นันยางรั้งเบอร์1รองเท้านักเรียนรุกจ.หัวเมืองรองบูมกำลังซื้อก่อนเปิดเทอม
นันยางเดินหน้าเสริมแกร่งด้านการผลิต พัฒนาระบบบริหารจัดการภายใน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต รองรับการเติบโตในส่วนแบ่งการตลาดรองเท้านักเรียน พร้อมอัดงบการตลาด 70 ล้านบาท รุกตลาดหัวเมืองรอง ส่งสินค้าคลุมทุกเซกเมนต์นักเรียน-นักศึกษา บูมกำลังซื้อช่วงปิดเทอม ตั้งเป้าปี 61 โต 5-7% พร้อมคงความเป็นผู้นำตลาดรองเท้านักเรียนไทย
นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด เผยว่า นันยางได้วางแผนจัดการด้านการผลิตระยะเวลา 5 ปี (2559-2563) สำหรับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการด้านการขายและการกระจายสินค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ทันต่อความต้องการ และรองรับตลาดกลุ่มรองเท้านักเรียนมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว
“ทั้งนี้โรงงานนันยางยังคงรองรับการผลิต ณ ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้นันยางยังรักษามาตรฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ตามที่นันยางทำมาโดยตลอด รวมถึงได้พัฒนาประสิทธิภาพของพนักงาน เพื่อรองรับการผลิตที่มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมที่มียอดจำหน่ายสูงสุด นันยางสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างแน่นอน” นายชัยพัชร์ กล่าว
ด้านนายจักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา นันยางยังคงความเป็นผู้นำตลาดด้านธุรกิจรองเท้านักเรียนของไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ประมาณ 42% จากยอดขายของรองเท้าผ้าใบนักเรียนรุ่น 205-S และยอดขายของ ‘นันยาง ชูการ์’ ที่ได้กระแสตอบรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสินค้าหลักของนันยาง ทั้งนี้ในปีนี้นันยางตั้งเป้ายอดขายเติบโตประมาณ 5-7%
ทั้งนี้ภาพรวมตลาดของธุรกิจของรองเท้านักเรียนในไทยปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีภาวะที่ดีขึ้น และยอดขายในช่วงไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโตที่สูง จากปัจจัยบวกต่างๆ อาทิ ความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ผู้ปกครองมีความมั่นใจในการจับจ่ายอุปกรณ์การเรียน ตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ต่อเนื่องไปจนถึงเปิดเทอม โดยคาดว่าตลาดน่าจะเติบโตประมาณ 3% ทั้งนี้นันยางได้เตรียมสินค้า เพื่อรองรับการขายในช่วงปิดเทอมและตลอดทั้งปีซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการของตลาด
โดยนันยางมีสินค้ารองเท้าทั้งสิ้น 4 รุ่น ประกอบด้วย 1. รุ่น 205-S สินค้าหลักที่ครอบคลุมตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนทั้งหมด 2. รุ่น Have Fun สำหรับนักเรียนประถมศึกษา อายุ 6-9 ปีโดยเฉพาะ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน 3.รุ่น Sugar รองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิง ที่ได้รับกระแสความนิยมและยอดขายดีอย่างต่อเนื่อง และ 4.รุ่น Zafari รุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับกลุ่มนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัย, สายอาชีพ และบุคคลทั่วไป
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ นันยางได้จัดกลุ่มสินค้าอย่างลงตัว ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด และตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนกระจายสินค้าไปยังร้านค้า และช่องทางการขายต่างๆ ทั้งร้านค้าดั้งเดิม โมเดิร์นเทรด และทางออนไลน์ ที่มีความพร้อมรับมือกระแสการจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นช่วงที่มียอดขายสูงสุด นอกจากนี้ยังได้วางกลยุทธ์เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าจังหวัดหัวเมืองรองที่ยังมีศักยภาพและโอกาสในการขยายตัวของตลาด ด้วยการส่งเสริมการขายกับตัวแทนจำหน่ายและร้านค้า รวมถึงผู้บริโภค ทั้งนี้จะเน้นไปที่สินค้า ‘นันยางสีน้ำตาล หรือนันยาง บราวน์ (Nanyang Brown)’ โดยถือเป็นสินค้าหลักที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดหัวเมืองรอง ซึ่งใช้งบการตลาดรวมทั้งสิ้น 70 ล้านบาท
นายชัยพัชร์ ซอโสตถิกุล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท นันยางอุตสาหกรรม จำกัด เผยว่า นันยางได้วางแผนจัดการด้านการผลิตระยะเวลา 5 ปี (2559-2563) สำหรับการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตยิ่งขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการด้านการขายและการกระจายสินค้าให้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อให้ทันต่อความต้องการ และรองรับตลาดกลุ่มรองเท้านักเรียนมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ซึ่งการพัฒนากระบวนการผลิตสินค้ามีความสำคัญอย่างยิ่งในการผลิต เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว
“ทั้งนี้โรงงานนันยางยังคงรองรับการผลิต ณ ปัจจุบันได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้นันยางยังรักษามาตรฐานการผลิตที่มีประสิทธิภาพ ตามที่นันยางทำมาโดยตลอด รวมถึงได้พัฒนาประสิทธิภาพของพนักงาน เพื่อรองรับการผลิตที่มีมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงปิดเทอมที่มียอดจำหน่ายสูงสุด นันยางสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างแน่นอน” นายชัยพัชร์ กล่าว
ด้านนายจักรพล จันทวิมล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและขาย บริษัท นันยางมาร์เก็ตติ้ง จำกัด กล่าวว่า ในปี 2560 ที่ผ่านมา นันยางยังคงความเป็นผู้นำตลาดด้านธุรกิจรองเท้านักเรียนของไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดอยู่ประมาณ 42% จากยอดขายของรองเท้าผ้าใบนักเรียนรุ่น 205-S และยอดขายของ ‘นันยาง ชูการ์’ ที่ได้กระแสตอบรับอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นสินค้าหลักของนันยาง ทั้งนี้ในปีนี้นันยางตั้งเป้ายอดขายเติบโตประมาณ 5-7%
ทั้งนี้ภาพรวมตลาดของธุรกิจของรองเท้านักเรียนในไทยปีนี้มีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจไทยมีภาวะที่ดีขึ้น และยอดขายในช่วงไตรมาสแรกมีอัตราการเติบโตที่สูง จากปัจจัยบวกต่างๆ อาทิ ความเชื่อมั่นของผู้ปกครอง และกิจกรรมส่งเสริมการขาย ส่งผลให้ผู้ปกครองมีความมั่นใจในการจับจ่ายอุปกรณ์การเรียน ตั้งแต่ช่วงหลังสงกรานต์ต่อเนื่องไปจนถึงเปิดเทอม โดยคาดว่าตลาดน่าจะเติบโตประมาณ 3% ทั้งนี้นันยางได้เตรียมสินค้า เพื่อรองรับการขายในช่วงปิดเทอมและตลอดทั้งปีซึ่งจะเพียงพอต่อความต้องการของตลาด
โดยนันยางมีสินค้ารองเท้าทั้งสิ้น 4 รุ่น ประกอบด้วย 1. รุ่น 205-S สินค้าหลักที่ครอบคลุมตลาดรองเท้าผ้าใบนักเรียนทั้งหมด 2. รุ่น Have Fun สำหรับนักเรียนประถมศึกษา อายุ 6-9 ปีโดยเฉพาะ ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน 3.รุ่น Sugar รองเท้าผ้าใบสำหรับผู้หญิง ที่ได้รับกระแสความนิยมและยอดขายดีอย่างต่อเนื่อง และ 4.รุ่น Zafari รุ่นใหม่ล่าสุด สำหรับกลุ่มนิสิต นักศึกษามหาวิทยาลัย, สายอาชีพ และบุคคลทั่วไป
สำหรับกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในปีนี้ นันยางได้จัดกลุ่มสินค้าอย่างลงตัว ครอบคลุมทุกกลุ่มตลาด และตรงตามความต้องการของผู้บริโภค ตลอดจนกระจายสินค้าไปยังร้านค้า และช่องทางการขายต่างๆ ทั้งร้านค้าดั้งเดิม โมเดิร์นเทรด และทางออนไลน์ ที่มีความพร้อมรับมือกระแสการจับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงปิดเทอม ซึ่งเป็นช่วงที่มียอดขายสูงสุด นอกจากนี้ยังได้วางกลยุทธ์เจาะกลุ่มตลาดลูกค้าจังหวัดหัวเมืองรองที่ยังมีศักยภาพและโอกาสในการขยายตัวของตลาด ด้วยการส่งเสริมการขายกับตัวแทนจำหน่ายและร้านค้า รวมถึงผู้บริโภค ทั้งนี้จะเน้นไปที่สินค้า ‘นันยางสีน้ำตาล หรือนันยาง บราวน์ (Nanyang Brown)’ โดยถือเป็นสินค้าหลักที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดหัวเมืองรอง ซึ่งใช้งบการตลาดรวมทั้งสิ้น 70 ล้านบาท
