ไทย-สหรัฐฯ กระชับสัมพันธ์ สานต่อและเสริมสร้างความร่วมมือใกล้ชิด ป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงทั้งสองประเทศ
- 26 เม.ย. 61 - พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พร้อมคณะ ได้เข้าพบและหารือข้อราชการกับ Miss Clair M. Grady รมช.กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิสหรัฐฯและคณะ ณ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (United States Department of Homeland Security : DHS ) เพื่อสานต่อและเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในมิติอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการทหาร
ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกัน ถึงความร่วมมือด้านความมั่นคงระหว่างกัน ในประเด็นความมั่นคงไซเบอร์ ความมั่นคงทางทะเล การต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเห็นพ้องที่จะกระชับและผลักดันความร่วมมือต่างๆ ให้แน่นแฟ้นและมีผลเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพื่อป้องกันภัยคุกคามต่างๆ ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของทั้งไทยและสหรัฐฯ นอกจากนั้นได้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์และรูปแบบการทำงานความมั่นคงร่วมกัน โดย Miss Clair M. Grady กล่าวย้ำว่า ความสำเร็จของการทำงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ 15 ปีที่ผ่านมา เกิดจากความมุ่งมั่นเป็นหนึ่งเดียวในการบูรณาการทำงานร่วมกันให้สำเร็จของทุกหน่วยงานด้านความมั่นคงร่วมกับภาคเอกชน และมีความจำเป็นต้องทำงานร่วมกันต่อไปกับอีกหลายประเทศ โดยพร้อมให้การสนับสนุนทำงานร่วมกับไทย พร้อมทั้งขอขอบคุณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่สนับสนุนการทำงานร่วมกันที่ผ่านมา
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวในตอนท้าย แสดงความขอบคุณ Miss Clair M. Grady ที่สนับสนุนผลักดันการกระชับความร่วมมือในการทำงานร่วมกันที่จะมีขึ้นให้ใกล้ชิดมากขึ้น โดยไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ ในการป้องกันและรับมือกับภัยคุกคามต่างๆ ที่อาจกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานระหว่างกันเป็นประโยชน์ยิ่ง ในการนำมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาระบบและโครงสร้างงานด้านความมั่นคงของไทยให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
นอกจากนั้น ระหว่าง 24-26 เม.ย. 61 พล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้ คณะทำงานด้านต่างๆ ได้ใช้โอกาสนี้ เดินทางไปประชุมสานต่อและเสริมสร้างความร่วมมือด้านต่างๆ ทั้งด้านความร่วมมือการบูรณาการข่าวกรองทางทะเล โดยผู้แทน ทร.และคณะ ได้ประชุมหารือร่วมกับ ผู้อำนวยการสำนักงานบูรณาการข่าวกรองทางทะเลแห่งชาติ (Nation Maritime Intelligence - Integration Office : NMIO) และเห็นพ้องร่วมกัน ในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองและข้อมูลข่าวสารทางทะเลร่วมกัน เพื่อร่วมกันดูแลความมั่นคงทางทะเลที่ถือเป็นความท้าทายที่ทุกประเทศต้องเผชิญร่วมกัน พร้อมกันนี้ สหรัฐฯได้ขอบคุณไทย ที่เข้าร่วมปฏิบัติการปราบปรามโจรสลัดบริเวณอ่าวเอเดน นอกชายฝั่งโซมาเลียที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการสะท้อนความร่วมมือระหว่างประเทศ ตอบสนองภัยคุกคามรูปแบบใหม่
ด้านความร่วมมือด้านแรงงาน โดยผู้แทนกระทรวงแรงงานและคณะ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับ ผู้แทนสำนักงานการต่อต้านการค้ามนุษย์ ถึงความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม หลังส่งรายงานความคืบหน้าการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ของไทยปี 60 พร้อมทั้ง ได้พบและหารือ กับ ผู้แทน Solidarity Center ซึ่งเป็นหน่วยงาน NGO เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล ถึงความพยายามและพัฒนาการการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะการขึ้นทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อการคุ้มครอง ดูแลสิทธิและสวัสดิการของแรงงานต่างด้าว และเพื่อการป้องกันและแก้ปัญหาการค้ามนุษย์
พล.ท.คงชีพ กล่าวโดยสรุปว่า ที่ผ่านมา การเดินทางเยือนสหรัฐฯ ทวิภาคีอย่างเป็นทางการ ของ รมว.กลาโหม ได้ว่างเว้นมาหลายสิบปี การเดินทางเยือนสหรัฐฯของพล.อ.ประวิตรฯ พร้อมคณะ ตามคำเชิญของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ครั้งนี้ ในภาพรวมถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งเป็นตอกย้ำความเชื่อมั่นและกระชับความสัมพันธ์แห่งมิตรภาพ ไทย-สหรัฐฯ ที่มีความร่วมมือทางทหารที่ใกล้ชิดแน่นแฟ้น และความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างกันในโอกาสครบความสัมพันธ์ 200 ปี รวมทั้งเป็นการเสริมและสานต่อความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงในมิติต่างๆ เพื่อแสวงหาแนวทางในการยกระดับความเป็นพันธมิตรระหว่างกันให้ก้าวหน้าและแนบแน่นเป็นรูปธรรมมากขึ้น หลังการเดินทางเยือนประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ ของ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ยังเป็นโอกาสในการประสานให้ข้อมูลถึงพัฒนาการและความพยายามอย่างมุ่งมั่นของไทยในการสะสางแก้ปัญหาวิกฤติของชาติ ที่สั่งสมมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน โดยมีความเชื่อมโยงและเป็นปัญหาที่มีความท้าทายที่ทุกประเทศต้องเผชิญร่วมกัน ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่า การตระหนักรู้และความร่วมมือกันอย่างเปิดกว้างและจริงใจจากทุกภาคส่วนในประเทศ ร่วมกับการแสวงความร่วมมือกับมิตรประเทศ จะเป็นส่วนสำคัญให้เราสามารถผ่านพ้นความยากลำบากไปด้วยกัน