'ปณิธาน' ประเมินโจมตีซีเรีย! ต้องติดตามพัฒนาการ "สงครามตัวเเทนเกิดหรือไม่?"
กรณีที่สหรัฐฯ และพันธมิตรชาติตะวันตก ยิงขีปนาวุธใส่ซีเรียครั้งล่าสุด ผลกระทบกับไทยเเละโลกจะเป็นอย่างไรนั้น นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ให้สัมภาษณ์กับ “สปริงนิวส์” ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุ 3 เป้าหมายสำคัญ ที่ 3 ชาติพันธมิตร ต้องการนั้น หากมองจากภาพถ่ายดาวเทียม 2 เป้าหมาย โดนทำลายเเล้ว ฉะนั้น การใช้อาวุธเคมีของซีเรียน่าจะลดลง ส่วนเป้าหมายทางทหารของซีเรียที่เกี่ยวกับรัสเซียนั้น ต้องดูว่า “โดนทำลายเเละมีผลกระทบอย่างไร”
เมื่อถามว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นจากเหตุนี้หรือไม่ เเละครั้งนี้เป็นสงครามตัวเเทนหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นสงครามตัวเเทนเเบบในอดีต เเต่พัฒนาการในอนาคตอาจเกิดขึ้น เพราะ 3 ชาติพันธมิตร ไม่ได้มีจุดยืนตรงกันทุกเรื่อง
[caption id="attachment_275640" align="aligncenter" width="503"]
ปณิธาน วัฒนายากร
ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง[/caption]
นายปณิธาน กล่าวว่า เเม้ซีเรียเป็นตัวเเทนรัสเซียเเละมีจีนหนุนห่าง ๆ เเต่สหรัฐฯ กับ 2 ชาติพันธมิตร ที่มีจุดร่วมกันในการปราบกลุ่มไอเอส เเละไม่ต้องการให้ซีเรียใช้อาวุธเคมีปราบประชาชน อีกทั้งไม่อยากให้ซีเรียเข้มเเข็งไปกว่านี้ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย
“ตรงนี้มันยากมากสำหรับจุดยืนของ 3 ชาติพันธมิตร ฉะนั้น คงดำเนินการอื่น ๆ ไม่ได้นอกจากเหตุผลการปราบซีเรียในเรื่องโรงงานอาวุธเคมีโดยใช้ขีปนาวุธ เเม้สหรัฐฯ จะมีทหาร 2-3,000 นาย อยู่ในซีเรีย เเต่น่าจะไปชี้เป้าเเละคุมสถานการณ์ทั่วไป ไม่ได้ไปรบ” นายปณิธาน กล่าว
“บางคนมีความกังวลว่า การเผชิญหน้าของรัสเซียเเละสหรัฐฯ นั้น รัสเซียมีจีนหนุนหลังเเละจุดยืนใกล้เคียงกัน เเต่สหรัฐฯ มีฝรั่งเศสเเละอังกฤษ การโจมตีครั้งนี้สหรัฐฯ เลี่ยงโจมตีเป้าหมายทางการทหารของรัสเซีย เเละรัสเซียไม่ตอบโต้ จึงเบาใจระดับหนึ่งได้ว่า การเผชิญหน้าของ 2 ชาติมหาอำนาจ คงไม่มี เเต่จะมีการเผชิญหน้าผ่านรัฐบาลซีเรีย ส่งผลกับการปราบกลุ่มไอเอสที่จะลดลง เเละอาจเกิดปัญหาในอนาคต ต้องดูผลกระทบอีกระยะ เพราะเเต่ละฝ่ายต่างเเถลงข่าวฝ่ายเดียว” นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า “การอ้างว่า ขีปนาวุธเกือบร้อยลูกของ 3 ชาติพันธมิตร โดนสกัดนั้น ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เเต่มันก็เป็นจุดตึงเครียด เเม้สหรัฐฯ จะโจมตีซีเรียมาหลายครั้ง เเต่ครั้งนี้ชัดเจนขึ้น ถือเป็นความตั้งใจสกัดอาวุธเคมีของซีเรีย เเละ 2 ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ทำงานเข้มข้นขึ้น ควบคุมการรบร่วมกันของ 3 ชาติ ได้ในครั้งนี้
ในอดีตมีปัญหาเยอะ ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่า บางชาติใช้อาวุธเคมีกับประชาชน เเต่ครั้งนี้หลักฐานเยอะ เพราะประชาชนได้รับผลกระทบ หากยูเอ็นตรวจสอบได้จะชัดขึ้น
เเต่อย่าประมาทซีเรียเเละรัสเซีย ที่หลายคนมองซีเรียน่าจะแพ้ เเต่สถานการณ์พลิก เมื่อรัสเซียหนุนเเละขับไล่กลุ่มไอเอสไปได้มาก มันเห็นความเข้มเเข็งของซีเรียเเละเห็นการเตรียมรับมือสหรัฐฯ กรณีนี้ต้องติดตาม
ส่วนผลกระทบอื่น ๆ ต้องดูเวทียูเอ็น ที่ต้องดูว่า ประเทศมหาอำนาจจะใช้สิทธิวีโต้การลงมติหรือไม่ เเต่อาจเห็นมิติใหม่ของชาติต่าง ๆ ที่จะใช้สิทธิอภิปรายเเละตรวจสอบ เพื่อกดดันการห้ามใช้อาวุธเคมี เช่น การใช้อาวุธเคมีรุนเเรงเทียบเท่าอาวุธชีวภาพเเละนิวเคลียร์ เรื่องนี้น่ากังวล เพราะอาวุธเคมีหาได้จากโรงงานทั่วไป”
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ผ่าขุมกำลังรบห้าชาติ บนสมรภูมิ "ถล่มซีเรีย"
● 'สามชาติ' โวลั่น! ทิ้งบอมบ์ ศูนย์อาวุธเคมีได้ผล- 'ซีเรีย' เย้ย! รู้ล่วงหน้า ย้ายคนออกหลายวันเเล้ว
เมื่อถามว่า สงครามโลกครั้งที่ 3 จะเกิดขึ้นจากเหตุนี้หรือไม่ เเละครั้งนี้เป็นสงครามตัวเเทนหรือไม่ นายปณิธาน กล่าวว่า คงไม่ถึงขั้นสงครามตัวเเทนเเบบในอดีต เเต่พัฒนาการในอนาคตอาจเกิดขึ้น เพราะ 3 ชาติพันธมิตร ไม่ได้มีจุดยืนตรงกันทุกเรื่อง
[caption id="attachment_275640" align="aligncenter" width="503"]
ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง[/caption]
นายปณิธาน กล่าวว่า เเม้ซีเรียเป็นตัวเเทนรัสเซียเเละมีจีนหนุนห่าง ๆ เเต่สหรัฐฯ กับ 2 ชาติพันธมิตร ที่มีจุดร่วมกันในการปราบกลุ่มไอเอส เเละไม่ต้องการให้ซีเรียใช้อาวุธเคมีปราบประชาชน อีกทั้งไม่อยากให้ซีเรียเข้มเเข็งไปกว่านี้ภายใต้การสนับสนุนของรัสเซีย
“ตรงนี้มันยากมากสำหรับจุดยืนของ 3 ชาติพันธมิตร ฉะนั้น คงดำเนินการอื่น ๆ ไม่ได้นอกจากเหตุผลการปราบซีเรียในเรื่องโรงงานอาวุธเคมีโดยใช้ขีปนาวุธ เเม้สหรัฐฯ จะมีทหาร 2-3,000 นาย อยู่ในซีเรีย เเต่น่าจะไปชี้เป้าเเละคุมสถานการณ์ทั่วไป ไม่ได้ไปรบ” นายปณิธาน กล่าว
“บางคนมีความกังวลว่า การเผชิญหน้าของรัสเซียเเละสหรัฐฯ นั้น รัสเซียมีจีนหนุนหลังเเละจุดยืนใกล้เคียงกัน เเต่สหรัฐฯ มีฝรั่งเศสเเละอังกฤษ การโจมตีครั้งนี้สหรัฐฯ เลี่ยงโจมตีเป้าหมายทางการทหารของรัสเซีย เเละรัสเซียไม่ตอบโต้ จึงเบาใจระดับหนึ่งได้ว่า การเผชิญหน้าของ 2 ชาติมหาอำนาจ คงไม่มี เเต่จะมีการเผชิญหน้าผ่านรัฐบาลซีเรีย ส่งผลกับการปราบกลุ่มไอเอสที่จะลดลง เเละอาจเกิดปัญหาในอนาคต ต้องดูผลกระทบอีกระยะ เพราะเเต่ละฝ่ายต่างเเถลงข่าวฝ่ายเดียว” นายปณิธาน กล่าว
นายปณิธาน กล่าวว่า “การอ้างว่า ขีปนาวุธเกือบร้อยลูกของ 3 ชาติพันธมิตร โดนสกัดนั้น ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ เเต่มันก็เป็นจุดตึงเครียด เเม้สหรัฐฯ จะโจมตีซีเรียมาหลายครั้ง เเต่ครั้งนี้ชัดเจนขึ้น ถือเป็นความตั้งใจสกัดอาวุธเคมีของซีเรีย เเละ 2 ชาติพันธมิตรของสหรัฐฯ ทำงานเข้มข้นขึ้น ควบคุมการรบร่วมกันของ 3 ชาติ ได้ในครั้งนี้
ในอดีตมีปัญหาเยอะ ซึ่งสหรัฐฯ กล่าวหาว่า บางชาติใช้อาวุธเคมีกับประชาชน เเต่ครั้งนี้หลักฐานเยอะ เพราะประชาชนได้รับผลกระทบ หากยูเอ็นตรวจสอบได้จะชัดขึ้น
เเต่อย่าประมาทซีเรียเเละรัสเซีย ที่หลายคนมองซีเรียน่าจะแพ้ เเต่สถานการณ์พลิก เมื่อรัสเซียหนุนเเละขับไล่กลุ่มไอเอสไปได้มาก มันเห็นความเข้มเเข็งของซีเรียเเละเห็นการเตรียมรับมือสหรัฐฯ กรณีนี้ต้องติดตาม
ส่วนผลกระทบอื่น ๆ ต้องดูเวทียูเอ็น ที่ต้องดูว่า ประเทศมหาอำนาจจะใช้สิทธิวีโต้การลงมติหรือไม่ เเต่อาจเห็นมิติใหม่ของชาติต่าง ๆ ที่จะใช้สิทธิอภิปรายเเละตรวจสอบ เพื่อกดดันการห้ามใช้อาวุธเคมี เช่น การใช้อาวุธเคมีรุนเเรงเทียบเท่าอาวุธชีวภาพเเละนิวเคลียร์ เรื่องนี้น่ากังวล เพราะอาวุธเคมีหาได้จากโรงงานทั่วไป”
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ผ่าขุมกำลังรบห้าชาติ บนสมรภูมิ "ถล่มซีเรีย"
● 'สามชาติ' โวลั่น! ทิ้งบอมบ์ ศูนย์อาวุธเคมีได้ผล- 'ซีเรีย' เย้ย! รู้ล่วงหน้า ย้ายคนออกหลายวันเเล้ว
