- 13 เม.ย. 61 - สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯจะเข้าร่วมกับ Trans Pacific Partnership (TPP) หรือข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก คือ ข้อตกลงการค้าเสรีของประเทศในแถบแปซิฟิกที่กำหนดขึ้นเพื่อเพิ่มการค้า การบริการและการลงทุนในกลุ่มประเทศสมาชิก อีกทั้งสร้างมาตรฐานการค้าและกฎระเบียบร่วมกันในเรื่องการป้องกันทรัพย์สินทางปัญญา มาตรฐานแรงงาน กฎหมายด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศที่รัฐบาลของนายทรัมป์ประกาศเเยกตัวเมื่อปีที่แล้วเเละระบุว่าหากมีข้อเสนอที่ดีกว่าข้อตกลงที่ได้รับจากการเจรจาครั้งก่อนจะพิจารณาใหม่
ประธานาธิบดีทรัมป์เเสดงความเห็นของตังเองบนทวิตเตอร์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงหลังคาดการณ์ไม่ได้ การตัดสินใจของนายทรัมป์ไม่ได้ล่วงหน้า โดยนายทรัมป์ระบุว่า “สหรัฐฯอาจจะกลับไปเป็นหุ้นส่วนทรานส์แปซิฟิก”
ก่อนหน้านี้นายทรัมป์เคยขี้เเจงกับวุฒิสมาชิก พรรครีพับลิกันว่า ได้สอบถามตัวแทนการค้าแห่งสหรัฐฯและที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของทำเนียบขาวเพื่อเปิดการเจรจาเรื่องนี้อีกครั้ง
ทวิตเตอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์ระบุว่า “สหรัฐฯจะเข้าร่วม TPP เพียงอย่างเดียวถ้าข้อตกลงนี้ดีกว่าข้อเสนอที่เสนอให้รัฐบาลชุดของนายบารัค โอบามา เเต่เรามีข้อเสนอทวิภาคีกับ6ใน11ชาติของสหประชาชาติใน TPP แล้ว และกำลังทำงานเพื่อจัดการกับประเทศที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาประเทศเหล่านั้น ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างหนักในการค้ามานานหลายปีแล้ว!”
กรณีนี้มีที่มาจากการรณรงค์เลือกตั้งของนายทรัมป์ในปี 2560 ที่ระบุถึงความไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงการค้าพหุภาคี และข้อตกลงทวิภาคีที่เป็นที่ถกเถียงกันก่อให้เกิดข้อตกลงที่ดีขึ้นสำหรับธุรกิจและคนงานของสหรัฐฯ แต่ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังดิ้นรนให้ได้รับการสนับสนุนจากประเทศอื่นๆ เนื่องจากเป็นภัยคุกคามล่าสุดของเขาในการกำหนดอัตราภาษีศุลกากรนำเข้าจากจีนและล็อบบี้ฟาร์มของสหรัฐฯกำลังแย้งว่าการตอบโต้โดยจีนจะกระทบต่อการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ
หลังการเลือกตั้งผู้นำสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี พ.ศ.2560 ประธานาธิบดีทรัมป์นำสหรัฐฯออกจากข้อตกลงดังกล่าวโดยอ้างถึงความกังวลเกี่ยวกับการจ้างงานของสหรัฐฯ แม้กระทั่งก่อนการถอนอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้วนั้น การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯในข้อตกลงนี้ถูกมองว่าไม่น่าเป็นไปได้มากขึ้นเนื่องจากมีการคัดค้านในรัฐสภาสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีชินโซะ อาเบะ แห่งญี่ปุ่นที่จะพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ในสัปดาห์หน้าระบุว่า “ญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯเป็นสมาชิกของ TPP”
ด้านนายทาโร่ อาโซะ รมว.คลังของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมครม.และเกิดก่อนที่ทวิตเดอร์ของประธานาธิบดีทรัมป์จะปรากฏในเรื่องนี้ โดยนายอาโซะกล่าวเพิ่มเติมว่า “ข้อเท็จจริงที่จำเป็นต้องได้รับการยืนยัน ถ้าเป็นจริงผมจะยินดีต้อนรับ เเต่นายทรัมป์เป็นคนที่สามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์ได้ดังนั้นนายทรัมป์อาจจะพูดอะไรบางอย่างในวันรุ่งขึ้น”
TPP ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วย 11 ประเทศได้รับการออกแบบมาเพื่อลดอุปสรรคด้านการค้าในภูมิภาคที่มีการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและต่อต้านการเพิ่มขึ้นของเศรษฐกิจและการทูตของจีน โดยสหรัฐฯเข้าสู่การเจรจา TPP เมื่อปี 2551