กรุงศรีคาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.70 บ.ดอลลาร์ จับตาเฟดประเมินเศรษฐกิจสหรัฐ

30 เม.ย. 2561 | 07:42 น.
กรุงศรีคาดเงินบาทสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.70 บ.ดอลลาร์ จับตาเฟดประเมินเศรษฐกิจสหรัฐ

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) มีมุมมองต่อทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้ว่า มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.70 บาทต่อดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดอ่อนค่าที่ 31.58 บาทต่อดอลลาร์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วโดยเงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 เดือน และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในประเทศปรับตัวสูงขึ้น สอดคล้องกับทิศทางภูมิภาค ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรไทยด้วยมูลค่า 8.5 พันล้านบาท และ 2.12 หมื่นล้านบาทตามลำดับ

เงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ระยะ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นผ่านระดับ 3.00% ส่วนเงินยูโรเผชิญแรงขายเพิ่มเติมหลังธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังมีท่าทีระมัดระวังต่อการปรับสมดุลนโยบายการเงินในระยะถัดไป ขณะที่สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีที่คลี่คลายลงลดความต้องการสกุลเงินที่ปลอดภัยอย่าง เงินเยน และเงินฟรังก์สวิส

กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่าตลาดจะให้ความสนใจกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) วันที่ 1-2 พฤษภาคม แม้เป็นที่คาดการณ์โดยทั่วไปว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในรอบนี้หลังจากที่เฟดได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แต่นักลงทุนจะจับตาการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ รวมถึงสภาวะทางการเงินของสหรัฐฯ จากผู้ดำเนินนโยบายท่ามกลางการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีภาคบริการ การจ้างงานนอกภาคเกษตร และการเติบโตของค่าจ้างจะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดการเงินเช่นกัน

สำหรับปัจจัยในประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คงประมาณการอัตราการขยายตัวของจีดีพีปี 2561 ที่ 4.2% แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์มูลค่าการส่งออกปีนี้ว่าจะเติบโต 8.0% จากเดิมที่เคยคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 6.6% อย่างไรก็ตาม สศค.ปรับลดคาดการณ์การลงทุนภาครัฐเป็นขยายตัว 8.9% จากประมาณการเดิมที่ 11.8% ส่วนในสัปดาห์นี้ นักลงทุนจะจับตาตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเมษายนซึ่งเราคาดว่าน่าจะบ่งชี้ถึงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตามภาวะเศรษฐกิจและราคาน้ำมันดิบ แต่ยังไม่เพียงพอที่จะหนุนให้มีการคาดการณ์ต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ขณะที่เราประเมินว่าการจ่ายเงินปันผลของกลุ่มบริษัทจดทะเบียนไปยังบริษัทแม่ในต่างประเทศจะจำกัดการแข็งค่าของเงินบาทได้บ้างในระยะสั้น e-book-1-503x62