นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยกับ
"ฐานเศรษฐกิจ" ถึงปลัดเกษตรและผู้บริหารทุกกรม หน่วยและเลขาฯ สำนักงานเศรศฐกิจการเกษตร (สศก.) และผู้ช่วยปลัดเกษตร ว่า เมื่อเปิดทำงานในวันที่ 17 เม.ย. 2561 แล้ว ขอให้เลขาฯ สศก. จัดประชุมผู้บริหารในวันพุธที่ 18 เม.ย. 2561 โดยมีสาระการประชุมเกี่ยวกับการพิจารณาแนวทางรายงานผลการดำเนินงานด้านต่างๆ ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
เนื่องจากช่วงต่อไปนี้ (Trend) เป็นช่วงครึ่งปีหลังงบประมาณ 2561 แล้วให้ทุกหน่วยมุ่งเน้นการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของแต่ละกรมใน 15 โครงการสำคัญและความก้าวหน้าของงบกลางปี จำนวน 24,000 ล้านบาท รวมทั้งผลการดำเนินงานตามภารกิจ
(Function) และการแก้ไขปัญหาสำคัญ ๆ ของแต่ละหน่วยทุกสิ้นเดือน โดยให้เริ่มรายงานตั้งแต่เดือน เม.ย. 2561 เป็นต้นไป
สำหรับการกำหนดรูปแบบการรายงานเป็นลายลักษณ์อักษรหรือรูปแบบต่าง ๆ นั้น เพื่อความเป็นเอกภาพและลดภาระการรายงานซ้ำซ้อน จึงขอให้แต่ละกรม/รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน สั่งการให้หน่วยปฎิบัติของตนเองซึ่งมีพื้นที่ดำเนินงานอยู่ในจังหวัดต่าง ๆ จัดทำรายงานจำนวน 2 ชุดที่เหมือนกัน
[caption id="attachment_275554" align="aligncenter" width="503"]
กฤษฎา บุญราช
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์[/caption]
โดยฉบับหนึ่งให้รายงานตรงมายังหน่วยงานต้นสังกัดในส่วนกลาง อีกฉบับหนึ่งให้รายงานผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละจังหวัด โดยขอมอบหมายให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นหน่วยงานกลาง รวบรวมเสนอผู้ว่าฯ เพื่อลงนามส่งรายงานดังกล่าวมายังปลัดเกษตร โดยให้ สศก. เป็นหน่วยกลางสรุปเสนอผู้บริหารในส่วนกลางทราบ ทั้งฝ่ายขับเคลื่อนนโยบายและฝ่ายกำหนดนโยบาย
“ทั้งนี้ขอให้ท่านปลัดฯ หารือกับผู้บริหารกันเองเพื่อกำหนดรูปแบบการรายงานหรือจะร่างรูปแบบการรายงาน (draft) มาให้ผมและท่านรัฐมนตรีฯ ช่วยทั้ง 2 คนพิจารณาก่อนก็ได้”
สำหรับจุดมุ่งหมายการรายงานนี้ผมต้องการให้การรายงานของกระทรวงแสดง (Visible) ให้สาธารณชนและที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทราบว่ากระทรวงได้ทำอะไรไปแล้วหรือกำลังทำอะไรที่ผลต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรอย่างยั่งยืน (Performance to Benefit People) ในเรื่องการลดรายจ่ายและเพิ่มรายได้ ฯลฯ เป็นต้น ดังนั้น จึงให้ทุกกรม รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชนให้เร่งรัดและติดตามการรายงานดังกล่าวข้างต้นด้วย
……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
●
"กฤษฎา" กำชับงบไทยนิยม 2.4 หมื่นล้านโปร่งใสคุ้มค่า
●
นิด้าโพล“ไทยนิยม ยั่งยืน VS ประชานิยม”