บล.ไทยพาณิชย์มองบวกแนโน้มตลาดหุ้นไทย ย้ำเป้า SET index ปลายปีนี้ที่ 1900 จุด

17 เม.ย. 2561 | 06:35 น.
บล.ไทยพาณิชย์คงมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มตลาดหุ้นไทย  รับอานิสงส์จากปัจจัยหนุนภายในประเทศ ทั้งการลงทุนภาครัฐและเอกชน การกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศด้วยงบกลางปี หนุนเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง ทำให้สินเชื่อมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นและคุณภาพสินทรัพย์ภาคธนาคารดีขึ้น มั่นใจ SET index ปลายปีนี้ปรับตัวไปสู่เป้าหมาย 1900 จุด สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ถึงคิวมองหาหุ้นเติบโตดีที่ราคายังไม่แพง ชูกลุ่มธนาคาร กลุ่มพาณิชย์ และ กลุ่มโรงพยาบาล

[caption id="attachment_275912" align="aligncenter" width="503"] นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์[/caption]

นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกปิดฉากปี 2560 อย่างสวยงาม โดยประเมินอัตราการขยายตัวที่ 3.7% YoY และดูเหมือนว่าโมเมนตั้มจะดีต่อเนื่องในปี 2561 อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน คือ สถานการณ์ที่อัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นเร็วกว่าคาดและแนวโน้มที่อาจจะเกิดสงครามการค้าโลก ในขณะที่เศรษฐกิจไทยยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยขยายตัว 3.9% ในปี 2560 อย่างไรก็ดี แนวโน้มการเติบโตในปี 2561 ยังดูดีโดยมีสัญญาณจากการลงทุนภาคเอกชนที่ฟื้นตัวดีขึ้น ในขณะที่การใช้จ่ายอุปโภคบริโภคยังแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีก่อน เมื่ออิงกับประมาณการเศรษฐกิจล่าสุดของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เศรษฐกิจทั่วโลกน่าจะขยายตัว 3.9% YoY ในปีนี้ เร่งตัวขึ้นจากการปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งจะยังคงหนุนภาคส่งออกของไทยควบคู่ไปด้วย

ปัจจุบันมีปัจจัยเสี่ยงหลักๆ 2 อย่างเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกและตลาดการเงิน ได้แก่ ความกังวลเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยหรือต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นซึ่งอาจส่งผลฉุดรั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยปัจจัยเสี่ยงสำคัญอยู่ที่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่อาจปรับขึ้นเร็วกว่าคาดเนื่องจากปัจจัยกดดันด้านอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีก จากตลาดแรงงานที่ตึงตัวขึ้น และ output gap เป็นบวกมากขึ้นซึ่งบ่งบอกว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตตึงตัวมากขึ้นสอดคล้องกันในหลายๆ ภาคธุรกิจ ชี้ให้เห็นว่าโมเมนตั้มการเติบโตอาจแข็งแกร่งกว่าคาดในสหรัฐฯ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มขึ้น 4 ครั้งในปีนี้ เร็วกว่าที่ตลาดคาดว่าน่าจะขึ้นเพียง 3 ครั้ง

“SCBS มองว่า ความกังวลที่จะเกิดสงครามการค้าทั่วโลกกลับมาอีกครั้ง นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2559 สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าแผงพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องซักผ้า เหล็ก อลูมิเนียม ซึ่งแม้จะมีการผ่อนปรนให้กับคู่ค้าบางประเทศเช่น ออสเตรเลีย แคนนาดา เม็กซิโก ฯลฯ แต่การประกาศเตรียมขึ้นภาษีระรอกล่าสุดที่มีการตอบโต้ไปมาระหว่างสหรัฐฯ และจีนดูเหมือนจะทวีความรุนแรงขึ้น ทำให้ตลาดมีความกังวลต่อความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามการค้ามากขึ้น”

กลยุทธ์การลงทุนประจำไตรมาส 2 ปี 2561 SET index ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 4% นับตั้งแต่ต้นปี 2561 จนถึงกลางเดือนมี.ค. หลักๆ ได้รับปัจจัยกระตุ้นจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี คาดว่า SET index จะเคลื่อนไหวแบบ sideways ในไตรมาส 2 ปี 2561 และยังคงเป้า SET index สิ้นปี 61 ไว้ที่ 1900 จุด สำหรับหุ้น Top Picks ประจำไตรมาส 2 ปี 2561 เลือกกลุ่มธนาคาร เพราะสินเชื่อจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นและคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้เลือกกลุ่มพาณิชย์เพราะงบประมาณกลางปีจะเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายรากหญ้า สุดท้าย กลุ่มการแพทย์ เนื่องจากเป็นหุ้น laggard และกำไรจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งใน ปี 2561 ประกอบกับ   เทรนด์ใหม่ของธุรกิจประกันสุขภาพซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสุขภาพของประเทศไทยในระยะยาว

T นับตั้งแต่ตลาดเริ่มปรับตัวขึ้นในเดือนก.ย.60 EPS จะเติบโต 17% ในปี 61 และมีการจับมือกับบริษัทประกันซึ่งจะทำให้รายได้จากผู้ป่วยประกันสุขภาพมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว