'ทรู' คว้าสิทธิถ่าย 'บอลโลก'

19 เม.ย. 2561 | 12:00 น.
ความคืบหน้าการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย หรือ FIFA World Cup Russia 2018 ระหว่างวันที่ 14 มิ.ย. - 15 ก.ค. นี้ ล่าสุด เป็นที่ยืนยันแล้วว่า ‘ทรู วิชั่นส์’ ได้เซ็นสัญญากับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เพื่อซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด (มหาชน) จะเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์การถ่ายทอดการแข่งขันทั้งหมด โดยมีผู้ให้การสนับสนุนรวม 7 ราย ที่จะร่วมลงขันรายละ 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะใช้เม็ดเงินไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท นำโดย กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ ซึ่งจะมีการแถลงข่าวการถ่ายทอดการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 พร้อมเปิดตัวสปอนเซอร์ทั้งหมดอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการคืนความสุขให้คนไทยในเร็ว ๆ นี้ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งนั่งเป็นประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เป็นประธานในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย

 

[caption id="attachment_276305" align="aligncenter" width="503"] ©Marcus Brandt, EPA ©Marcus Brandt, EPA[/caption]

อย่างไรก็ดี จากการที่ ทรู วิชั่นส์ ถือลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2018 ในครั้งนี้ ส่งผลให้ล่าสุดมีการถอด บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ AIS ออกจากการเป็นสปอนเซอร์ พร้อมกับเปิดตัวสปอนเซอร์รายใหม่ อย่าง ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เข้ามาแทนที่

โดยแหล่งข่าวระดับสูง กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า ทรูเป็นสื่อที่มีความพร้อมในทุกด้าน ทั้งฟรีทีวี, เพย์ทีวี, โมบาย ทีวี และดิจิตอล มีเดีย ขณะที่ คิงเพาเวอร์ไม่มีสื่อในมือ การที่ได้ ทรู วิชั่นส์ มาร่วมครั้งนี้จึงช่วยได้มาก โดยเฉพาะเรื่องเทคนิค และเมื่อทรูเข้ามา แน่นอนว่า ย่อมต้องตัดทางคู่แข่งอย่าง AIS ออกจากเส้นทางนี้ เพราะอีเวนต์ฟุตบอลโลกถือเป็นบิ๊กอีเวนต์ที่แต่ละบริษัทสามารถนำมาต่อยอดทางธุรกิจ ทั้งการสร้างแบรนด์และยอดขายได้มากมาย เกมนี้จึงเป็นการเขี่ย AIS ให้ออกจากสารบบ ขณะที่ การเข้ามาของ KBANK เป็นแค่การทำตลาด เพื่อไม่ให้ตกกระแสฟุตบอลโลกเท่านั้น แต่การที่ต้องควักเงิน 200 ล้านบาท ร่วมเป็นสปอนเซอร์ และมีระยะเวลาในการทำกิจกรรมตลาดแค่ 2-3 เดือนนั้น เชื่อว่าจะได้ผลลัพธ์ไม่คุ้มค่าการลงทุน


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

“เหลือระยะเวลาอีกไม่นาน การแข่งขันฟุตบอลโลกก็จะเกิดขึ้น การต้องจ่ายเงิน 200-300 ล้านบาท ทำการตลาดในระยะเวลา 2-3 เดือน ถามว่า คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ เพราะวันนี้หากเข้มงวดเรื่องการดู ผูกขาดสื่อ ชาวเน็ตก็หาทางดูได้อยู่ดี หากรัฐต้องการสร้างโอกาสทางธุรกิจ ก็ควรวางแผน และปล่อยให้เกิดการไหลเวียนของเศรษฐกิจ เพราะที่ผ่านมา เสียเวลาและโอกาสไปมากแล้ว”

ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่า ฟุตบอลโลก 2018 เป็นกีฬาที่คนไทยและทั่วโลกเฝ้ารอ สิ่งที่จะเกิดขึ้น คือ Economic Impact จากร้านค้า ร้านอาหาร สินค้า และบริการต่าง ๆ ที่เตรียมสร้างแคมเปญออกมาล่อซื้อผู้บริโภค และ Social Impact กระแสสังคมที่จะเกิด นอกจากนี้ ยังมีผลที่จะตามมาต่อเนื่องอย่างน้อย 4-5 เดือน หลังการแข่งขันฟุตบอลโลกจบลง คือ กระแสนิยมฟุตบอลทำให้หลายธุรกิจคึกคัก ไม่ว่าจะเป็น สนามฟุตบอล หญ้าเทียม อุปกรณ์กีฬา ฯลฯ

 

[caption id="attachment_276306" align="aligncenter" width="503"] ©sporttechie.com ©sporttechie.com[/caption]

“นอกจากสปอนเซอร์ที่จะทำแคมเปญออกมารองรับฟุตบอลโลก ซึ่งไม่ใช่จะเสียค่าใช้จ่ายแค่ 200 ล้านบาท แต่ยังต้องมีค่าจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามมาอีกมาก หากทำแคมเปญใหญ่ก็ต้องจ่ายอีกเป็นหลัก 30-40 ล้านบาท ยังมีเงินจากการผลิตและขายสินค้าและบริการต่าง ๆ รวมไปถึงเงินนอกระบบที่จะเกิดจากการพนันบอล เชื่อว่า ฟุตบอลโลกครั้งนี้จะมีเม็ดเงินสะพัดเป็นหลักหมื่นล้านบาทแน่นอน”

สำหรับฟุตบอลโลก 2018 ครั้งนี้ กิจกรรมการตลาดที่เกิดขึ้นจะมีทั้งออนกราวด์ ออนไลน์ และออนแอร์ ซึ่งจะเป็นช่องทางทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ครบครัน ซึ่งผู้ประกอบการเองต้องสร้างโอกาสให้ได้มากที่สุด เพราะล่าสุด กกท. ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่ดูแล ได้ออกมาประกาศที่จะเข้มงวดในเรื่องของการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด รวมถึงการจัดกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลก โดยจะเอาผิดผู้ที่ละเมิดและนำไปอ้างอิง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการในวงกว้าง เช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ดังนั้น การทำการตลาดใด ๆ ยังต้องการความชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดเป็นปัญหาตามมา


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

ด้าน นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์ฯ กล่าวว่า คิงเพาเวอร์เป็นเพียง 1 ในสปอนเซอร์ร่วมกับเอกชนรายอื่น ๆ เพื่อช่วยสนับสนุนให้คนไทยได้ดูการถ่ายทอดสดการแข่งขันบอลโลกเท่านั้น โดยที่ภาครัฐได้ระดมเอกชนหลาย ๆ รายเข้ามาร่วมสนับสนุน หลังจากที่ไม่มีเอกชนรายใดแสดงความต้องการจะซื้อลิขสิทธิ์มาเผยแพร่ในประเทศไทย
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,353 วันที่ 1-4 เม.ย. 2561 หน้า 11
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"คงชีพ" ยืนยัน! "คนไทยดูบอลโลกฟรี" เอกชน 7-9 ราย ลงขันซื้อลิขสิทธิ์
คนไทยเฮ “บิ๊กป้อม”เผยได้ดูถ่ายทอดสดบอลโลกแน่!!


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว