“อาคม” สั่งหารืออัยการสูงสุดเคลียร์ปมเบสท์รินฟ้องกรณีเมล์NGV

12 เม.ย. 2561 | 05:06 น.
'อาคม' ย้ำชัด! รถเมล์ NGV ขสมก.เดินหน้าตามสัญญา พร้อมสั่ง ขสมก.หารืออัยการสูงสุดวิเคราะห์คำสั่งศาลปกครองกลาง ลุยยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน หลังเบสท์รินฟ้องให้ ขสมก.ชดใช้ค่าเสียหาย 1,159 ล้านบาท ชี้ รถ 100 คันแรกจาก ช.ทวี ยังวิ่งให้บริการพร้อมทยอยรับมอบครบ 489 คันตามแผน ด้าน ขบ. เดินหน้าจดทะเบียนตามสัญญา ขณะที่ "สุรเดช" ช.ทวี จ่อยื่นอุทธรณ์เช่นกัน เดินหน้าผลิตรถส่งมอบ ขสมก. ครบภายใน มิ.ย.นี้

จากกรณีศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาคดีระหว่างบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด และพวกรวม 4 ราย เป็นผู้ฟ้องคดี กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นผู้ถูกฟ้องคดี กรณี ขสมก. บอกเลิกสัญญาซื้อ-ขายรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2560 โดยให้ ขสมก. ชดใช้ค่าเสียหายให้บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด, บริษัท อาร์ แอนด์ เอ คอมเมอร์เชียล วิฮีเคิลส์ เอสดีเอ็น บีเอชดี, บริษัท รถยนต์เซินหลง (เซี่ยงไฮ้) จำกัด และบริษัท เทคโนโลยีพลังงานใหม่ เป่ยฟังกวางโจว จำกัด รวมเป็นเงิน 1,159.97 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 7.5% ต่อปีของเงินต้น 1,147.83 ล้านบาท นับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 7 มิถุนายน 2560) ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

นอกจากนี้ จะส่งมอบหนังสือค้ำประกันของธนาคารไอซีบีซี (ไทย) แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 4 ราย หากไม่สามารถคืนได้ ให้ชดใช้เป็นเงินตามจำนวนที่ระบุในหนังสือค้ำประกันภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันที่คดีสิ้นสุด และให้ยกคำฟ้องแย้งของ ขสมก. คืนค่าธรรมเนียมศาลบางส่วนตามส่วนของการชนะคดีให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 4 ราย

akom

กรณีนี้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากคำสั่งของปกครองกลางและผู้แถลงคดีนั้น ยังไม่สอดคล้องกัน ทั้งนี้ได้สั่งการให้ ขสมก.ไปหารือกับอัยการสูงสุด(อสส.)เพื่อดูความชัดเจน และวิเคราะห์ของข้อคำสั่งศาล เพื่อยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน

ขณะที่รถเมล์เอ็นจีวีจำนวน 489 คันจากกลุ่มทำงาน SCN-CHO นำโดยบริษัท ช.ทวี จำกัด(มหาชน)เป็นผู้จัดหารถ และ ขสมก.ได้นำมาให้บริการไปแล้วตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. ที่ผ่านมาจำนวน 100 คันนั้นยังคงให้บริการประชาชนต่อไป และเดินหน้าตามสัญญา พร้อมทยอยรับมอบรถจนครบ 489 คันตามสัญญาที่ระบุไว้ อย่างไรก็ตามยืนยันและเชื่อมั่นในกระบวนการของ ขสมก. ที่ดำเนินการไปตามระเบียบที่กำหนดไว้ รวมถึงการยึดถือประโยชน์ของส่วนรวมเป็นหลัก

ทั้งนี้เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการ(บอร์ด) ขสมก.จะมีการใช้มาตรา 44 หรือไม่นั้น นายอาคมกล่าวว่า ยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการอย่างไร แต่จะมีการแต่งตั้งโดยเร็วที่สุด และดำเนินการพิจารณาบุคคลให้เป็นไปตามเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)

ด้านนายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 เมษายนได้ให้ฝ่ายกฎหมาย ขสมก.ตรวจสอบข้อมูล เพราะยังไม่ทราบรายละเอียดมากนัก เพื่อหาแนวทางแก้ไขและเตรียมยื่นอุทธรณ์หลังเทศกาลสงกรานต์ เพราะศาลให้ยื่นอุทธรณ์ได้ไม่เกิน 30 วัน ส่วนหลังจากนี้จะดำเนินการอย่างไร เช่น รถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรก 100 คันจะหยุดให้บริการ และอีก 389 คันที่เหลือจะตรวจรับหรือไม่ต้องอยู่ระหว่างการตรวจสอบของฝ่ายกฎหมายของ ขสมก.พิจารณาก่อน

ขณะที่นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวถึงกรณีศาลปกครองกลางมีคำสั่งให้ขสมก.ชะลอรับมอบรถเมล์เอ็นจีวีที่มีการจัดซื้อผ่านบริษัท ช.ทวี ชั่วคราวจนกว่าจะมีคำสั่งเป็นอย่างอื่นว่า ยอมรับว่าหลังจากขสมก.ทยอยรับมอบรถเมล์เอ็นจีวี 100 คันแรก และนำมาให้ขบ.จดทะเบียนซึ่งขณะนี้จดทะเบียนไปแล้ว 100 คัน หลังจากศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่10 เม.ย. ก็รับทราบ แต่ไม่ได้มีผลที่จะยกเลิกการจดทะเบียนส่วนที่เหลือ

โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

ทั้งนี้การจดทะเบียนจะมีผลตามข้อสัญญาเช่นเดียวกับกรณีก่อนหน้านี้ บริษัท เบสท์รินทำการส่งออกรถเมล์เอ็นจีวีส่วนหนึ่งให้ ขสมก. โดย ขบ.ก็รับดำเนินการจดทะเบียน แต่ต่อมาเมื่อพบปัญหา ขสมก.จำเป็นต้องยกเลิกสัญญา ทำให้การจดทะเบียนต้องยกเลิก เนื่องจากทรัพย์สินไม่ได้เป็นของ ขสมก.การจดทะเบียนก็ไม่มีผลทางกฎหมาย เช่นเดียวกับครั้งนี้แม้ ขบ.จะจดทะเบียนรถเมล์เอ็นจีวีที่ ช.ทวีส่งมอบไปแล้วก็ตาม แต่ในอนาคตหาก ขสมก.ไม่สามารถรับมอบรถทั้งหมดและต้องยกเลิกสัญญา การจดทะเบียนก็จะถูกยกเลิกไป ซึ่งทั้งหมดจะต้องติดตามคำวินิจฉัยของศาลปกครองกลาง รวมถึงขั้นตอนการอุทธรณ์ต่อสู้คดีของ ขสมก.ว่าจะมีผลอย่างไร

ด้านนายสุรเดช ทวีแสงสกุลไทย กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เบื้องต้นได้หารือกับ ขสมก. ซึ่ง ขสมก. ดำเนินการยื่นอุทธรณ์ต่อศาล โดยบริษัทจะทำการยื่นอุทธรณ์เช่นกัน โดยจะยื่นภายใน 30 วันตามที่กำหนด ส่วนรถส่งมอบให้แก่ ขสมก.จะยังดำเนินการตามปกติ ขณะที่รถล็อตที่เหลือนั้นบริษัทจะยังเดินหน้าการผลิตต่อไป พร้อมยืนยันว่าจะส่งมอบรถเมล์จนครบ 489 คันตามกรอบเวลาเดิมในเดือนมิถุนายนนี้

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว