วาตภัยถล่ม 24 จังหวัด บ้านพัง 1.5 พันหลัง เสียชีวิต 2 คน ปภ.เร่งช่วยเหลือ

17 เม.ย. 2561 | 05:23 น.
- 17 เม.ย. 61 - นายกอบชัย บุญอรณะ รองอธิบดี กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวง มหาดไทย เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์วาตภัย ระหว่างวันท่ี 13 -16 เม.ย. 61 เกิดวาตภัยในพื้นที่ 24 จังหวัด ได้แก่ กําแพงเพชร เพชรบูรณ์ เชียงใหม่ แพร่ นครสวรรค์ ลําปาง พิจิตร น่าน เลย นครราชสีมา ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสารคาม กาฬสินธ์ุ สกลนคร หนองคาย อบุลราชธานี สุรินทร์ ชัยภูมิ บุรีรัมย์ อุดรธานี หนองบัวลําภู ศรีสะเกษ สระบุรี รวม 65 อำเภอ 110 ตำบล 251 หมู่ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 1,503 หลัง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (จ.มหาสารคาม จ.บุรีรัมย์ ) บาดเจ็บ 4 ราย (จ.บุรีรัมย์)

นายกอบชัย เผยว่า ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ปภ.ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เชิงพื้นที่จากข้อมูลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบกับประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 2 (157/2018) ลงวันที่ 11 เม.ย. 2561 พบว่าความกดอากาศสูง จากประเทศจีน จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทําให้อาจเกิดพายุฤดูร้อนในช่วง วันที่ 14–18 เม.ย. 2561

โดยเฉพาะพื้นท่ีภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลอาจทําให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง หรือมีลูกเห็บตก ซึ่งจังหวัดที่อาจเกิดพายุฤดูร้อน ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ ดังน้ี

บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและ ปริมณฑล จะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตก บางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สําหรับเกษตรกรควร เตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยมีผลกระทบดังนี้

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีน ใต้ ในขณะท่ีประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด ทําให้บริเวณดังกล่าวจะเกิดพายุฤดูร้อนข้ึน โดยมีลักษณะของ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีฟ้าผ่าและลูกเห็บตกบางพื้นที่

สําหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกําลังแรงขึ้นในช่วงวันที่ 17-19 เม.ย. 2561 ทําให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกําลังปานกลาง โดยบริเวณอ่าวไทยมี คลื่นสูงประมาณ 2 ม. ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังไว้ด้วย จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด