ข้อคิดก่อนเริ่มทำธุรกิจกับครอบครัว(1)

หลายคนอาจฝันที่จะสร้างธุรกิจครอบครัวเพื่อส่งต่อให้กับทายาทรุ่นต่อไป ซึ่งแน่นอนว่าการสร้างบางสิ่งบางอย่างร่วมกันอาจเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นและคุ้มค่า พ่อแม่สามารถให้คำปรึกษาแก่ลูกและช่วยให้พวกเขาเติบโตในฐานะนักธุรกิจและเรื่องส่วนตัวได้ แต่ขณะเดียวกันการทำงานร่วมกันอาจก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่แตกแยกในครอบครัวได้ เว้นแต่บริษัทจะได้รับการวางแผนอย่างดีตั้งแต่เริ่มแรก

อย่างไรก็ตามหนึ่งในคำแนะนำที่ได้ยินบ่อยครั้งคือการเตือนผู้ประกอบการใหม่ว่าไม่ควรเริ่มต้นทำธุรกิจกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว ดังนั้นหากมีโอกาสที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจกับสมาชิกในครอบครัวหรือเข้าร่วมในธุรกิจที่ครอบครัวเป็นเจ้าของอยู่แล้ว ควรต้องคิดให้หนักและคิดให้มากเกี่ยวกับการตัดสินใจนี้ ซึ่งหากกำลังพิจารณาจะทำธุรกิจกับคู่สมรส พี่น้อง พ่อแม่หรือญาติๆ คุณจะได้รับประทานอาหารร่วมกันเป็นประจำและใช้ช่วงเวลาที่น่าจดจำและกิจกรรมครอบครัวร่วมกันจนกลายเป็นกลุ่มที่แน่นแฟ้น คุณรู้ว่าสิ่งไหนที่จะทำให้คนอื่นยิ้มได้หรือตกใจกลัว ครอบครัวทำให้บางคนมีความสำคัญกับคุณมาก และคุณจะได้เงินตอบแทนไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไรก็ตาม แต่เป็นการฉลาดที่จะทำธุรกิจกับคนเหล่านี้หรือไม่ ซึ่งแม้ในหมู่ผู้เชี่ยวชาญก็มีความเห็นไม่ตรงกันว่าจะเป็นการดีต่อสมาชิกในครอบครัวหรือไม่ที่จะเริ่มต้นและดำเนินธุรกิจร่วมกัน

ทั้งนี้ Ryan Robinson ผู้เชี่ยวชาญธุรกิจครอบครัวได้วิเคราะห์จากประสบการณ์กับผู้ประกอบการและจากคำแนะนำของผู้นำธุรกิจชั้นนำของโลกถึงข้อดีข้อเสียบางประการเอาไว้ในบทความชื่อ “14 Pros and Cons for Staring a Business with Family Members” เพื่อให้สามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเองในการเริ่มต้นทำธุรกิจกับสมาชิกในครอบครัว ดังนี้

ข้อดีของการเริ่มต้นธุรกิจกับครอบครัว
1. ได้เปรียบในเรื่องความสัมพันธ์ภายในและความร่วมมือ อีกทั้งจะได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว รู้และเข้าใจรูปแบบการมีปฏิสัมพันธ์และมีโอกาสน้อยที่จะได้พบคุณลักษณะที่อาจเป็นภัยต่อบริษัท

2. เพื่อนร่วมงานจะเป็นมากกว่าเพื่อนหรือคู่ค้าทางธุรกิจ พวกเขาเป็นเพื่อนที่คุณนับถือและสมาชิกในครอบครัวที่ให้ความสำคัญกับคุณอย่างแท้จริง ดังนั้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับสมาชิกในครอบครัวน่าจะมีความเห็นอกเห็นใจกันมากกว่า

3. คนสำคัญยังคงเป็นผู้มีส่วนได้เสียมากกว่ามุ่งเพียงแค่ความสำเร็จของธุรกิจ ทุกคนรวมใจเป็นหนึ่งเดียวโดยมีเป้าหมายร่วมกันและยินดีที่จะเสียสละเพื่อความสำเร็จของบริษัท

4. อารมณ์ในที่ทำงานผ่อนคลายมากขึ้นเพราะคุณรู้สึกสบายใจกับคนรอบข้างและไม่จำเป็นต้องพูดคุยสัพเพเหระเพื่อสร้างความคุ้นเคย

5. เนื่องจากสมาชิกในครอบครัวรู้จักกันดี จึงมีความกดดันน้อยเมื่อพูดถึงผลการดำเนินงานด้านการเงินและมีความยืดหยุ่นมากกว่าในเรื่องระยะเวลาในการรับผลตอบแทนจากการลงทุน

6. ธุรกิจครอบครัวมักใช้แบรนด์ที่ดึงดูดตลาดได้แข็งแกร่งมากกว่า เนื่องจากมีการถ่ายทอดประเพณี การทำงานหนักและงานฝีมือสืบต่อกันมา เมื่อนึกถึง Levi’s, Gucci, Beretta, Ford, Nike, Hasbro และ Mars อาจกล่าวได้ว่าส่วนหนึ่งของความสำเร็จของบริษัทเหล่านี้มาจากความดึงดูดของครอบครัวเหล่านั้นนั่นเอง

7. นับเป็นเรื่องง่ายที่จะเริ่มต้นดำเนินธุรกิจได้อย่างรวดเร็วเพราะไม่ต้องกังวลกับการสัมภาษณ์หุ้นส่วน และตรวจสอบภูมิหลัง หรือเกียรติประวัติและคุณสมบัติตามที่ต้องการ

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,351 วันที่ 25 - 28 มีนาคม พ.ศ. 2561