นายกฯระบุ“ไทยแลนด์ 4.0”เดินควบคู่กับEarth Day

21 เม.ย. 2561 | 10:09 น.
นายกฯระบุ“ไทยแลนด์ 4.0”เดินควบคู่กับEarth Day

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน”ว่า “ วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายนของทุกปีนั้น เป็น “วันคุ้มครองโลก” หรือที่เรียกว่า Earth Day เป็นวันที่ “ชาวโลก” ควรจะได้ทบทวนว่า ที่ผ่านมาเราได้ทำอะไร ที่เป็นการทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งสุดท้ายก็จะส่งผลร้ายต่อพวกเราเองนะครับ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ในโลกนี้ด้วย เพราะเราอยู่ร่วมกันในโลกใบเดียวกัน

“มนุษย์” ได้แสดงออก หรือแสดงความรับผิดชอบ ในการดูแลรักษาโลกใบนี้ให้ดีขึ้น มากพอหรือยัง ทั้งนี้ การพัฒนาในยุค “ไทยแลนด์ 4.0” ตามนโยบายของรัฐบาลนี้นั้น จะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งมุ่งสร้างสมดุลให้เกิดขึ้น ระหว่างการพัฒนากับการอนุรักษ์ธรรมชาติ พร้อมกับสร้างคนไปด้วยนะครับ

แนวคิดในการจัดงานวันคุ้มครองโลกในปีนี้ ก็คือ “คนรุ่นใหม่ ลดขยะพลาสติก กู้วิกฤติโลกร้อน” ซึ่งอิงตามแนวคิดของเครือข่ายวันคุ้มครองโลกสากล ทั้งนี้ พลาสติกนั้น ผลิตง่าย ผลิตได้ครั้งละมากๆ ซึ่งส่วนใหญ่ เราใช้เพียงครั้งเดียวแล้วทิ้ง อย่างหลอดกาแฟ ถุงก๊อบแก๊บ กล่องโฟมใส่อาหาร

ที่น่ากลัวก็คือ ผลิตภัณฑ์พลาสติกใช้เวลาย่อยสลาย กว่า 450 ปีนะครับ พลาสติกทำมาจากน้ำมัน จากก๊าซธรรมชาติ ยิ่งเราใช้พลาสติกมากเท่าใด “ก๊าซเรือนกระจก” จากกระบวนการผลิต ก็จะยิ่งถูกปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศมากขึ้นเท่านั้น ถ้านำขยะพลาสติกไปเผา ก็จะทำให้เกิดสารพิษ เป็นอันตรายต่อสุขภาพของสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งทำให้โลกของเราร้อนขึ้นด้วย

tu21-4

วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา เราได้ประกาศ ยกเลิกการใช้ “พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม” (Cap Seal) ซึ่งภาคเอกชนหลายราย ก็ขานรับนโยบายเป็นอย่างดีนะครับ ที่เหลือก็ขอความร่วมมือด้วย เนื่องจากเมืองไทยเป็นเมืองร้อน เราผลิตขวดน้ำดื่มพลาสติก ปีละ 7,000 ล้านขวด

ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 6 ของประเทศที่ทิ้งขยะพลาสติกกลางทะเลมากที่สุดในโลก จากการผ่าซากสัตว์ทะเลที่ตาย พบว่าส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากสัตว์ทะเลเหล่านี้ กินพลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่มและพลาสติกอื่นๆ เข้าไปด้วย

หลายๆ ประเทศ ประกาศยกเลิกการใช้พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม เช่น สิงคโปร์ เกาหลี อิตาลี และอังกฤษ ถ้าผู้ผลิตน้ำดื่มทุกรายของเรานะครับร่วมมือกัน เราจะสามารถลดปริมาณขยะพลาสติกได้ถึง 2,600 ล้านชิ้นต่อปี ขอนะครับ ช่วยกันหน่อย อาจจะมีต้นทุนเพิ่มสักนิดหนึ่ง อย่าไปเพิ่มภาระผู้บริโภคแล้วกันนะครับ ขอให้ช่วยกันลดการใช้ถุงพลาสติกใส่อาหาร หรือใส่สินค้า อย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้นะครับ เราจึงจะสามารถแก้ปัญหาได้

ปัญหาของบ้านเรา คือ ไม่ค่อยมีความตระหนักรู้ เรื่องการใช้ การแยกขยะ การทิ้ง และการกำจัดขยะ ผลก็คือ ขยะพลาสติกถูกทิ้งประมาณปีละ 2 ล้านตัน รวมอยู่กับขยะอื่น กลายเป็นภาระของพนักงานเก็บขยะ เทศบาล ที่จะต้องทำแทนคนกว่า 60 ล้านคน

ถ้าช่วยกันแยกขยะ โดยเฉพาะพลาสติก เพื่อนำไปรีไซเคิลได้ ก็จะเป็นการดี เรามาช่วยกันดีไหมครับ เริ่มที่ตัวท่าน เราทุกคน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือหน่วยงานราชการ เริ่มด้วยการแยกทิ้งขวดน้ำพลาสติกก่อน แล้วค่อย “ปลูกนิสัย สร้างวินัย” ไปยังขยะอื่นๆ ในอนาคต ภาครัฐหรือเอกชนที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการเก็บ – คัดแยกขยะ ก็ต้องปรับตัวตามนะครับ ในเรื่องกระบวนการต่างๆ ของตนด้วย เห็นใจคนเก็บขยะด้วย

ผมมีตัวอย่าง โรงเรียนปลอดขยะ ได้แก่ โรงเรียนบ้านน้ำมิน จังหวัดพะเยา ซึ่งเดิมใช้วิธีกำจัดขยะโดยการเผา ซึ่งก็ทำให้เกิดควันพิษส่งผลเสียต่อสุขภาพของชาวชุมชน ภายหลังได้รับความรู้ ได้ดูงานการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง ภายใต้หลัก 3R คือ ลดปริมาณขยะ (Reduce) การใช้ซ้ำ (Reuse) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) แล้วนำมาปฏิบัติอย่างจริงจัง เริ่มในโรงเรียนก่อน

ตั้งแต่การปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่ทุกคนในโรงเรียน ครู อาจารย์ก็เป็นตัวอย่าง นักเรียนก็นำไปชักชวนให้ผู้ปกครองปฏิบัติตาม จากการมีส่วนร่วมดังกล่าว เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเด็กๆ

เช่น การใช้แก้วน้ำส่วนตัวแทนขวดพลาสติก การใช้ผ้าเช็ดหน้าแทนกระดาษชำระ การใช้จานใส่อาหารแทนถุงพลาสติก การทานอาหารให้หมดจาน การใช้ช้อนของตัวเองนะครับที่เตรียมมา การใช้กระดาษให้ครบทั้ง 2 หน้า ก่อนนำไปรีไซเคิล

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก-6

และยังมีการสอนกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เช่น การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ น้ำหมักชีวภาพ การเลี้ยงสัตว์ด้วยเศษอาหาร การทำสิ่งประดิษฐ์ เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกและการเรียนรู้ให้กับเด็กไปพร้อมๆ กัน

ก็นับเป็นตัวอย่างที่ดีนะครับ ของสังคมและประเทศชาติ นอกจากนี้ ผมขอชื่นชมโครงการจิตอาสา ที่ชักชวนเยาวชนของชาติ มาร่วมกิจกรรมเก็บขยะชายหาด – ขยะทะเล ที่ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องด้วย ขอบคุณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็มาช่วยกัน ชักชวนประชาชนช่วยกันเก็บขยะในทะเล ด้วยชายหาดอะไรต่างๆ เหล่านี้ ก็อยากให้ทำต่อเนื่องนะครับ

เรามาช่วยกันสร้างจิตสำนึก ในการ “ลดก๊าซเรือนกระจก ลดโลกร้อน” โดยเริ่มที่เรื่องใกล้ๆ ตัวเรานี่ก่อนครับ ตัวเอง ครอบครัว ชุมชน หมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัดนะครับแล้วก็ประเทศชาติ ในการจัดการขยะ คัดแยกขยะ ลดการบริโภคที่ฟุ่มเฟือยลง เครื่องใช้ไฟฟ้าหากไม่ใช้ก็ปิดเสียนะครับ ทานข้าวอย่าให้เหลือทิ้งกลายเป็นขยะไปอีก บริโภคอย่างพอเพียงเป็นต้น เราจะได้ช่วยกัน “ส่งต่อ โลกใบนี้” ให้กับ รุ่นลูกหลานของเรา ได้อย่างน่าภาคภูมิใจต่อไปนะครับ”

e-book-1-503x62