'นายแบงก์' เห็นพ้องแนวคิดควบรวม ชี้ช่วยส่งเสริมการแข่งขันระดับภูมิภาค

25 เม.ย. 2561 | 10:28 น.
นายแบงก์ประสานเสียงหนุนควบรวมธนาคาร ชี้ ช่วยขยายฐานลูกค้ากว้าง-ยกระดับการแข่งขันระดับภูมิภาค ย้ำต้องมองจุดเด่น-โอกาส เหตุมีพื้นฐานแตกต่างกัน


[caption id="attachment_277259" align="aligncenter" width="466"] นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)[/caption]

-25 เม.ย.2561- นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตอนนี้ธนาคารกรุงเทพยังไม่มีการพูดคุยถึงแนวคิดการควบรวมกิจการ แต่หากมองภาพรวมการควบรวมธนาคารนั้น เพื่อให้มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมีความสามารถในการแข่งขัน และสามารถเสนอบริการที่ดีให้กับลูกค้าทั้งในนประเทศและระดับภูมิภาค รวมถึงช่วยให้ธนาคารไทยมีความสามารถและบทบาทในการแข่งขันระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี

สำหรับภาพรวมการขยายตัวของสินเชื่อในไตรมาสแรก จะเห็นว่าผลประกอบการไม่ได้แตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งมาจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จะช่วยผลักดัก การเติบโตของสินเชื่อธุรกิจที่ดีขึ้น ดังนั้น คาดว่าการเติบโตของธนาคารกรุงเทพในปีนี้ เป็นไปตามเป้าหมายที่คาดว่าขยายตัว 4-6% ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ( เอ็นพีแอล) ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย แต่มาจากหลายกลุ่ม ซึ่งไม่น่ากังวล

[caption id="attachment_277261" align="aligncenter" width="503"] นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย[/caption]

นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า การออกมาตรการภาษีของภาครัฐเพื่อจูงใจควบรวมธนาคาร มองว่า ภาครัฐเล็งเห็นความสำคัญ และถือว่าเป็นสิทธิประโยชน์ที่ดีที่ทำให้ธนาคารมีโอกาสควบรวมกิจการและได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี อย่างไรก็ดี ต้องดูความเหมาะสมและความพร้อมของแต่ละสถาบันการเงินแต่ละแห่ง เนื่องจากธนาคารมีจุดเด่น จุดแข็งและจุดด้อยแตกต่างกัน เพราะมีพื้นฐานที่ไม่เหมือนกัน

ทั้งนี้ ยอมรับว่าการควบรวมกิจการจะทำให้ขนาดของธนาคารใหญ่ขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีทำให้ฐานลูกค้าโตขึ้นตามไปด้วย และจะมีผลบวกกับลูกค้าที่หลากหลายมิติ โดยในท้ายที่สุดลูกค้าจะได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงบริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆให้ตรงกับความต้องการ เพราะในอนาคตธนาคารจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาทดแทนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน แทนสาขาธนาคาร ที่มีแนวโน้มลดลง

“แรงจูงใจที่ภาครัฐให้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี และมองว่าเป็นประโยชน์จากภาระจากภาษี แต่ต้องดูความเหมาะสมและความพร้อมด้วย เพราะธนาคารแตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของบุคลากร สาขา ฐานลูกค้า แต่ข้อดีมีฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น”

[caption id="attachment_277262" align="aligncenter" width="503"] นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์[/caption]

ด้านนายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การควบรวมกิจการเป็นเรื่องที่ดีทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่ง แต่ทั้งนี้จะต้องดูพื้นฐานของธนาคารแต่ละแห่งด้วย ซึ่งปัจจุบันธนาคารไทยพาณิชย์มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาเป็นตัวเสริมเพื่อให้ธนาคารเติบโตและแข็งแรง นอกจากนี้ ธนาคารจะเน้นการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากที่สุด โดยธนาคารอยู่ระหว่างการปรับทัพองค์กรสู่ดิจิตตอล จึงตั้งเป้าจะมีผู้ใช้บริการ SCB EASY เพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า ภายในระยะเวลา 2-3 ปี จากปัจจุบันมีผู้ใช้บริการอยู่ที่ 14 ล้านราย