แอปเปิลเร่งเกมบุกตลาดอินเดีย อัดแคมเปญโฆษณาพร้อมเล็งเปิดร้านค้าปลีกแห่งแรก

25 ม.ค. 2559 | 07:00 น.
แอปเปิลเดินหน้าเร่งทำตลาดในอินเดียเพิ่มมากขึ้น หลังจากความกังวลต่อปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นตลาดสำคัญอันดับต้นๆ ของแอปเปิลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อาจส่งผลกระทบต่อยอดขายไอโฟน

เดอะ วอลล์ สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า แอปเปิลเดินหน้าสร้างส่วนแบ่งตลาดในตลาดสมาร์ทโฟนของอินเดียอย่างเงียบๆ ในช่วงที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มการโฆษณา สร้างเครือข่ายตัวแทนจำหน่าย โทรศัพท์ในระบบเงินผ่อนแบบไม่คิดดอกเบี้ย และลดราคาอุปกรณ์ และล่าสุดในสัปดาห์นี้ มีรายงานว่าแอปเปิลกำลังขออนุมัติจากทางการอินเดียเพื่อเปิดร้านค้าปลีกแอปเปิลสโตร์และจำหน่ายสินค้าทางออนไลน์ โดยในปัจจุบันแอปเปิลจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายและร้านค้าปลีกที่ชาวอินเดียเป็นเจ้าของ

แอปเปิลทำรายได้จากตลาดอินเดียได้เกือบ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีงบประมาณก่อน ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 อย่างไรก็ดี แอปเปิลยังครองส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ทโฟนอินเดียเพียงไม่ถึง 2% บริษัทวิจัย สแทรทิจี อนาไลติกส์ ประเมินว่าแอปเปิลจำหน่ายสมาร์ทโฟนได้ประมาณ 118 ล้านเครื่องในอินเดียเมื่อปีก่อน และคาดการณ์ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 174 ล้านเครื่องในปี 2560

แอปเปิลพยายามก้าวเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดสมาร์ทโฟนอินเดีย ด้วยการปรับตำแหน่งของตนเองจากการเป็นแบรนด์หายากที่พบได้เพียงกลุ่มผู้มีรายได้สูง มาเป็นแบรนด์ที่กลุ่มชนชั้นกลางสามารถเข้าถึงได้

อินเดียมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาเป็นตลาดที่สำคัญสำหรับแอปเปิลในช่วงหลายปีข้างหน้าทดแทนตลาดจีนที่ส่งสัญญาณว่าเริ่มเข้าสู่ภาวะอิ่มตัว บริษัทวิจัยไอดีซีกล่าวว่า ตลาดสมาร์ทโฟนอินเดียกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีโอกาสแซงหน้าสหรัฐอเมริกาขึ้นมาเป็นตลาดขนาดใหญ่อันดับ 2 รองจากจีนภายในปีหน้า

ข้อมูลจากไอดีซีบีระบุว่า ปัจจุบันมีโทรศัพท์มือถือเพียง 35% ที่จำหน่ายในอินเดียที่เป็นสมาร์ทโฟน หมายความว่าตลาดอินเดียมีศักยภาพการเติบโตอยู่อีกมากจากผู้ที่จะอัพเกรดอุปกรณ์จากโทรศัพท์มือถือธรรมดาเป็นสมาร์ทโฟน อย่างไรก็ดี ผู้บริโภคชาวอินเดียมีแนวโน้มที่จะซื้ออุปกรณ์ราคาไม่แพง โดยไอดีซีคาดการณ์ว่าราคาสมาร์ทโฟนเฉลี่ยที่จำหน่ายในอินเดียจะลดลงจาก 135 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อปี 2557 เหลือ 102 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2561

ปัญหาของแอปเปิลในการเจาะอินเดีย คือราคาขายสมาร์ทโฟนที่แพงเกินกำลังซื้อของผู้บริโภคจำนวนมาก โดยราคาสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมจากชาวอินเดียอยู่ที่ไม่เกิน 150 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ราคาไอโฟนอยู่ระหว่าง 500-1,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่รวมแพ็กเกจดาต้า

อย่างไรก็ดี แอปเปิลส่งแคมเปญโฆษณาออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อเน้นย้ำให้ผู้บริโภคชาวอินเดียเห็นว่าผลิตภัณฑ์ของแอปเปิลไม่แพงเกินเอื้อมและมีความคุ้มค่ากับราคา นอกจากนี้ แอปเปิลยังลดราคาขายพร้อมกับการผ่อนชำระด้วยเงื่อนไขที่ง่ายขึ้น อีกทั้งขยายพื้นที่การจำหน่ายออกไปสู่นอกเมืองใหญ่เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคนอกเมืองที่มีกำลังซื้อ

ทารัน พาทัก นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัย เคาเตอร์พอยต์ ในกรุงนิวเดลี กล่าวว่า "แอปเปิลค่อนข้างรุกหนัก ไม่เพียงในเมืองใหญ่แต่ในเมืองอื่นๆ ด้วย พวกเขาขยายเครือข่ายจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมทั่วอินเดีย จากตัวแทนจำหน่ายเพียงรายเดียวเมื่อหลายปีก่อนเป็น 5 รายในปัจจุบัน"

ในส่วนของร้านค้าปลีก ที่ผ่านมาแอปเปิลเคยมองตลาดอินเดียว่ามีขนาดเล็กและซับซ้อนเกินกว่าจะนำร้านค้าไฮเอนด์เข้ามาเปิด แต่ได้มีการทดลองเปิดร้านค้าขนาดเล็กโดยจับมือร่วมกับหุ้นส่วนท้องถิ่น อาร์วินด์ ซิงฮาล ประธานบริษัทที่ปรึกษา เทคโนแพค ให้ความเห็นว่า "การเปิดร้านค้าเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการช่วยกระตุ้นแบรนด์แอปเปิลในอินเดีย แม้ว่าการเปิดร้านค้าอาจมีความซับซ้อนและท้ายที่สุดจะต้องขาดทุนเป็นระยะเวลาหนึ่ง"

ข้อมูลจากเคาน์เตอร์พอยต์ระบุว่า ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ทโฟนในอินเดียของแอปเปิลในเดือนกันยายนปีก่อนเพิ่มขึ้นเป็น 1.8% จาก 1.5% ในปี 2557 อย่างไรก็ดี ส่วนแบ่งตลาดของแอปเปิลยังห่างจากผู้นำตลาด คือ ไมโครแมกซ์ ผู้ผลิตท้องถิ่น และซัมซุง จากเกาหลีใต้ ซึ่งครองส่วนแบ่งอยู่ที่รายละ 20%

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,125 วันที่ 24 - 27 มกราคม พ.ศ. 2559