รัฐผนึกเอกชนจัดประชุมพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟอาเซียน

16 เม.ย. 2561 | 08:47 น.
กาแฟ ขึ้นแท่นพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ ภาครัฐ-เอกชนจับมือพัฒนาเพิ่มคุณภาพและผลผลิต พร้อมเปิดโครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1

หากจะถามถึงอนาคตสินค้าเกษตรไทยหลายคนคงส่ายหน้า เพราะราคาของทั้งข้าว ยาง มันสำปะหลัง อ้อย ซึ่งสินค้าเกษตรหลักต่างอยู่ในภาวะไม่แน่นอนสามวันดีสี่วันไข้ ตรงกันข้ามกับชาวสวนและผู้ผลิตกาแฟที่ในช่วงหลายปีมานี้เห็นจะเป็นหนึ่งเดียวที่ดูดีมีอนาคต จากความนิยมในการดื่มกาแฟ และธุรกิจกาแฟที่กำลังเติบโตทำให้ผลผลิตกาแฟไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด โดยผลผลิตกาแฟไทยอยู่ที่ปีละประมาณ 3 หมื่นตัน ถือว่ายังน้อยนิดเมื่อเทียบกับความต้องการบริโภคกาแฟของคนไทยที่เพิ่มขึ้นแตะปีละกว่าแสนตัน ยังไม่รวมถึงโอกาสในตลาดโลก ที่ยังต้องการวัตถุดิบและแหล่งกาแฟใหม่ๆ อีกมาก

จากการรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ระบุว่า เนื้อที่ให้ผลรวมทั้งประเทศเพิ่มขึ้นจากการขยายเนื้อที่ปลูกของแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์อาราบิกาในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากภาครัฐมีการส่งเสริมให้ปลูกแซมในสวนไม้ผลไม้ยืนต้น และพื้นที่ป่าชุมชน เมื่อปี 2557 เริ่มให้ผลผลิตในปีนี้ ส่วนผลผลิตต่อไร่คาดว่าลดลง เนื่องจากจังหวัดชุมพร และระนอง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตใหญ่ของภาคใต้ ประสบปัญหาฝนตกมากช่วงดอกกาแฟบาน ทําให้ต้นกาแฟผสมเกสรไม่ติด จึงติดผลน้อยลง สําหรับผลผลิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการเพิ่มขึ้นของเนื้อที่ให้ผล coffee2 coffee1

เมื่อเป็นเช่นนี้ทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จังหวัดเชียงใหม่ สมาคมพืชสวนแห่งประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมกาแฟไทย สมาพันธ์กาแฟอาเซียน สมาคมบาริสต้าไทย สมาคมชาวสวนกาแฟไทย และ บริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด จึงได้ร่วมมือกันจัด โครงการประชุมการพัฒนาอุตสาหกรรมกาแฟในอาเซียน ครั้งที่ 1 ขึ้น เพื่อเร่งผลักดันและพัฒนาผลผลิตกาแฟไทยให้มีทั้งปริมาณและคุณภาพให้สูงขึ้น พร้อมสร้างความร่วมมือกับประเทศกลุ่มอาเซียนในการแลกเปลี่ยนความรู้ และรวมกลุ่มกันเป็นผู้ผลิตกาแฟชั้นนำของโลก โดยจะมีการแถลงข่าวเปิดโครงการฯ อย่างเป็นทางการขึ้น ในวันศุกร์ที่ 20 เมษายน 2561 เวลา 13.30 - 16.00 น. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์  ACID2018 - Roll Up Key Visual 1 create