ทูเดอะนายน์/ฟราโครา จับเทรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางออร์แกนิกมาแรง เดินเครื่องนำเข้าสินค้าใหม่รุกตลาดเต็มที่ พร้อมอัดงบการตลาด 120 ล้าน สร้างแบรนด์ในไทย พร้อมผนึกบริษัทแม่จากญี่ปุ่นผุดโรงงานผลิต หวังเป็นฮับในภูมิภาคอาเซียน
นางสาวจิลมิกา เฉลิมสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทูเดอะนายน์ จำกัด และบริษัท ฟราโครา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางและสกินแคร์จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ"ว่า แนวโน้มการแข่งขันในตลาดเครื่องสำอางค์และสกินแคร์ในประเทศไทยไทยยังคงรุนแรงอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มสินค้าที่มาแรง คือ กลุ่มสินค้าเครื่องสำอางออร์แกนิกส์ที่ถือว่าเป็นเทรนด์ที่มาแรงทั่วโลก คาดการณ์ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า (ปี 2563) สัดส่วนสินค้าออร์แกนิกส์ในไทยจะเพิ่มเป็น 29.3% จากปัจจุบันที่มีอยู่ 25% ขณะที่ภาพรวมธุรกิจเครื่องสำอางและสกินแคร์ในช่วงระหว่างปี 2559-2563 คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตที่ 15-17% ต่อปี จากปัจจุบันที่มีมูลค่าตลาดกว่า 1 แสนล้านบาท
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ได้เตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่ในปีนี้อย่างต่อเนื่องราว 5-11 รายการ จากปัจจุบันที่มีแบรนด์นำเข้าเกือบ 10 แบรนด์ ทั้งในกลุ่มสกินแคร์ อาหารเสริม โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค โดยเริ่มต้นที่ผลิตภัณฑ์ "เชรี่ โคโค่ โฮลิสติก มาส์ค" มาส์คออร์แกนิกส์จากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในช่องทางวัตสันต์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ระดับกลาง-บน โดยวางเป้าหมายรายได้เฉพาะกลุ่มสินค้าดังกล่าวไว้ที่ 5-8 ล้านบาทในปีแรก
"ปัจจุบันเรามีแบรนด์ไวท์ อิชิโกะ สกินแคร์ ทำตลาดในไทยด้วยกัน 5 รายการ หรือมีสัดส่วน5% ซึ่งวางเป้าหมายว่าจะนำเข้ากลุ่มผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกส์จากญี่ปุ่นเข้ามาทำตลาดในไทยปีนี้เพิ่มเป็น 10-15%"
ทั้งนี้ในส่วนของการตลาด บริษัทได้เตรียมงบประมาณในการจัดกิจกรรมการตลาดในปีนี้ ทั้งสิ้น 120 ล้านบาท แบ่งเป็นงบประมาณสำหรับบริษัททูเดอะนายน์ 40 ล้านบาท และบริษัทฟราโครา (ประเทศไทย) 80 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับสัดส่วนพอร์ตของสินค้าในบริษัทที่มีจำนวนไม่เท่ากัน โดยจะให้ความสำคัญกับการทำตลาดไปที่ส่วนของผลิตภัณฑ์สกินแคร์ และผลิตภัณฑ์อาหารเสริม รวมไปถึงสินค้าสกินแคร์ออร์แกนิกส์และสกินแคร์สำหรับผู้ชายที่มีแนวโน้มเติบโตดีทั่วโลก โดยวางเป้าหมายการเติบโตปีนี้ 300%
"เนื่องจากไทยมีศักยภาพทางการเติบโตที่ดี อีกทั้งยังเป็นประเทศสำคัญที่จะกลายเป็นฐานการส่งออกทำ ให้บริษัทแม่ที่ประเทศญี่ปุ่นสนใจมาร่วมทุนเปิดโรงงานผลิตสกินแคร์ในไทย ที่จังหวัดระยอง เพื่อควบคุมการผลิตตามมาตรฐานของญี่ปุ่น โดยวางเป้าให้เป็นศูนย์กลางการผลิตของเอเชีย และจะเริ่มผลิตสินค้าล็อตแรกได้ในปีช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ในการผลิตสกินแคร์ตัวหลักของฟราโคร่า หลังจากนั้นเริ่มขยายตลาดไปเรื่อยๆรอการตอบรับและวางแผนการขยายตลาดไปในต่างประเทศอีกครั้ง"
นอกจากนี้ยังมีแผนขยายตลาดไปยังตลาดต่างประเทศในช่วงกลางปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นเวียดนาม อินโดนีเซีย เมียนมา และสิงคโปร์ เป็นต้น ขณะที่ในส่วนของตลาดจีนและฮ่องกง จะเข้าไปรุกตลาดเต็มตัวในช่วงเดือนมีนาคม หลังจากที่มีการเข้าไปทำตลาดมาบ้างแล้วในรูปแบบของตัวแทนจำหน่าย โดยเป้าหมายอีก 2 ปีข้างหน้าจะเดินหน้าขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์สกินแคร์และเครื่องสำอางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเน้นรูปแบบกลยุทธ์รุกตลาดภายใต้กลุ่มสินค้าที่มีนวัตกรรมขั้นสูง อาทิ กลุ่มผลิตภัณฑ์ชะลอริ้วรอย เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,125 วันที่ 24 - 27 มกราคม พ.ศ. 2559