วันที่ 19 เม.ย. แจ๊ค หม่า ประธานบริหารของกลุ่มอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซระดับโลกจากประเทศจีน เดินทางเยือนประเทศไทย โดยรัฐบาลเป็นผู้เชิญเข้ามา พร้อมกับการประกาศแผนการลงทุนของอาลีบาบาในพื้นที่อีอีซี รวมไปถึงโครงการความร่วมมือเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิตอล ส่งเสริมบุคลากรไทย ให้มีทักษะและขีดความสามารถด้านอีคอมเมิร์ซยุคดิจิตอล
โครงการลงทุนที่อาลีบาร่วมมือกับไทย เช่น สร้างศูนย์ Smart Digital Hub ในพื้นที่อีอีซี ศูนย์จะนำเทคโนโยโลยีมาประมวลข้อมูลโลจิสติกส์ ช่วยการขนส่งสินค้าระหว่างไทยกับจีน การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน ให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด นัยว่าการตั้งศูนย์ช่วยผลักดันให้ธุรกิจ Startup และ SME ไทยสามารถพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ โดยอาศัยเทคโนโลยีดิจิตอลให้เข้าถึงตลาดทั่วโลก
โครงการความร่วมมือด้านการพัฒนาบุคลากร ในด้านดิจิตอลและการส่งเสริมธุรกิจผ่านอีคอมเมิร์ซ ที่อาลีบาบา ร่วมกับหน่วยงานราชการไทย พัฒนากลุ่มคนเก่งหรือดาวเด่นด้านดิจิตอล(Digital Talent) ผ่านวิทยาลัยธุรกิจอาลีบาบา ทั้งเชื่อมโยงกับสถาบันการศึกษาและภาคเอกชน เปิดโอกาสให้ร่วมเข้าโครงการฝึกอบรมพัฒนาด้านอีคอมเมิร์ซให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง รวมทั้งสร้างเครือข่าย (Networking) กับดาวเด่นทั่วโลก
โครงการร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดทำ Thailand Tourism Platform สำหรับประเทศไทยโดยเฉพาะ จัดกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกันบนออนไลน์แพลทฟอร์ม ที่สามารถเชื่อมโยงกับสื่อและช่องทางต่างๆ ของ ททท. รวมทั้งจะร่วมมือกันในด้านการใช้ข้อมูลบิ้กดาต้าทางการท่องเที่ยว เข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ รองรับยุทธศาสตร์และแนวทางการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวเมืองรองและในระดับชุมชน
จะเห็นว่าความร่วมมือที่เกิดขึ้นในภาพรวม จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจดิจิตอลของไทยสอดรับ Thailand 4.0 แต่ต้องไม่ลืมว่าตัวตนของอาลีบาบาเป็นยักษ์ใหญ่การค้าและการส่งออกระดับโลก มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งเรากำลังเรียนรู้ ที่สำคัญรัฐบาลไทยไม่ควรหลงไหลได้ปลื้มกับยาหอมของอาลีบาบาจนเกินไป ต้องพึงระวังจะกลายเป็นการผูกขาด โดยยักษ์ใหญ่รายนี้ด้วย หากเป็นเช่นนั้นความฝันรัฐบาลที่สร้างประเทศให้เป็นฮับดิจิตอล จะสูญสลายไปจากการเข้ายึดครองของอาลีบาบา
...........................
บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3358 ระหว่างวันที่ 19-21 เม.ย.2561
