ความคืบหน้ากรณีที่สหรัฐฯ ฝรั่งเศส และอังกฤษยิงขีปนาวุธ 105 ลูกถล่มซีเรียโดยพุ่งเป้าโรงงานและศูนย์พัฒนาอาวุธเคมีในเขตบาร์เซห์ ของกรุงดามัสกัส และฐานทัพ 2 แห่งใกล้เมืองฮอมส์ เพื่อตอบโต้รัฐบาลซีเรียใช้อาวุธเคมีโจมตีพลเรือนเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น
นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯทวีตข้อความว่า "ปฏิบัติการประสบความสำเร็จ" เเละพล.ท.เคนเนธ แมคเคนซี จากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เเสดงความเชื่อมั่นว่า "การโจมตีเขตบาร์เซห์ เป็นการทำลายหัวใจสำคัญของโครงการอาวุธเคมีซีเรีย แม้องค์ประกอบอื่นๆของโครงการยังอยู่ดี จึงไม่อาจรับรองได้ว่าซีเรียจะไม่โจมตีด้วยอาวุธเคมีอีกในอนาคต"
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ซากอาคาร 5 หลังของศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์ซีเรียในเขตบาร์เซห์ ยังมีควันคุกรุ่น ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเเละกลางดึกวันที่14 เม.ย. ตามเวลาซีเรีย กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นในเขตชนบททางใต้ของเมืองอาเลปโป โดยยังไม่ทราบสาเหตุและเป้าหมาย
ด้านซีเรียและพันธมิตรประกาศชัดว่า การโจมตีของตะวันตกไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับประธานาธิบดีซีเรีย ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งซึ่งเป็นชาติพันธมิตรในภูมิภาคของซีเรียเปิดเผยว่า "พื้นที่ที่ตกเป็นเป้าได้รับคำเตือนจากรัสเซีย จึงอพยพผู้คนไปหลายวันก่อนหน้านั้นแล้ว"