“ลุ้น 9 เม.ย.” มติศาลยุติธรรม เดินหน้า/ยุติ ”บ้านเชิงดอย”?

08 เม.ย. 2561 | 11:14 น.
1523182624287 กระเเสข่าวที่สังคมออนไลน์เเละสื่อหลากเเขนงนำเสนอข่าวสารในช่วงนี้ ประเด็นร้อนประเด็นหนึ่งคือ การวิพากษ์ว่าการศาลบ้านพักของส่วนราชการเเห่งหนึ่ง บุกรุกพื้นที่ป่าของอุทยานเเห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยหรือไม่?

เรื่องนี้หากย้อนไปเมื่อสองปีเศษที่ผ่านมามีการหยิบยกมาเป็นประเด็นในสังคมออนไลน์มาครั้งหนึ่งเเล้วเเละมีการชี้เเจงข้อเท็จจริงดังกล่าวโดยเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2559 นายอุดม สิทธิวิรัชธรรม ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 5 เคยแถลงข่าวกรณีที่มีการแชร์ภาพถ่ายทางอากาศ และเผยข้อมูลทางโซเซียลเน็ตเวิร์คว่ามีการสร้างสิ่งปลูกสร้าง รวมทั้งหมู่บ้านบริเวณเชิงเขาใกล้กับห้วยตึงเฒ่า โดยตั้งคำถามว่ามีการรุกล้ำเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยหรือไม่

นายอุดมเเถลงในครั้งนั้นว่า “ภาพถ่ายตามที่มีการลงนั้นเป็นพื้นที่บริเวณงานก่อสร้างอาคารศาลอุทธรณ์ภาค 5 ที่พักของข้าราชการตุลาการ ข้าราชการศาลยุติธรรมในจังหวัดเชียงใหม่”
NEWS-เปิดปมบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ_content-copy-12 การเเถลงข่าวครั้งนั้นนายอุดม ระบุว่า สืบเนื่องมาจากศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้ย้ายที่ทำการจาก กทม.มาที่ จ.เชียงใหม่ตั้งแต่ปี 2548 จึงได้ขอใช้พื้นที่อาคารเพื่อเป็นที่ทำการร่วมกับศาลแขวงเชียงใหม่และศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่สี่แยกศาลเด็ก ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ เชียงใหม่ - ลำปาง แต่ศาลทั้งสองมีปริมาณคดีและมีประชาชนผู้มาติดต่อราชการเป็นจำนวนมาก ประกอบกับศาลยุติธรรมในจ.เชียงใหม่ไม่มีบ้านพักข้าราชการตุลาการและข้าราชการศาลยุติธรรมที่เพียงพอ
1 “สำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้ขอใช้ที่ราชพัสดุที่อยู่ในความปกครองดูแลของมณฑลทหารบกที่33 แปลงหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงเลขที่ 394/2500 ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ทะเบียนราชพัสดุเลขที่ ชม.1723 (บางส่วน) เนื้อที่ 147 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวาตั้งแต่ปี 2549 เพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บ้านพัก 47 หลังและอาคารชุด 13 อาคาร โดยพยายามดำเนินการก่อสร้างให้มีผลกระทบต่อสภาพพื้นที่เดิมให้น้อยที่สุด โดยได้เว้นพื้นที่ 58 ไร่ จากจุดสูงสุดของพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตโดยไม่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดๆ เพื่อคงสภาพพื้นที่ที่มีต้นไม้อยู่เดิมให้มากที่สุด” NEWS-เปิดปมบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ_content-copy-11 อนึ่งที่ดินที่ใช้ก่อสร้างบ้านพักตุลาการดังกล่าว เเต่เดิมเป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ดูเเลแต่เนื่องจากมีสภาพเป็นป่าเสื่อมโทรม กองทัพภาคที่ 3 จึงขอใช้สถานที่เพื่อฝึกกำลังพล ต่อมาในปี 2500 กรมที่ดินได้ออกเอกสารที่ดินจำนวน 23,787 ไร่ เพื่อให้กระทรวงกลาโหมใช้ในราชการ โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้ไปขอขึ้นทะเบียนการใช้ประโยชน์กับกรมธนารักษ์

ต่อมาปี 2540 สำนักอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ได้ทำเรื่องขอแบ่งใช้ประโยชน์พื้นที่บางส่วน และกองทัพบกได้อนุมัติให้ใช้พื้นที่ 143 ไร่ได้ในปี 2547 โดยกองทัพบกได้ทำเรื่องส่งคืนพื้นที่ตามแปลงที่ดินนั้นให้กรมธนารักษ์

ปี 2549 กรมธนารักษ์ออกหนังสืออนุญาตให้ใช้ที่ดินราชพัสดุดังกล่าว และต่อมากระทรวงการคลังได้อนุมัติให้สำนักงานศาลยุติธรรมใช้พื้นที่ก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 สร้างบ้านพักและอาคารชุดสำหรับข้าราชการตุลาการ ซึ่งทั้งหมดเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การปฏิบัติของทางราชการ
NEWS-เปิดปมบ้านพักตุลาการเชิงดอยสุเทพ_content-copy-10 จากนั้นในปี 2556 เมื่อศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้รับงบประมาณ จึงเริ่มเปิดพื้นที่ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ตามที่ได้กำหนดไว้โดยคาดว่าจะสามารถเข้าอยู่อาศัยได้ในเดือนพ.ค.นี้

เเละบางส่วนในสังคมออนไลน์ตั้งคำถามว่า เรื่องนี้หากย้อนเวลาไปในช่วงที่มีการขออนุญาตใช้พื้นที่นั้น ใครอยู่ในฐานะที่จะสั่งการในเรื่องนี้ได้บ้าง....
8-2-768x432 โดยระบุกันว่า...
ปี2544-49 นายทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ปี2542-48 นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม
ปี2548-49 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ เป็นปลัดกระทรวงยุติธรรม
ปี2547 พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร เป็นผบ.ทบ.
2554-56 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี

จึงมีการวิพากษ์ในสังคมออนไลน์ในตอนนี้ว่า บุคคลข้างต้นมีส่วนเกี่ยวข้องเเละผลักดันโครงการนี้หรือไม่?เเละฝ่ายอื่นๆในขณะนี้จะมีความเห็นอย่างไร เพราะเรื่องนี้จุดติดเเล้ว.....
สรรเสริญ-5
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ระบุถึงโครงการก่อสร้างบ้านพักตุลาการที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์และเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 สั่งยกเลิกโครงการ พร้อมทั้งคืนพื้นที่และฟื้นฟูสภาพป่าในบริเวณว่า รัฐบาลเห็นใจและเข้าใจถึงความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่คนในชุมชนรู้สึกหวงแหนและมีส่วนร่วมในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ

“ นายกฯ ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงการคลังในฐานะที่ดูแลที่ราชพัสดุ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดูแลป่าไม้ ตลอดจนกระทรวงมหาดไทยที่ดูแลจังหวัด ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่โดยรวม รวมทั้งฝ่ายกฎหมายของ คสช.ไปพูดคุยหาทางออกที่เหมาะสมร่วมกับฝ่ายตุลาการ และส่งข้อเสนอแนะไปยังรัฐบาล เพื่อพิจารณาตัดสินใจต่อไป”

"นายกฯ เน้นย้ำว่า เรื่องนี้มีแนวคิดเริ่มต้นมาหลายปีแล้ว และรัฐบาล คสช. ไม่ได้เป็นผู้อนุมัติ แต่เพิ่งมาก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างในช่วงนี้ โดยรัฐบาลจะเร่งแก้ปัญหาและจะพยายามปรับพื้นที่ให้กลับสู่สภาพเดิม ทุกฝ่ายจึงต้องหันหน้าพูดคุยกัน ผู้รับเหมาก็น่าเห็นใจเพราะต้องทำตามสัญญาก่อสร้าง" พล.ท.สรรเสริญ ระบุ
2-2(62) ส่วนพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ.เคยระบุว่า “การก่อสร้างบ้านพักอยู่ในพื้นที่ 147 ไร่ ไม่มีบริเวณใดที่รุกล้ำไปในเขตอุทยานแห่งชาติสุเทพ-ปุย และการก่อสร้างถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง และการก่อสร้างคืบหน้าไปแล้วกว่า 95 เปอร์เซ็นต์ จึงอนุญาตให้ดำเนินการต่อจนจบโครงการ ส่วนความไม่สบายใจของพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ ต้องมีการพูดคุยกันระหว่างส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ได้รับการยอมรับกันมากที่สุด โดยฝ่ายทหารจะช่วยอำนวยความสะดวกให้”
สราวุธ-เบญจกุล ขณะที่นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมและโฆษกศาลยุติธรรม แถลงข่าวกรณีบ้านพักตุลาการที่ จ.เชียงใหม่ ว่า กรณีดังกล่าวได้ขออนุญาตใช้ที่ดินของกรมธนารักษ์ และได้รับความเห็นชอบจากส่วนราชการทั้งหมดแล้ว พื้นที่ 147 ไร่ แต่ใช้ดำเนินการจริง 89 ไร่ โดยมีเอกชนมาเป็นคู่สัญญา 3 สัญญา วงเงินรวม 950 ล้านบาท แบ่งเป็น สัญญาที่ 1 การก่อสร้างอาคารที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 เป็นเงิน 290 ล้านบาท ซึ่งแล้วเสร็จแล้ว ส่วนสัญญา 2 ก่อสร้างบ้านพักผู้พิพากษา 38 หลัง อาคารชุดตุลาการ 16 หน่วย อาคารชุดธุรการ 36 หน่วย วงเงิน 320 ล้านบาท และสัญญาที่ 3 การก่อสร้างบ้านพักผู้บริหารศาลอุทธรณ์ภาค 5 จำนวน 6 หลัง และคอนโดตุลาการ 64 หน่วย เป็นเงิน 340 ล้านบาท สัญญาจะเสร็จสิ้นเดือน มิ.ย.2561

“การก่อสร้างดังกล่าวไม่ได้ตัดต้นไม้ทำลายป่า โดยใช้วิธีการขุดย้ายต้นไม้ขนาดใหญ่ปลูกในพื้นที่ทั้งหมด โดยแผนระยะสั้น คือ ไม่มีการตัดต้นไม้และดูแลพื้นที่ให้สมบูรณ์ แผนระยะกลางคือการปลูกป่าเพิ่มเติม 6,400 ต้น ในวันศาลยุติธรรม 21 เม.ย.นี้ และแผนระยะยาวคือการปลูกป่าในแต่ละปี”
2(59) "ส่วนที่ผ่านมาถ้าถามว่าเราเคยรับฟังความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนหรือไม่ เราไม่ได้ตอบว่าเราทำถูกกฎหมายอย่างเดียว แต่สิ่งที่พี่น้องประชาชนให้ความห่วงใยเราก็พร้อมที่จะรับฟัง และรับข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งจากแผนที่เราดำเนินการอยู่ก็คิดว่ามันจะดีขึ้น และทุกคนจะอยู่กับสิ่งแวดล้อมได้ ไม่ได้มีปัญหา เพราะเราไม่ได้เข้าไปทำลายสิ่งแวดล้อม แต่เราต้องการจะอยู่กับสิ่งแวดล้อมและรักษาสิ่งแวดล้อมไว้" โฆษกศาลยุติธรรม กล่าว

นายสราวุธเเถลงว่า ในฐานะเลขาธิการศาลยุติธรรม ที่เป็นคู่สัญญากับเอกชน ตนไม่เคยปฏิเสธความรับผิดชอบซึ่งการก่อสร้างไม่เกี่ยวกับศาลอุทธรณ์ภาค 5 แต่ปัจจุบันอยู่ในความรับผิดชอบของสำนักงานศาลยุติธรรม ขณะนี้การก่อสร้างคืบหน้าแล้ว ร้อยละ 98 ส่วนข้อเสนอของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่ให้มีการประชุมร่วม 3 ฝ่าย ได้แก่ ศาลยุติธรรม ทหาร และประชาชน ศาลพร้อมรับฟัง
1-9 “โดยวันที่ 9 เม.ย.นี้ เวลา 09.30 น. คณะกรรมการศาลยุติธรรมจะประชุมพิจาณาว่าจะมีมติให้ศาลยุติธรรมดำเนินการอย่างไรต่อไป จากนั้นจะนำเรื่องเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตร ซึ่งเบื้องต้นทั้งคู่ยังไม่มีหนังสือมาถึงศาล แต่ยืนยันปฏิบัติตามคำสั่ง โดยต้องดูพื้นฐานของเหตุและผล”

จากนี้ต้องรอลุ้นกันว่าวันจันทร์นี้มติศาลยุติธรรมจะออกมาเช่นใด เเละสังคมจะยอมรับหรือไม่....
......................
ภาพ : Watchdog.ACT

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว