เปิดตัว “ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน”

26 มี.ค. 2561 | 07:23 น.

Thansettakij เว็บไซต์ข่าวฐานเศรษฐกิจ ผนวกไลฟ์สไตล์ Start up SMEs อสังหาริมทรัพย์ การเงิน การลงทุน การตลาด เศรษฐกิจ เทคโนโลยี Breaking News อัพเดตข่าวล่าสุดที่นี่

ท็อปส์ เดินหน้าประกาศลุย CSV เต็มตัว อัพเลเวล “ท็อปส์เพื่อเกษตรกรไทย ร่วมใจประชารัฐ” สู่ “ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน” โฟกัส คุณภาพสินค้า หลังเข้าไปสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนทั่วไทยกว่า 500 ชุมชน จำนวน 10,000 ครัวเรือน ประเดิมคัดคุณภาพ ทุเรียนชะนีเกาะช้าง พร้อมใจคัดเกรดทุเรียนส่งท็อปส์ ดีเดย์คิกออฟเปิดโครงการอย่างเป็นทางการวันที่ 29 มีนาคม 2561 ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 เซ็นทรัลพลาซา บางนา

ถ่ายภาพร่วมกันหลังพิธีลงนามMOUซื้อขายผลไม้ล่วงหน้า นางสาวเมทินี พิศุทธิ์สินธพ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้บริหารฟู้ดสโตร์ “เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์” และ“ท็อปส์” กล่าวว่า ในปี 2559 บริษัทได้เปิดตัวโครงการ “ท็อปส์เพื่อเกษตรกรไทย ร่วมใจประชารัฐ” ดำเนินการภายใต้นโยบายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืน หรือ Sustainable Development ซึ่งเป็นการประกาศตัวว่าเป็นฟู้ดสโตร์รายแรกและรายเดียวในไทย ที่นำกลยุทธ์การสร้างคุณค่าร่วม หรือCreating Shared Value มาใช้ในการดำเนินธุรกิจ

ยึดหลักการดำเนินธุรกิจที่ คำนึงถึงการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ขึ้นให้กับเกษตรกร ด้วยการเข้าไปรับซื้อตรง สินค้าเกษตร สินค้าแปรรูป โอทอป และ SME จากทั่วประเทศ มาจำหน่าย และได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านการผลิตและการตลาดทั้งระบบให้กับเกษตรกร อาทิเช่น การเลือกพันธุ์ผักที่ตลาดต้องการ, วางแผนการปลูก, การคัดเกรดสินค้า, การตัดแต่งผักและผลไม้เพื่ อขนส่ง, การแพ็คสินค้า, การกระจายสินค้า (Logistic), การแปรรูปสินค้า และการออกแบบตราสินค้า เป็นต้น

ทุเรียนชะนีเกาะช้าง  (3) จนถึงปี 2560 บริษัทประสบความสำเร็จ สามารถช่วยเหลือและสนับสนุนเกษตรกร ชุมชน สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชนรวมกว่า 500 ชุมชน 10,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ  โดยมีชุมชนและกิจกรรมไฮไลท์ อาทิ มะขามหวาน จาก วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพ แปรรูปมะขามหวานบ้านโนนเสาธง จ.เพชรบูรณ์, หมี่กรอบพรหมสร จากวิสาหกิจชุมชน มะขามทอง จ.กาญจนบุรี, ผักเมืองหนาว อาทิ บล็อคโคลี่, กะหล่ำปลี จากกลุ่มสหกรณ์ผลิตผักน้ำดุกใต้ จำกัด จ.เพชรบูรณ์, ข้าวสังข์หยด จาก วิสาหกิจชุมชนบ้านเขากลาง ต.ปันแต อ.ควนขนุน จ.พัทลุง, ส้มสีทองน่าน จาก วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรผู้ปลูกส้มเขียวหวานสีทอง จ.น่าน เป็นต้น

ในปี 2561 บริษัทได้ประกาศนโยบายลุย CSV เต็มสูบ พร้อมเปลี่ยนชื่อโครงการเป็น “ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน” ภายใต้สโลแกน “สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของเซ็นทรัล กรุ๊ป ที่เพิ่งเปิดตัวโครงการ “เซ็นทรัล ทำ”

ทุเรียนหมอนทอง เกาะช้าง โครงการ “ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน” ตอกย้ำแนวทางการดำเนินงานของบริษัท ที่พุ่งเป้าไปที่การยกระดับและพัฒนาชุมชนทั้งในแง่คุณภาพ ให้เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและนานาชาติ พร้อมเดินหน้าหาชุมชนใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ มีความพร้อม มีความตั้งใจอันดีที่ต้องการสร้างชุมชนบ้านเกิดให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าในกลุ่ม อาหารปลอดสาร อาหารปลอดภัย เกษตรอินทรีย์หรือออร์แกนิก และสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ จีไอ (GI) ซึ่งเป็นไปตามกระแสความต้องการของตลาดโลก รวมถึงการผลักดันให้มีการนำนวัตกรรมมาใช้ เพื่อยืดอายุสินค้า

คัดเลือกสินค้าจากชุมชนที่มี จุดยืนร่วมกันในการคัดเกรดสินค้าที่ดีที่สุดในฤดูกาลให้กับผู้บริโภคได้ลิ้มลอง ล่าสุด  ท็อปส์ ได้ลงนามสัญญาข้อตกลงซื้อขายผลไม้ล่วงหน้าระหว่างสหกรณ์ ส่งเสริมภาคธุรกิจการเกษตรจังหวัดตราด จำกัด เพื่อรับซื้อผลไม้เมืองร้อน ได้แก่ ทุเรียนชะนีเกาะช้าง ทุเรียนหมอนทอง เงาะ มังคุด และลองกอง ในราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ

ด้านนายธนภัทร จาวินัจ ผู้จัดการ สหกรณ์ส่งเสริมภาคธุรกิจการเกษตรจังหวัดตราด จำกัด กล่าวเสริมว่า จากปัญหาที่เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนชะนีเกาะช้างประสบในปี 2560 ได้แก่ทุเรียนล้นตลาด และเกษตรกรตัดผลทุเรียนอ่อน เนื่องจากได้น้ำหนักเยอะ ราคาขายสูง แต่ไม่มีคุณภาพ ทำให้ทั้งตลาดในและต่างประเทศไม่รับซื้อ จึงได้ประสานงานไปยัง ท็อปส์ ด้วยความช่วยเหลือจากกรมการค้าภายใน ท็อปส์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้ ให้เกษตรกรตัดทุเรียนเมื่อแก่จัด ดูเรื่องความปลอดภัย วางแผนระบบการขนส่ง เพื่อให้ทุเรียนสุกพร้อมรับประทานเมื่อขนส่งถึงสาขา และจัดการเรื่องการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรภายใน 7 วัน ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจในการค้าขายร่วมกับท็อปส์ และตั้งใจจะผลิตทุเรียนคุณภาพให้ส่งจำหน่ายในท็อปส์

ในปี 2560 สหกรณ์ฯ ได้ส่งผลไม้ให้ ท็อปส์ รวมประมาณ 300 ตัน เฉพาะทุเรียนชะนีเกาะช้างและทุเรียนหมอนทอง ยอดส่งรวมประมาณ 150 ตัน และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,000 ตันในปี 2561 คาดว่าจะเป็นทุเรียนกว่า 500 ตัน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีกว่าทุเรียนที่ปลูกบนเกาะช้าง จะมีรสชาติโดดเด่นเฉพาะตัวและมีสารอาหารอย่างไอโอดี ต่างจากทุเรียนทั่วไป เนื่องจากสภาภูมิประเทศเป็นเกาะภูเขาไฟเก่า ติดทะเล รสชาติอร่อยเป็นที่ต้องการของตลาด ขายได้ราคาดี จนตอนนี้เกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกกัน

“สมาชิกสหกรณ์มองเห็นโอกาสทางการตลาด โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าของท็อปส์นั้น จะตัดสินใจซื้อจากคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก การค้าขายกับท็อปส์ทำให้สหกรณ์มีความมั่นคง สมาชิกเห็นชอบร่วมกันว่าจะทำทุเรียนคุณภาพ อาจใช้ต้องแขวนทุเรียนคาต้นนานขึ้น เพื่อให้พร้อมสุกรับประทานทันที เมื่อถึงมือลูกค้า ปัจจุบันสหกรณ์มีสมาชิก 139 คน เราไม่ได้อยากได้จำนวนเยอะ เราต้องการคนที่มีวิสัยทัศน์ร่วมกันว่าจะทำทุเรียนคุณภาพ และวางแผนคัดเกรดทุเรียนให้ เหมาะกับกับต้องการของลูกค้าในแต่ละสาขาของท็อปส์”

นอกจากนั้น สหกรณ์เตรียมมาออกงาน เพื่อจำหน่ายและประชาสัมพันธ์ทุเรียนเกาะช้างให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น  ในงานเปิดโครงการ“ท็อปส์ทำ นำชุมชนยั่งยืน” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 28 มีนาคม – 3 เมษายน 2561 ภายในงานจะมีการออกร้านจำหน่ายผัก ผลไม้ สินค้าออร์แกนิค สินค้าจีไอ สินค้าแปรรูป โอทอป เอสเอ็มอี อาหารพร้อมรับประทานเมนูขึ้นชื่อจากภาคต่างๆ กว่า 100 รายการ จาก 60 ชุมชนที่ ท็อปส์ เข้าไปสนับสนุน โดยมีเกษตรกรมาออกร้านจำหน่ายด้วยตัวเอง พร้อมกิจกรรมสาธิตเมนูเด็ดจากทั่วทุกภาค และจะมีพิธีเปิดโครงการอย่างเป็นทางการ ในวันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม 2561 ที่ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา บางนา