"สมคิด" ถกทีมดูอิ้งบิสิเนสรับเวิลด์แบงก์เยือนกลางพ.ค.นี้

03 เม.ย. 2561 | 13:40 น.
ทศพรเผย 4 เม.ย. สมคิด เรียกถกหน่วยงานเตรียมข้อมูล หลัง ธนาคารโลกคอนเฟิร์มส่งทีมเก็บข้อมูลดูอิ้งบิสิเนส 15-18 มี.ค. จี้พีอาร์ให้ปชช.-ผู้ประกอบการใช้ออนไลน์มากขึ้น มั่นใจอันดับขยับแน่นอน

- 3 เม.ย. 61 - นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) ให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ในวันที่ 4 เม.ย.นี้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จะเชิญประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ หรือ ดูอิ้งบิสิเนส (Doing business) มาประชุมที่กระทรวงการคลัง เวลา 14.00 น. เพื่อติดตามว่าสิ่งต้องปรับปรุงแก้ไขมีความคืบหน้าไปถึงไหนเป็นอย่างไรบ้าง เป็นการเตรียมความพร้อมก่อนที่ ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) จะส่งทีมมาเก็บข้อมูล Doing Business ของประเทศไทย ในช่วงวันที่ 15-18 พ.ค. 2561 เพื่อนำไปออกรายงานจัดอันดับประเทศที่มีความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ ในช่วงสิ้นปี ซึ่งปีที่แล้ว ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 26 ของโลก

“ส่วนความคาดหวังของปีนี้ ตั้งเป้าหมายว่าคะแนนจะต้องต่ำกว่าอันดับที่ 26 เพราะหลังจากปีที่แล้วทุกส่วนราชการก็ดำเนินการมาได้ตลอด และรัฐบาล โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี รวมทั้งรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 ท่าน ท่านสมคิดกับท่านวิษณุ มีความจริงจังและติดตามงานอย่างมาก” นายทศพร กล่าว

ส่วนวิธีการเก็บคะแนนของธนาคารโลก เลขาฯ ก.พ.ร. กล่าวว่า นอกจากเขาจะสอบถามข้อมูลจากหน่วยงานราชการแล้ว ยังไปสอบถามภาคเอกชนว่าระบบที่หน่วยงานราชการปรับไปแล้ว เป็นอย่างไร ใช้งานได้จริงหรือไม่ ซึ่งปีนี้ระบบการบริการหน่วยงานราชการพัฒนาไปทางด้านดิจิทัลมากขึ้น แต่ปัญหาที่ต้องแก้ไข เพราะบางมาตรการได้รับความนิยมน้อยในการใช้ระบบออนไลน์ เช่น นายจ้างสามารถจ่ายเงินสมทบประกันสังคม ความจริงผ่านแอพพลิเคชั่น E-Payment ได้ แต่ก็ด้วยความเคยชินก็ยังเดินทางไปจ่ายที่สำนักงาน

“ซึ่งเวิลด์แบงก์บอกว่าถ้าระบบนี้จะทำให้สำเร็จต้องมีคนใช้ให้มากกว่า 50% สมมติมีนายจ้าง 1 ล้านคน ต้องมีนายจ้าง 5 แสนคนจ่ายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งสิทธิพิเศษของการจ่ายเงินสมทบออนไลน์สามารถจ่ายล่าช้ากว่าปกติได้ 8 วัน เหมือนกับการจ่ายภาษีนิติบุคคลออนไลลน์ หากจ่ายหลังวันที่ 30 มี.ค.”

เลขาฯ ก.พ.ร. กล่าวอีกว่า สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พยายามประชาสัมพันธ์ โดย ก.พ.ร. ก็จะทำคู่ขนานด้วยการร่วมมือกับหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ เพื่อบอกสมาชิกของเขาและประชาชนให้ใช้ระบบออนไลน์ให้มากขึ้น เพราะการใช้ระบบออนไลน์ได้สิทธิพิเศษมากกว่า อย่างเช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ถ้าไปจดทะเบียนบริษัท บริษัทธรรมดาค่าจดทะเบียน 5,500 บาท แต่ถ้าใช้ระบบออนไลน์จะลดเหลือ 3,850 บาท ดังนั้นเรามีระบบหลายอย่างที่ดีแล้ว แต่จะต้องสื่อสารกับประชาชนมากขึ้นเพื่่อจูงใจให้มาใช้บริการมากขึ้น