'ออมสิน' เกทับ! ฟรีค่าต๋งแบงก์

01 เม.ย. 2561 | 07:21 น.
010461-1404



‘ออมสิน’ เตรียมจัดหนักค่าธรรมเนียมออนไลน์ หลังธนาคารใหญ่แห่ยกเว้นค่าธรรมเนียม ระบุ จะให้มากกว่าฟรี ... ‘บุญทักษ์’ ชี้! ฟินเทค-โซเชียล พลิกบทบาทแบงก์ ต้องเร่งหารายได้ชดเชย ด้าน เซ็นเพย์ปรับแผนรับมือรายได้ที่จะหายไปในอนาคต


ปรากฏการณ์ 6 ธนาคารพาณิชย์ไทย พร้อมใจยกเลิกค่าธรรมเนียมสำหรับการทำธุรกรรมผ่านแอพพลิเคชันบนมือถือในปี 2561 ซึ่งสะท้อนการแย่งฐานลูกค้าของแต่ละค่าย ก่อนที่จะนำเสนอบริการทางการเงินต่อยอดรายได้ในอนาคต เพราะผลพวงของ Digital Disrupt ที่เข้ามาเร็ว ทั้งเทคโนโลยีทางการเงิน หรือ Fintech, Payment, Blockchain, Cloud หรือ AI และเพราะทุกธนาคารเพิ่งย้ายระบบโอนที่ใช้เลขบัญชีในการโอนขึ้นระบบพร้อมเพย์ ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งเรื่องระบบชำระเงิน หรือ Local Swithing, Currency Sawp และ Cheque Clearing เป็นต้น

 

[caption id="attachment_273341" align="aligncenter" width="503"] ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน[/caption]

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การยกเว้นค่าธรรมเนียมออนไลน์ของธนาคารพาณิชย์ถือว่ามาเร็วกว่าที่คาดไว้ที่ 3 ปี ทำให้ธนาคารต้องปรับตัว ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะเห็นประกาศของธนาคารที่ไม่แค่ยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับธุรกรรมออนไลน์ แต่จะให้มากกว่านั้น เพราะถือว่าเป็นธนาคารขนาดใหญ่ แต่ยังบอกรายละเอียดไม่ได้ เพราะต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการก่อน

นายบุญทุกษ์ หวังเจริญ กล่าวกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า การลดค่าธรรมเนียมครั้งนี้ เป็นทิศทางที่ถูกต้องของอุตสาหกรรมธนาคารทั้งระบบ เพราะการดึงฐานผู้ใช้บริการทางการเงินขึ้นแพลตฟอร์มดิจิตอล จะส่งให้ค่าใช้จ่ายเรื่องค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่ำลง รวมถึงการลดปริมาณการใช้เงินสด ซึ่งเป็นเป้าหมายของประเทศ ขณะที่ ธนาคารจะได้รับประโยชน์เช่นกัน เพราะต้นทุนใช้เงินสดเราสูงถึง 1.6% ของจีดีพี เทียบสิงคโปร์แค่ 0.5% เท่านั้น ดังนั้น ต้องดึงทั้งแบงก์และนอนแบงก์เพื่อให้ระบบสมบูรณ์


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

นายปรีดี ดาวฉาย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า เป็นเพียงจุดเปลี่ยนเดียวของธนาคารพาณิชย์ เพราะเชื่อว่า ยังมีอีกหลายเรื่อง เช่น หลังจากนี้ไปจะกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ภาพระบบการชำระเงินของไทยมุ่งสู่รูปแบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างชัดเจน ส่วนการที่ธนาคารจะหารายได้มาชดเชย ขึ้นกับพฤติกรรมลูกค้าและผู้กำกับดูแล เนื่องจากอนุญาตให้ธนาคารทำธุรกิจได้จำกัด 3-4 อย่างเท่านั้น โดยมีรายได้จากดอกเบี้ย 60% และรายได้ค่าธรรมเนียม 40% เมื่อรายได้ส่วนนี้ลดลง ต้องหาธุรกิจที่จะมาช่วยชดเชย เช่น อี-คอมเมิร์ซ ซึ่งธนาคารได้ลองทำแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถชดเชยได้ เพราะยังเก็บค่าธรรมเนียมไม่ได้ หรือ การจะปรับขึ้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมบางอย่าง ก็เป็นเรื่องยาก

นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรีคอนซูเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ช่วงนี้ทุกธนาคารเน้นบริหารจัดการต้นทุนภายในให้ได้ก่อน เพื่อรอขั้นตอนหารายได้ที่จะมาชดเชย โดยเชื่อว่า ทุกธนาคารจะดูเรื่องการบริหารจัดการความมั่งคั่ง (Wealth Management) ธุรกิจประกันและสินเชื่อรายย่อยจะดุเดือดมากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจที่มีส่วนต่างกำไรอยู่ (Margin) ถ้าสามารถคุมความเสี่ยงได้ โดยสินเชื่อรายย่อยจะเห็นการแข่งขันในด้านอัตราดอกเบี้ยมากขึ้น เพื่อชดเชยรายได้


15-3353

เซ็นเพย์ปรับแผนรับมือรายได้หด
ด้าน นายมนตรี สิทธิญาวณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ห้างเซ็นทรัล ดีพาร์ทเมนท์สโตร์ จำกัด ผู้ให้บริการรับชำระค่าบริการ ‘Cenpay’ ในเครือเซ็นทรัล กล่าวว่า การยกเว้นค่าธรรมเนียมธุรกรรมผ่านมือถือ ย่อมกระทบต่อธุรกิจให้บริการรับชำระค่าบริการ แต่จะเป็นลักษณะค่อย ๆ กระทบมากกว่าเฉียบพลัน เนื่องจากลูกค้าต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ต้องรอดูพฤติกรรมของลูกค้าก่อน เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังนิยมจ่ายบิลหน้าเคาน์เตอร์ ซึ่งต้องมองว่า การชำระผ่านแอพพลิเคชันนอกเหนือจากฟรีค่าธรรมเนียม ลูกค้าจะได้รับประโยชน์อะไรเพิ่มเติมหรือไม่

“ผู้ให้บริการรับชำระค่าบริการอาจต้องทบทวนแผนงานในหลายส่วน ทั้งเรื่องค่าบริการ หรือ รูปแบบของการบริการเสริม ที่จะเสริมเข้ามาเพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาใช้ โดยเราเองต้องศึกษาภาพรวมของตลาดที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ ที่ไม่เพียงแค่เรื่องของกระแสในช่วงสั้น ๆ แต่เป็นเรื่องของภาพรวมอุตสาหกรรมบริการอิเล็กทรอนิกส์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเราจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการซื้อของจากร้านค้าในเครือ ทั้งท็อปส์ บีทูเอส หรือ เพาเวอร์บาย ที่มีบริการรับชำระในคราวเดียวอยู่แล้ว เพราะมีสะสมแต้มเข้ามาเป็นส่วนเสริมด้วย”

……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,353 วันที่ 1-4 เม.ย. 2561 หน้า 15
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
1 เม.ย. ครบรอบ 105 ปี เด็กเกิดวันนี้ตั้งชื่อ “ออมสิน" รับ 5 พัน
ออมสินแก้หนี้นอกระบบ เฟส 2


e-book-1-503x62