"บิ๊กตู่" เยือนปัตตานี เปิดชุมนุมลูกเสือ จ.ชายแดนใต้ วอนช่วยสอดส่อง ต้านภัยคุกคามทุกรูปแบบ

04 เม.ย. 2561 | 09:15 น.
"พล.อ.ประยุทธ์" ลงพื้นที่ปัตตานี เปิดงาน "ชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนใต้" ครั้งที่ 13 ระบุให้ช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องให้ราชการ ต้านภัยคุกคามความมั่นคงชาติทุกรูปแบบ

เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61 เวลา 07.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดปัตตานี ด้วยเครื่องบิน C – 130 จากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ไปยังท่าอากาศยานปัตตานี ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อเปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3 – 7 เม.ย. เพื่อเป็นกิจกรรมแสดงออกถึงความจงรักภักดีของลูกเสือต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เทิดพระเกียรติพระบรมราชจักรีวงศ์ และเพื่อแสดงความพร้อมศักยภาพของลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ สู่ประชาคมอาเซียน รวมถึงเพื่อส่งเสริมให้ลูกเสือทำความดีมีจิตอาสา มีความสามัคคีอยู่ร่วมในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสันติสุข ที่สนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี ตำบลรูสะมิแล อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี
20180404145141545 จากนั้น เวลา 09.45 น. ที่สนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. เป็นประธานพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 โดยมีลูกเสือเข้าร่วมงานกว่า 4,000 คน ทั้งนี้เมื่อมาถึงนายกฯเปิดกรวยดอกไม้สักการะสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร และรับฟังการกล่าวรายงานจากผู้บังคับการค่ายงานชุมนุมฯ ผู้บังคับบัญชาลูกเสืออาวุโส นำลูกเสือกล่าวคำปฏิญาณ จากนั้นนายกฯกล่าวเปิดงานชุมนุมลูกเสือฯ ว่า ตนรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 13 “ลูกเสือรวมพลัง ทำความดี รู้รักสามัคคี เทิดทูนสถาบัน เชื่อมสัมพันธ์สู่อาเซียน” ในวันนี้ กิจการลูกเสือและเนตรนารีนั้น ถือว่าเป็นกิจกรรมด้านการศึกษาที่มีเกียรติและเป็นที่ยอมรับในสังคมโลกว่า ลูกเสือเป็นผู้มีระเบียบวินัยมีความซื่อสัตย์ เสียสละ อดทน ปฏิบัติหน้าที่อย่างมีกฎเกณฑ์และยินดีช่วยเหลือผู้อื่นทุกเมื่อ โดยลูกเสือทุกคนจะยึดถือคำปฏิญาณและกฎของลูกเสือเป็นแนวปฏิบัติอย่างมีเกียรติ ลูกเสือมีหน้าที่อันหลากหลาย ได้แก่ หน้าที่ต่อชาติ ลูกเสือจะต้องรู้รักสามัคคี และช่วยสอดส่องดูแลเป็นหูเป็นตาให้แก่ราชการต่อภัยคุกคามความมั่นคงของชาติทุกรูปแบบ

"บิ๊กตู่" เผย ไม่ว่าศาสนาใด ต่างสอนให้เป็นคนดี ภักดีต่อสถาบัน เป็นหลักสำคัญของลูกเสือ

นายกฯ กล่าวว่า หน้าที่ต่อศาสนา ไม่ว่าลูกเสือจะนับถือศาสนาใดๆ ขอให้ระลึกและเข้าใจว่าทุกศาสนาต่างก็มีความมุ่งหมายอย่างเดียวกันคือ สอนให้บุคคลเป็นคนดี ได้แก่ การละเว้นความชั่ว กระทำความดี และทำใจให้ผ่องใสบริสุทธิ์ หน้าที่ต่อพระมหากษัตริย์ การแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นหน้าที่อันสำคัญของลูกเสือทุกคน ต่อสถาบันอันเป็นที่เคารพรัก และเทิดทูนอย่างสูงสุดของประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ หน้าที่ด้านการช่วยเหลือผู้อื่น การบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่นเป็นหลักสำคัญประการหนึ่งของลูกเสือ ที่ได้รับการยกย่องจากประชาชนทั่วไป ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องคือ ผู้ปกครอง และผู้กำกับลูกเสือควรหาโอกาสให้ลูกเสือได้บำเพ็ญประโยชน์ โดยเริ่มจากเรื่องที่ใกล้ตัวก่อน เช่น ที่บ้าน ควรส่งเสริมให้เด็กทำงานในบ้าน ช่วยเหลือพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือบำเพ็ญประโยชน์ต่อครอบครัว อันเป็นการปลูกฝังลักษณะนิสัยที่ดีให้แก่เด็ก ที่โรงเรียนหรือชุมชน ควรส่งเสริมให้เด็กได้ทำงานอันเป็นประโยชน์ต่อเพื่อน ต่อโรงเรียน และชุมนุมให้มากที่สุด โดยสอนให้ลูกเสือตระหนักว่างานเป็นสิ่งที่มีเกียรติ งานเท่านั้นเป็นเครื่องวัดคุณค่าของคน
20180404145142231 "บิ๊กตู่" เผย เป็นโอกาสดี ได้เรียนรู้วัฒนธรรมลูกเสือตปท.

นายกฯ กล่าวว่า งานชุมนุมลูกเสือในครั้งนี้ นอกจากจะมีลูกเสือเนตรนารีจากภูมิภาคต่างๆ ของไทยแล้ว ยังมีลูกเสือจากประเทศเพื่อนบ้าน และลูกเสือจากต่างประเทศมาร่วมงานด้วย จึงนับเป็นโอกาสอันดีที่พวกเราจะได้ศึกษาขนบธรรมเนียม ประเพณีของเพื่อนบ้านแต่ละประเทศ ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมระหว่างกัน ได้เชื่อมความสัมพันธ์อันดี ตลอดจนได้มีโอกาสแสดงถึงไมตรีจิตของคนไทย จึงขอให้แสดงออกถึงความเป็นเจ้าบ้านที่ดี มีน้ำใจ มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แสดงออกให้ประเทศเพื่อนบ้านเราได้เห็นว่า คนไทยมีอัธยาศัยดี มีความจริงใจ และมีความพร้อมที่จะจับมือกันพัฒนาความก้าวหน้าไปด้วยกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นายกฯกล่าวว่า ในโอกาสนี้ ตนขอแสดงความชื่นชมคณะกรรมการจัดงาน ผู้ให้การสนับสนุนทั้งภาครัฐและเอกชนตามกลไกประชารัฐ ลูกเสือเนตรนารี และผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ได้มุ่งมั่นทุ่มเทในการดำเนินกิจกรรมเพื่อให้เยาวชนของชาติ ได้รับการปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมอันดี ตลอดจนการสร้างสรรค์สิ่งดีงามร่วมกัน และขอให้คณะกรรมการ เจ้าหน้าที่ ผู้บังคับบัญชา ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมให้ลูกเสือเนตรนารี ในห้วงเวลา 5 วัน โดยใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อให้เยาวชนผู้เข้าร่วมงานชุมนุมได้รับประสบการณ์และทักษะชีวิต มีความสมัครสมานสามัคคี อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข อันจะส่งผลให้เกิดความมั่นคงของชาติบ้านเมืองสืบไป ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันอย่างเข้มแข็ง จนทำให้งานชุมนุมลูกเสือในครั้งนี้ เกิดขึ้นและประสบความสำเร็จ ตามวัตถุประสงค์ทุกประการ จากนั้นนายกฯทำพิธีจุดพุเปิดงานชุมนุมลูกเสือฯ ขณะที่ลูกเสือทำพิธีเดินสวนสนาม

"บิ๊กตู่" บอก เด็กๆ หลายคนโตขึ้นมาเป็น "นายกฯ-ปธน."
20180404145142653
จากนั้นนายกฯได้เดินพบปะลูกเสือแต่ละค่ายย่อย พร้อมกล่าวว่า ทุกคนที่มาวันนี้เป็นเพื่อนของเราทั้งสิ้น วันหน้าทุกคนโตขึ้นหลายคนอาจจะรับราชการ หลายคนเป็นนายกฯ เป็นประธานาธิบดี รู้จักกันวันนี้เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีในวันหน้า ขณะเดียวกันนายกฯยังได้พูดคุยกับเด็กๆที่ร่วมโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมระบุว่าให้เด็กๆ เร่งทำสถิติ ตนได้สั่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้นำคนเก่งไปแข่งกับทีมชาติ ก่อนจะไปแข่งในต่างประเทศ ทั้งนี้ทุกคนมีส่วนร่วมขับเคลื่อนประเทศชาติทั้งหมด ไม่ใช่นายกฯคนเดียว เราต้องไปด้วยกันทั้งพหุพาคี ต่างศาสนาอยู่ด้วยกันได้หมด ทำให้เป็นโลกแห่งสันติสุข

ส่องทะเบียนรถ "บิ๊กตู่" ที่ใช้ลงพื้นที่ "ปัตตานี" "กจ2984"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการลงพื้นที่ครั้งนี้ นายกฯใช้รถยนต์เลขทะเบียน กจ 2984 ยะลา ขณะที่การรักษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างเข้มงวด ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ยืนประจำจุดดูแลตลอดเส้นทาง

จากนั้นเวลา 11.00 น. นายกฯ จะเป็นประธานการประชุมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ณ ศาลากลางจังหวัดปัตตานี ตำบลสะบารัง อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี ขณะที่ในช่วงบ่ายนายกฯ จะเดินทางไปวัดทรายขาว ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เพื่อสักการะพระประธาน และเจ้าอาวาสวัดทรายขาว ณ อุโบสถมหาอุด พร้อมสักการะหลวงพ่อทวดสิทธิชัย หลวงพ่อทวด และหลวงพ่อทวดหมาน ณ วิหาร 3 ทวด ก่อนมอบอุปกรณ์กีฬาให้แก่ตัวแทนนักเรียนของโรงเรียนในพื้นที่ จำนวน 5 โรงเรียน และเดินทางไปยังมัสยิดนัจมุดดีน บ้านควนลังงา ตำบลทรายขาว อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พบปะผู้นำศาสนาและกล่าวกับประชาชน ก่อนร่วมพิธีขอดูอาร์ ที่มัสยิดโบราณ 300 ปี และเยี่ยมชมบ่อน้ำโบราณ ศูนย์การเรียนรู้ประจำหมู่บ้านควนลังงา ก่อนเดินทางกลับในช่วงค่ำวันเดียวกันนี้