เจาะแฟ้ม “SOHR” ห้วงเจ็ดปี สงครามกลางเมืองซีเรีย บนคราบเลือดและรอยน้ำตา

14 เม.ย. 2561 | 11:47 น.
- 14 เม.ย. 61 - ความวุ่นวายบนดินแดนตะวันออกกลางจากฝีมือของแปดฝ่ายบนเเผ่นดินซีเรียนั้น ตั้งแต่ปี 2011 จนถึงเดือนมีนาคม 2018 องค์กรสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรีย (SOHR) ระบุชีวิตและการสูญเสียของพลเมืองซีเรียไว้ดังนี้ FWPHmamN_400x400

เสียชีวิต 353,900 ราย (พลเรือน 106,000 ราย โดยหนึ่งแสนรายนั้นมีการระบุว่าไม่ได้จดบันทึกไว้เป็นหลักฐาน)

สูญหาย 56,900 ราย และคาดว่าเสียชีวิตทั้งหมดแล้ว

พิการ 1.5 ล้านราย และร้อยละหกนั้น เสียทั้งแขนและขา

โยกย้ายถิ่นที่อยู่ไปอาศัยเมืองอื่น 6.1 ล้านราย

อพยพไปประเทศเพื่อนบ้าน (ตุรกี เลบานอน จอร์แดน)  5.6 ล้านราย maxresdefault

ปฐมบทของคราบเลือดและรอยน้ำตาของชาวซีเรียเริ่มตั้งแต่ปี 2011 จนถึงวันนี้นั้นมาจากการที่นายบาชาร์ อัล อัสซาด ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อจากบิดา (นายฮาเฟซ อัล อัสซาด) เมื่อปี 2000 จากนั้นในปี 2011 ประชาชนเริ่มวิจารณ์การบริหารประเทศของประธานาธิบดีอัสซาด ที่บริหารบ้านเมืองในช่วงนั้น แต่เกิดปัญหาเสรีภาพทางการเมืองของประชาชน การทุจริต และการว่างงาน ประชาชนจึงประท้วงเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยขึ้นตามกระแสอาหรับสปริงที่เกิดขึ้นในย่านตะวันออกกลาง (ตูนีเซีย อียิปต์ เยเมน ลิเบีย) bashar-al-assad

การชุมนุมในช่วงเเรกนั้นมีขึ้นอย่างสันติ ก่อนที่ความวุ่นวายจะขยายวงกว้างและยืดเยื้อ เพราะกลุ่มก่อการร้ายเข้ามาในซีเรีย จนประธานาธิบดีอัสซาดประกาศว่า “จะจัดการกับพวกก่อการร้ายที่ได้รับการสนับสนุนจากต่างประเทศ”

นับจากนั้นการปราบปรามจากรัฐบาลซีเรียจึงบังเกิดและทวีความรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง จนถึงขั้นมีการกล่าวว่ารัฐบาลซีเรียมีการใช้อาวุธเคมีสังหารพลเมืองผู้บริสุทธิ์ รวมถึงเด็กๆ เสียชีวิตจำนวนมาก ซึ่งสหรัฐฯและพันธมิตรยืนยันว่า “ซีเรียเป็นผู้ลงมือกระทำ” buildings-town-stands-douma-rubble-besieged-damaged_d6e0caea-3af5-11e8-8aa5-05fdb8d0ae52

และการใช้อาวุธเคมีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ประณามประธานาธิบดีซีเรีย และชาติพันธมิตร (รัสเซียและอิหร่าน) ว่า “อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ครั้งนี้”

ประธานาธิบดีทรัมป์เปรียบผู้นำซีเรียเป็นเสมือน “สัตว์” และระบุว่า “จะตอบโต้ซีเรียอย่างแข็งกร้าวที่สุด” จนนำมาสู่ปฏิบัติการถล่มซีเรียในช่วงเช้าวันนี้ (ตามเวลาประเทศไทย) โดยสหรัฐฯ อังกฤษและฝรั่งเศส UNW2I2OJ4ZHINLCOHWCFCMOL5Q

เหตุการณ์ครั้งนี้จึงเป็นสงครามสาดกระสุนและขีปนาวุธเพื่อคร่าชีวิตชาวซีเรียอีกคราว จนบางฝ่ายหวั่นใจว่าจะเป็นชนวนการเกิดสงครามเย็นครั้งที่สองและอาจเป็นบ่อเกิดสงครามโลกครั้งที่สามเพราะรัสเซียยืนยันว่าหนุนผู้นำซีเรีย แต่สหรัฐฯต้องการกวาดล้างประธานาธิบดีคนนี้

อะไรจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ทุกฝ่ายต้องติดตาม....