ผลสำรวจซีอีโอบจ.กังวลค่าเงินผันผวนบริหารความเสี่ยงล๊อคต้นทุน ดบ.คงที่

27 เม.ย. 2561 | 08:11 น.
ผลสำรวจซีอีโอบริษัทจดทะเบียน ห่วง 3ปัจจัยเสี่ยงค่าเงินผันผวน ,ความชัดเจนการเลือกตั้ง และการปรับขึ้นค่าแรง ซีอีโอ 74%มั่นใจเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4% ทุกหมวดอุตสาหกรรมโตดีกว่าปีที่แล้ว พร้อมปรับตัวบริหารต้นทุนล๊อกต้นทุนอัตราดอกเบี้ยคงที่ 2-3 ปี

ผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน ( CEO Survey ) ซึ่งจัดโดยฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งที่10 โดยมีบจ.ที่ร่วมตอบแบบสอบถามจำนวน115บริษัทคิดเป็น46%ของมูลค่าตลาดรวม

set1

นางสาวสุมิตรา ตั้งสมวรพงษ์ ฝ่ายวิจัยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวสรุปผลสำรวจว่า ซีอีโอมีมุมมองบวกต่อเศรษฐกิจไทยปีนี้โดย74% ของซีอีโอมองเศรษฐกิจไทยดีขึ้น (เทียบผลสำรวจครั้งก่อนมี 43% ) และคาดเศรษฐกิจจะเติบโต 3-4% ปัจจัยสนับสนุนมาจากการท่องเที่ยวนโยบายการค้าการใช้จ่ายภาครัฐ

ทั้งนี้ บจ.ได้รับผลบวกจากการเติบโตของการท่องเที่ยว ผลตอบแทนรวมจากการลงทุนในกลุ่ม Tourism linked sector ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สูงกว่าผลตอบแทนรวมของตลาด โดยในปี 2560 กลุ่มTourism linked sector มีผลตอบแทนโดยรวม 28.4% ขณะที่ Set อยู่ที่ 16.7%

ส่วนปัจจัยเสี่ยงผลสำรวจอันดับแรกคือ ความผันผวนค่าเงินบาทโดยนับจากสิ้นปี 2559 ถึงเดือนมีนาคม 2561 เงินบาทแข็งค่า 12.72% หรือจาก 36 บาทมาเป็น 31.42 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ฯ รองมาคือ ไทม์ไลน์การเลือกตั้ง ซึ่งเป็นได้ทั้งปัจจัยบวกและลบและการปรับขึ้นค่าแรงงาน
โปรโมทแทรกอีบุ๊ก 64% ซีอีโอ คาดว่าภาวะอุตสาหกรรมของตนจะปรับตัวดีขึ้น (จากครั้งก่อน45%) โดยดีขึ้นในทุกหมวดอุตสาหกรรม และ75%ของซีอีโอ คาดว่าผลประกอบการปี 2561ของบริษัทตนจะเติบโตดี (จากครั้งก่อน61% ) และ50%ของซีอีโอคาดว่ารายได้จะเติบโตมากกว่า6%

บจ.ส่วนใหญ่ยังวางแผนจะขยายลงทุนในปี 2561โดย 49% ของซีอีโอ มีแนวโน้มขยายการลงทุนในต่างจังหวัดในธุรกิจการเกษตร ,การท่องเที่ยวและสันทนาการ ,ของใช้ในครัวเรือน และ50%ของซีอีโอมีแนวโน้มขยายการลงทุนในต่างประเทศ อาทิในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์,วัสดุก่อสร้าง,บริการรับเหมาก่อสร้าง ,เหมืองแร่ ขณะที่แนวโน้มการส่งออก 46% ของซีอีโอที่ทำธุรกิจส่งออกคาดส่งออกบริษัทปีนี้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ส่วนข้อกังวลและการปรับตัวของบจ.คือ การที่พฤติกรรมผู้บริโภคและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงส่งผลกระทบต่อการดำเนินงาน, ปัญหาแรงงานโดยเฉพาะการขาดแคลนแรงงานทีมีทักษะ,ความล่าช้าของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานไม่ทันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ,นโยบายการส่งเสริมการลงทุนในประเทศกลุ่มCLMV ของสถาบันการเงินไม่ชัดเจน,กำลังซื้อที่ลดลง

เมื่อถามถึงแนวทางการปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นซีอีโอระบุ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และกระบวนการดำเนินธุรกิจเช่นร่วมลงทุนในธุรกิจใหม่หาผู้ร่วมทุนที่แข็งแกร่งมาเสริม ขยายธุรกิจไปยังอาเซียนปรับกระบวนการรองรับในเรื่องออนไลน์แพลตฟอร์ม ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารเงิน/บริหารความเสี่ยง โดยควบคุมต้นทุนทางการเงินล๊อคอัตราดอกเบี้ยคงที่ในระยะ2-3ปีบริหารความเสี่ยงเกี่ยวกับความผันผวนของค่าเงินบาท

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว