“ภคพงศ์”ลงนามโยกคนสนิทยกแผงจับตาเอื้อช.การช่างเดินรถสายสีส้ม
“ภคพงศ์” สะบัดปากกาลงนามประเดิมรับตำแหน่งผู้ว่ารฟม.คนใหม่ โยกคนสนิทนั่งตำแหน่งสำคัญ บ้างขึ้นระดับรองผู้ว่าและผู้ช่วยผู้ว่าการยกแผง เขี่ยคนของคู่แข่งพ้นทาง วงในชี้จับตากรณีจัดซื้อจัดจ้าง การประมูลหาผู้เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และสายสีส้มเอื้อกลุ่มช.การช่าง ส่วนกลุ่มบีทีเอสลุ้นหืดขึ้นคอแน่
แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตามที่นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ได้เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรฟม.คนใหม่ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ลงนามคำสั่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ 135/2561 เรื่องการแต่งตั้งพนักงานทันทีโดยกรณีดังกล่าวแจ้งว่าเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติงานของรฟม.
สำหรับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้มีจำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วย 1.น.ส.กวิสรา ยาศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการกองจัดหาพัสดุทั่วไป 2.นายกฤต สว่างฤทธิ์ หัวหน้าแผนกอาวุโส แผนกบริหารยานพาหนะ ระดับ 10 ไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับ 11 3.นายชลัณณพ มุขสมบัติ พนักงานบริหารงานทั่วไป สังกัดแผนกบริหารยานพาหนะ ฝ่ายจัดซื้อและบริการ ไปรักษาการหัวหน้าแผนกบริหารยานพาหนะ อีกตำแหน่ง
4.นายสามินทร์ เหมพรรณไพเราะ วิศวกรระดับ 7 แผนกบริหารงานก่อสร้าง 1-1 ฝ่ายบริหารงานก่อสร้างไปทำหน้าที่วิศวกรระดับ 7 ประจำผู้ว่าการรฟม. และ 5.น.ส.วีริยา สงวนวงษ์ เลขานุการระดับ 6 ประจำรองผู้ว่าการรฟม.(วิศวกรรมและก่อสร้าง) ไปทำหน้าที่เลขานุการผู้ว่าการรฟม. โดยทั้งหมดนั้นได้รับค่าจ้างเท่าเดิมและให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2561 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าโดยช่วงก่อนนี้ได้มีคำสั่งให้นายรณชิต แย้มสะอาด รักษาการผู้ว่าการรฟม.ไปทำหน้าที่ที่ปรึกษาผู้ว่ารฟม.เพียงตำแหน่งเดียวจึงเชื่อว่ายังจะมีการโยกย้ายอีกหลายระลอกตามมาแน่ๆ ส่วนตำแหน่งไหนจะมีการปรับเปลี่ยนในยุคที่นายภคพงศ์ขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าการรฟม. คงต้องจับตาตำแหน่งรองผู้ว่าการรฟม. ที่ปัจจุบันมีเพียงนายฤทธิกา สุภารัตน์ ทำหน้าที่รองผู้ว่าการรฟม.เพียง 1 คน ยังว่างอีก 4 ตำแหน่ง ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการรฟม.ซึ่งมีจำนวน 6 ตำแหน่ง ปัจจุบันมีผู้ทำหน้าที่จำนวน 5 คน ยังคงว่างอีก 1 ตำแหน่ง คงต้องจับตาผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายที่จะได้รับการผลักดันไปทำหน้าที่ดังกล่าว
ดังนั้นคงต้องจับตาวิศวกรจะได้รับการโปรโมท ส่วนสาขาวิชาชีพอื่นคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน และดูกันต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกในองค์กรรฟม. เพราะปัจจุบันพบว่าได้นำวิศวกรไปทำหน้าที่ในหลายตำแหน่งแล้ว ยกเว้นฝ่ายการเงินกับกฎหมายเท่านั้นที่ยังไม่มีคนของผู้ว่ารฟม.คนใหม่ ยอมรับว่าฝ่ายกฏหมายของรฟม.ยังต้องติวเข้มอีกมากจึงต้องจับตากันว่าจะมีการผลักดันให้ผู้อำนวยการฝ่ายกฏหมาย ไปนั่งตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการรฟม.หรือไม่ เช่นเดียวกับฝ่ายพัฒนาธุรกิจ พัฒนาโครงการ และพัฒนาพื้นที่จะได้รับการโยกย้ายในตำแหน่งที่สูงขึ้นเพื่อให้วิศวกรเข้าไปทำหน้าที่เหล่านี้ทั้งหมด
“ประเด็นที่ว่าเมื่อขึ้นรับตำแหน่งผู้ว่ารฟม. จะไม่มีการล้างบาง บัดนี้เริ่มเห็นกันชัดเจนแล้ว ซึ่งระยะเวลาอีก 4 ปีต่อจากนี้คงต้องจับตากันต่อไปว่าจะมีการวางทายาทรองรับไว้อย่างไรบ้าง ประการสำคัญอย่ามองข้ามเรื่องการเดินรถ และการร่วมทุนพีพีพีสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ซึ่งคาดว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มช.การช่างได้รับงานนี้ ดังนั้นกลุ่มบีทีเอสและกลุ่มอื่นๆที่คาดหวังว่าจะได้รับงานครั้งนี้คงต้องลุ้นจนหืดขึ้นคอแน่ๆ”
แหล่งข่าวระดับสูงของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย(รฟม.) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าตามที่นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ได้เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการรฟม.คนใหม่ตั้งแต่วันที่ 2 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา ล่าสุดได้ลงนามคำสั่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ 135/2561 เรื่องการแต่งตั้งพนักงานทันทีโดยกรณีดังกล่าวแจ้งว่าเพื่อความเหมาะสมในการปฏิบัติงานของรฟม.
สำหรับผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งในครั้งนี้มีจำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วย 1.น.ส.กวิสรา ยาศิริ ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการกองจัดหาพัสดุทั่วไป 2.นายกฤต สว่างฤทธิ์ หัวหน้าแผนกอาวุโส แผนกบริหารยานพาหนะ ระดับ 10 ไปทำหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน ระดับ 11 3.นายชลัณณพ มุขสมบัติ พนักงานบริหารงานทั่วไป สังกัดแผนกบริหารยานพาหนะ ฝ่ายจัดซื้อและบริการ ไปรักษาการหัวหน้าแผนกบริหารยานพาหนะ อีกตำแหน่ง
4.นายสามินทร์ เหมพรรณไพเราะ วิศวกรระดับ 7 แผนกบริหารงานก่อสร้าง 1-1 ฝ่ายบริหารงานก่อสร้างไปทำหน้าที่วิศวกรระดับ 7 ประจำผู้ว่าการรฟม. และ 5.น.ส.วีริยา สงวนวงษ์ เลขานุการระดับ 6 ประจำรองผู้ว่าการรฟม.(วิศวกรรมและก่อสร้าง) ไปทำหน้าที่เลขานุการผู้ว่าการรฟม. โดยทั้งหมดนั้นได้รับค่าจ้างเท่าเดิมและให้มีผลตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2561 เป็นต้นไป
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่าโดยช่วงก่อนนี้ได้มีคำสั่งให้นายรณชิต แย้มสะอาด รักษาการผู้ว่าการรฟม.ไปทำหน้าที่ที่ปรึกษาผู้ว่ารฟม.เพียงตำแหน่งเดียวจึงเชื่อว่ายังจะมีการโยกย้ายอีกหลายระลอกตามมาแน่ๆ ส่วนตำแหน่งไหนจะมีการปรับเปลี่ยนในยุคที่นายภคพงศ์ขึ้นมาทำหน้าที่ผู้ว่าการรฟม. คงต้องจับตาตำแหน่งรองผู้ว่าการรฟม. ที่ปัจจุบันมีเพียงนายฤทธิกา สุภารัตน์ ทำหน้าที่รองผู้ว่าการรฟม.เพียง 1 คน ยังว่างอีก 4 ตำแหน่ง ส่วนตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการรฟม.ซึ่งมีจำนวน 6 ตำแหน่ง ปัจจุบันมีผู้ทำหน้าที่จำนวน 5 คน ยังคงว่างอีก 1 ตำแหน่ง คงต้องจับตาผู้อำนวยการฝ่ายกฎหมายที่จะได้รับการผลักดันไปทำหน้าที่ดังกล่าว
ดังนั้นคงต้องจับตาวิศวกรจะได้รับการโปรโมท ส่วนสาขาวิชาชีพอื่นคงต้องร้องเพลงรอไปก่อน และดูกันต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกในองค์กรรฟม. เพราะปัจจุบันพบว่าได้นำวิศวกรไปทำหน้าที่ในหลายตำแหน่งแล้ว ยกเว้นฝ่ายการเงินกับกฎหมายเท่านั้นที่ยังไม่มีคนของผู้ว่ารฟม.คนใหม่ ยอมรับว่าฝ่ายกฏหมายของรฟม.ยังต้องติวเข้มอีกมากจึงต้องจับตากันว่าจะมีการผลักดันให้ผู้อำนวยการฝ่ายกฏหมาย ไปนั่งตำแหน่งผู้ช่วยผู้ว่าการรฟม.หรือไม่ เช่นเดียวกับฝ่ายพัฒนาธุรกิจ พัฒนาโครงการ และพัฒนาพื้นที่จะได้รับการโยกย้ายในตำแหน่งที่สูงขึ้นเพื่อให้วิศวกรเข้าไปทำหน้าที่เหล่านี้ทั้งหมด
“ประเด็นที่ว่าเมื่อขึ้นรับตำแหน่งผู้ว่ารฟม. จะไม่มีการล้างบาง บัดนี้เริ่มเห็นกันชัดเจนแล้ว ซึ่งระยะเวลาอีก 4 ปีต่อจากนี้คงต้องจับตากันต่อไปว่าจะมีการวางทายาทรองรับไว้อย่างไรบ้าง ประการสำคัญอย่ามองข้ามเรื่องการเดินรถ และการร่วมทุนพีพีพีสายสีส้มและสายสีม่วงใต้ซึ่งคาดว่าจะเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มช.การช่างได้รับงานนี้ ดังนั้นกลุ่มบีทีเอสและกลุ่มอื่นๆที่คาดหวังว่าจะได้รับงานครั้งนี้คงต้องลุ้นจนหืดขึ้นคอแน่ๆ”
