บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 24 เมษายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
หากราคาหลุด 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์จำเป็นต้องชะลอการเปิดสถานะซื้อออกไปก่อน และควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาดีดตัวขึ้นแต่ไม่สร้างระดับสูงสุดใหม่จากวันก่อนหน้าได้สามารถถือสถานะขายต่อเพื่อรอทำกำไรบริเวณแนวรับ
ราคาขยับขึ้นก็มีแรงขายทำกำไรสลับออกมาเพิ่มขึ้นตาม ในระยะสั้นหากราคาพยายามจะดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านระดับ 1,337 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากไม่สามารถยืนเหนือแนวดังกล่าวได้อย่างมั่นคง จะเกิดแรงขายกดดันให้ราคาลงมาสู่เพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง โดยประเมินแนวรับที่ 1,313 ดอลลาร์ต่อออนซ์
แนวรับ 1,313 1,302 1,294
แนวต้าน 1,337 1,346 1,356
สรุป ราคาทองคำวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 10.88 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ของสกุลเงินดอลลาร์หลังอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงพุ่งขึ้นต่อ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรประเภทอายุ 10 ปีดีดตัวขึ้นใกล้แตะระดับ 3.00% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปีใกล้แตะระดับ 3.18% ขานรับการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ในตลาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)อาจเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าที่คาดไว้ ทั้งนี้ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน ด้านยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นเกินคาดที่ 1.1% ในเดือนมี.ค. อย่างไรก็ตามอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่พุ่งขึ้นจะทำให้ภาคเอกชนมีต้นทุนในการกู้ยืมมากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยกดดันสินทรัพย์เสี่ยงซึ่งอาจช่วยกระตุ้นแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีราคาบ้านโดย S&P/CS, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนเม.ย.จาก CB, ยอดขายบ้านใหม่และดัชนีภาคการผลิตจากเฟดริชมอนด์
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด