ครม.อนุมัติหลักการร่างก.ม.ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับฯ
ครม.อนุมัติหลักการร่างก.ม.ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับฯ
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) (1พ.ค.61) มีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งเป็นการกำหนดลักษณะความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ การกำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ กำหนดมาตรการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการใช้แรงงานบังคับ กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ และกำหนดบทลงโทษที่มีความเหมาะสมกับการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะต้องร่วมลงนามในสัตยาบันพิธีสาร ค.ศ.2014 ส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ.1930 ภายในเดือนมิถุนายน 2561 โดยพิธีสารฉบับนี้กำหนดพันธกรณีเฉพาะในการป้องกันการใช้แรงงานบังคับ การคุ้มครองเหยื่อ และการเข้าถึงการเยียวยา ทั้งยังกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องมีนโยบายและแผนปฏิบัติการของประเทศโดยมีการหารือกับองค์กรนายจ้างและองค์กรแรงงานด้วย และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินการให้สัตยาบันดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ เพื่อรองรับการให้สัตยาบัน ซึ่ง รมว.แรงงาน จะเดินทางไปให้สัตยาบันในพิธีสารดังกล่าวในเดือนมิถุนายนนี้ พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าว
ความสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการคัดแยกผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการค้ามนุษย์ หรือเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานจากการใช้แรงงานบังคับ รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับเพื่อใช้ในการช่วยเหลือเยียวยา การคุ้มครองความปลอดภัยผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ หรือช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับในต่างประเทศ ให้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร หรือถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ จะต้องมีการออกกฎหมายลำดับรองอีก 5 ฉบับซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังจากที่กฎหมายป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับมีผลบังคับใช้
พ.อ.อธิสิทธิ์ ไชยนุวัติ ผู้ช่วยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) (1พ.ค.61) มีมติอนุมัติในหลักการร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ พ.ศ.... ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ ซึ่งเป็นการกำหนดลักษณะความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ การกำหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ กำหนดมาตรการช่วยเหลือและคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการใช้แรงงานบังคับ กำหนดให้มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ และกำหนดบทลงโทษที่มีความเหมาะสมกับการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ
ทั้งนี้ ประเทศไทยจะต้องร่วมลงนามในสัตยาบันพิธีสาร ค.ศ.2014 ส่วนเสริมอนุสัญญาฉบับที่ 29 ว่าด้วยแรงงานบังคับ ค.ศ.1930 ภายในเดือนมิถุนายน 2561 โดยพิธีสารฉบับนี้กำหนดพันธกรณีเฉพาะในการป้องกันการใช้แรงงานบังคับ การคุ้มครองเหยื่อ และการเข้าถึงการเยียวยา ทั้งยังกำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องมีนโยบายและแผนปฏิบัติการของประเทศโดยมีการหารือกับองค์กรนายจ้างและองค์กรแรงงานด้วย และเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการดำเนินการให้สัตยาบันดังกล่าว จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับ เพื่อรองรับการให้สัตยาบัน ซึ่ง รมว.แรงงาน จะเดินทางไปให้สัตยาบันในพิธีสารดังกล่าวในเดือนมิถุนายนนี้ พ.อ.อธิสิทธิ์กล่าว
ความสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ จะช่วยแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการคัดแยกผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ตามกฎหมายว่าด้วยการค้ามนุษย์ หรือเป็นการละเมิดสิทธิแรงงานจากการใช้แรงงานบังคับ รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับเพื่อใช้ในการช่วยเหลือเยียวยา การคุ้มครองความปลอดภัยผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับ หรือช่วยเหลือผู้เสียหายจากการกระทำความผิดฐานใช้แรงงานบังคับในต่างประเทศ ให้เดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักร หรือถิ่นที่อยู่ ทั้งนี้ จะต้องมีการออกกฎหมายลำดับรองอีก 5 ฉบับซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน หลังจากที่กฎหมายป้องกันและปราบปรามการใช้แรงงานบังคับมีผลบังคับใช้
