัชดา-ลาดพร้าว ได้ด้วย

lesto

ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัท บิลท์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) ที่มีมากว่า 10 ปี และประสบความสำเร็จอย่างสูงในการปิดขายโครงการต่างๆ ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้นในปี 2561 บริษัทจึงตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 1,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2560 โดยบริษัทเน้นที่อัตราการทำกำไรให้สูงขึ้น เนื่องจากโครงการต่างๆ ที่มีอยู่นั้น บริษัทได้มีการปรับขึ้นราคาขายไปแล้ว 5-10% โดยเฉพาะโครงการห้องชุดซึ่งอยู่ในแนวรถไฟฟ้า เช่น โครงการ “เลสโต คอนโด สุขุมวิท 113” สถานีสำโรง ซึ่งเป็นย่านชุมชนที่ยังมีความต้องการที่พัก อาศัยค่อนข้างสูง

โดยเป็นโครงการที่มีความคุ้มค่าเงินสูงสุดในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย และเป็นคอนโดมิเนียมเพียงไม่กี่แห่งที่มีรถไฟฟ้าผ่านถึง 2 เส้นทาง (สายสีเขียวและสายสีเหลือง) เพื่อความสะดวกในการเลือกเดินทาง หรือกรณีใช้รถยนต์ส่วนตัวสามารถใช้ถนนสุขุมวิท หรือทางด่วนเข้าสู่กรุงเทพฯ ชั้นในได้สะดวกเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีเป้าหมายที่จะนำ “บิลท์ แลนด์” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายในปี 2562 เพื่อรองรับแผนการขยายการลงทุนในอนาคต

lesto2

“สำหรับแผนการกระจายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของ “บิลท์ แลนด์” นั้น บริษัทฯ จะเพิ่มทุนอีกจำนวน 100 ล้านหุ้น เพื่อขายให้แก่ประชาชนทั่วไป ส่วนราคาเสนอขายก็จะต้องรอปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงินก่อน ปัจจุบันธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ยังเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลกำไรได้สูง เนื่องจากเรามีความเชี่ยวชาญในการบริหารบริษัทอสังหาริมทรัพย์ มองขาดในเรื่องทำเล คุณภาพของงานก่อสร้าง ครอบคลุมไปถึงการบริหารจัดการหลังการขายที่มีบริษัท บิลท์ ฮาร์ท จำกัด ช่วยในการบริการลูกค้า จัดการบริหารอาคารนิติบุคคล และคอยรองรับการบริหารห้องชุดให้ลูกค้าในกรณีที่มีความต้องการขายต่อหรือให้เช่า

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

รวมทั้งรู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าของเราเป็นอย่างดี สำหรับโครงการในอนาคตจะเน้นไปที่การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แนวสูงเป็นหลักที่ระดับราคา 2-5 ล้านบาท เพื่อกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้ชีวิตอิสระ ปลอดภัย สะดวกสบายในการดูแลรักษา และง่ายต่อการเดินทาง ส่วนแผนการร่วมทุนบริษัทข้ามชาตินั้น บริษัทยังเปิดกว้างอยู่ตลอด ที่ผ่านมาได้มีหลายบริษัทในประเทศเอเชีย เช่น สิงคโปร์ ญี่ปุ่น ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตลาดไปสู่ลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยในการพิจารณาผู้ร่วมทุนนั้น บริษัทให้น้ำหนักเรื่องเม็ดเงินลงทุนและแนวทางการทำงานร่วมกันว่าสามารถร่วมกันได้หรือไม่เป็นหลัก ส่วนในเรื่องเทคโนโลยีหรือโนว์ฮาวต่างๆ นั้นเป็นเรื่องรองลงมา” นายชัยรัตน์ กล่าว

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว