"ประยุทธ์"พอใจผลการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย

24 มี.ค. 2561 | 01:05 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนว่า” เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้เดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ณ นครซิดนีย์ ออสเตรเลีย ที่จัดขึ้นเพื่อหารือกันระหว่างผู้นำประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนกับออสเตรเลีย ภายใต้หัวข้อ “การส่งเสริมความมั่นคงและความมั่นคั่งในภูมิภาค” ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่าจะต้องมีผลลัพธ์การหารือที่นำไปสู่การปฏิบัติจริงให้ได้

20180318080734 ออสเตรเลีย ถือเป็นประเทศคู่เจรจาที่เก่าแก่ที่สุดของอาเซียนมากว่า 44 ปีแล้ว ทำให้มีความเข้าใจอาเซียนเป็นอย่างดี เข้าใจระหว่ากันทั้ง 2 ทาง ปัจจุบันออสเตรเลียเป็นอีกประเทศที่อยู่ระหว่างการพิจารณาทางเลือกใหม่ ๆ ในการดำเนินความสัมพันธ์กับโลกภายนอก รวมถึงการหาความสมดุลในภูมิภาค โดยเฉพาะการพัฒนาแนวคิด “อินโด-แปซิฟิก” ที่จะเชื่อมโยงประเทศในหมาสมุทรอินเดีย และมหาสมุทรแปซิฟิกเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง

เราจึงต้องเร่งพัฒนาการเป็น “หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ในหลาย ๆ ด้านเพื่อรองรับความท้าทายต่าง ๆ สำหรับในด้านเศรษฐกิจ ปัจจุบันมีความตกลง “เขตการค้าเสรี” อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ ซึ่งมีศักยภาพที่จะนำมาใช้เป็นเวทีในการยกระดับ “หุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ” ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นขึ้นได้อีก
ในการเดินทางครั้งนี้ ผมและผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและออสเตรเลียได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในการต่อต้านการก่อการร้ายสากลระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลีย เพื่อย้ำเจตนารมณ์ในการร่วมมือต่อต้านการก่อการร้ายสากล และยังได้รับรอง “ปฏิญญาซิดนีย์” ซึ่งเป็นเอกสารกำหนดวิสัยทัศน์ความร่วมมือระหว่างอาเซียนกับออสเตรเลียในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการต่อต้านภัยคุกคามในหลายรูปแบบต่อความมั่นคง การใช้ประโยชน์จากพื้นที่มหาสมุทรร่วมกันอย่างสันติ ความมั่นคงปลอดภัยทางทะเล และการบินเหนือน่านฟ้าในภูมิภาค ส่วนในด้านเศรษฐกิจ ก็จะมีการสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าระหว่างกัน ที่รวมถึงการเร่งรัดการจัดทำความตกลง RCEP นะครับ การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล และการร่วมกันสนับสนุน MSMEs และลดช่องว่างการพัฒนา อีกทั้งจะส่งเสริมการเชื่อมโยงในระดับประชาชนผ่านความเชื่อมโยงทางการศึกษา ความร่วมมือทางสิ่งแวดล้อมและการสาธารณสุขด้วย นอกจากนี้ ออสเตรเลียได้เสนอโครงการต่าง ๆ ที่ครอบคลุมทั้งเสาการเมืองและความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน เพื่อดำเนินการ โดยมุ่งเน้นประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการต่อต้านการค้ามนุษย์ เพิ่มเติมด้วย
20180318080740 ในที่ประชุม ผมได้เน้นย้ำว่า “แนวคิดอินโด – แปซิฟิก” ที่กำลังร่วมกันพัฒนานี้ ควรนำไปสู่ดุลยภาพทางยุทธศาสตร์ใหม่ โดยคำนึงถึงความเป็น “แกนกลาง” ของอาเซียน ด้วยการยึดถือการไว้เนื้อเชื่อใจกัน การเคารพซึ่งกันและกัน และการสร้างประโยชน์ร่วมกันโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วมด้วย ซึ่งนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียก็ได้ย้ำเช่นกัน ว่าอาเซียนคือหัวใจของภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกนี้ นอกจากนั้น ยังได้มีการหารือประเด็นในภูมิภาคและโลกที่อยู่ในความสนใจของทั้งสองฝ่าย ได้แก่ สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี และพัฒนาการสถานการณ์ในรัฐยะไข่ ซึ่งผมก็ได้เสนอให้มีการจัดตั้งกลไกที่จะส่งเสริมพื้นที่ปลอดภัยและการพัฒนาที่ยั่งยืนในรัฐยะไข่ ให้เป็นเอกภาพนะครับ จากบรรดาประเทศสมาชิก โดยจะต้องรับฟังความต้องการ หรือเจตนารมย์ของรัฐบาลเมียนม่าด้วยนะครับ ทั้งนี้ เพื่อมิให้เกิดการแทรกแซงจากภายนอกได้นะครับ เราต้องแก้ปัญหาของเราให้ได้โดยเร็วนะครับ โดยอาเซี่ยนด้วยกันเองนะครับ สนับสนุนซึ่งกันและกันอย่างมีเอกภาพ

ในปีหน้านี้ ไทยจะรับหน้าที่เป็นประธานอาเซียน ทำให้เราจะต้องทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านในการต้อนรับการประชุมต่าง ๆ ของอาเซียนตลอดปี รวมถึงการเป็นเจ้าภาพเอเปกในปี 2565 ด้วย ซึ่งรัฐบาลอยู่ระหว่างการเตรียมการอย่างดีที่สุด เพื่อให้เห็นความพร้อมของไทย และเป็นโอกาสในการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและบทบาทของไทยในการเป็นผู้นำในหลาย ๆ ด้านด้วย ผมขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในการเป็น “เจ้าบ้านที่ดีร่วมกัน” เพื่อแสดงให้เห็นความน่าอยู่ ความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศเราร่วมกันด้วยนะครับ อันนี้ก็อยากจะฝากเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าการประชุมเอเป็ค จะปี 2565 ก็ตาม ใครจะเป็นรัฐบาลก็ตาม เราคงต้องเตรียมการแต่บัดนี้นะครับวันนี้ก็ตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ในการเตรียมการประชุมทั้ง 2 ประชุม ปีหน้าประชุมอาเซี่ยน ปี 65 ประชุมเอเป็ค ต้องเตรียมการทั้งหมดนะครับ ก็ขอให้สานต่อกันต่อไป บ้านเมืองต้องสะอาดเรียบร้อย ปลอดภัยนะครับ มีเสถียรภาพ

อยากให้ดูบ้านเมืองของออสเตรเลียด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่ในบริเวณ อ่าวซิดนี่ย์ เขาได้จัดระเบียบกันอย่างสวยงามเรียบร้อย มีทั้งสถานที่ออกกำลังกาย ท่องเที่ยว ร้านอาหาร นะครับ เป็นระเบียบเรียบร้อย แล้วก็สะอาดสวยงาม การดูแลเรื่องน้ำเสีย การขจัดน้ำเสีย บรรดาน้ำที่ไหลมาจากบ้านพักอะไรต่างๆ พวกเขามีวิธีการที่ทำยังไงจะไม่ไหลลงคลองต่างๆ นะครับ หรือลงทะเลนะครับอันนี้ก็เป็นสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งคือเรื่องสิ่งแวดล้อมนะครับ ดูแล้วกัน ถ้าบ้านเราสามารถทำได้ในพื้นที่ที่เป็นริมน้ำ ริมเเม่น้ำ ริมคลอง เราอาจจะทำไม่ได้เหมือนเขาทั้งหมด แต่สิ่งที่สำคัญที่เราจะต้องทำก็คือ ทำอย่างไร น้ำเสียจะไม่ไหลลงคลอง ต้องไปหาวิธีที่เหมาะสมนะครับ ถ้ารื้อทั้งหมดอาจเป็นไปไม่ได้ ฉะนั้นเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าเราจะดักน้ำเสียที่จะไหลลงคลอง ทำร่องระบายน้ำต่างๆ ทั้งปิด และเปิด อย่างน้อยก็ทำทีละคลอง จะได้หรือไม่นะครับ วันนี้ผมให้แนวทางกับส่วนกลางไปพิจารณาแล้วนะครับ การดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ทับซ้อน หลายอย่าง ต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ข้อสำคัญคือประชาชนต้องร่วมมือด้วยนะครับ ถึงจะแก้ปัญหาได้นะครับ แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์
สำหรับความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียนั้น มีมายาวนานซึ่งจะครบรอบ 70 ปี ในปี 2565 นี้นะครับ พอดีกับวาระนี้พอดีเลย ซึ่งออสเตรเลียถือเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยมายาวนาน โดยในปี 2560 ไทยกับออสเตรเลียมีการค้าระหว่างกันสูงถึง 500,000 ล้านบาทนะครับ โดยถือเป็นคู่ค้าอันดับ 9 นะครับ ในปัจจุบัน ไทยมีการทำความตกลงทางการค้ากับออสเตรเลียภายใต้ TAFTA ที่มีขอบเขตความตกลงอย่างกว้างขวาง ซึ่งจะสามารถปรับปรุงให้เพิ่มการค้าระหว่างกันได้อีก นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังสนับสนุนให้ไทยเตรียมพร้อมเพื่อเข้าร่วมในความตกลง TPP เดิม หรือในปัจจุบัน เรียกว่า CPTIP ด้วยนะครับ โดยผมได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเป็นการขยายฐานการค้าให้กับผู้ประกอบการของไทยนะครับ และในโอกาสที่ผมได้เข้าหารือทวิภาคีกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียด้วย ในประเด็นความสัมพันธ์ไทย-ออสเตรเลียนั้น ก็ได้เชิญชวนนักลงทุนออสเตรเลียให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) นะครับ เราพร้อมจะดูแลและอำนวยความสะดวก ในขณะเดียวกัน ผมและตัวแทนภาคธุรกิจก็ได้หารือกับผมด้วยนะครับ ถึงประเด็นปัญหาอุปสรรคที่ภาคเอกชนไทยประสบอยู่ในออสเตรเลีย แล้วก็ผมก็ได้นำให้ทางนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียได้ช่วยแก้ไข ดูแลด้วยนะครับ แล้วก็ได้ขอให้ช่วยดูแลชุมชนคนไทย มีจำนวนเป็นแสนคนนะครับ และนักเรียนไทยเป็นหมื่นคน ในออสเตรเลียให้ด้วยนะครับ

ในการหารือ ผมได้เชิญนายกรัฐมนตรีของออสเตรเลียให้เดินทางมาเยือนประเทศไทย ซึ่งท่านก็ได้รับกับผมแล้วว่าจะมาเยือนบ้านเราในเร็วๆ วันนี้นะครับ หลังจากที่ว่างเว้นการหารือระดับผู้นำประเทศไปถึง 5 ปี และไม่ได้มีการมาเยือนไทยมายาวนานกว่า 20 ปีแล้ว นะครับ ของนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียนะครับ ก็ถือว่าเป็นสัญญาณตอบรับที่ดี ในชั้นต้นนะครับ ว่าประเทศต่าง ๆ นั้นเริ่มเข้าใจเรามากขึ้น เรามีภาพลักษณ์ทีดีขึ้นต่อเนื่อง ในสายตาต่างประเทศ นะครับ โดยเฉพาะการยอมรับในความจริงใจของรัฐบาลชุดนี้ ที่จะเข้ามาแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างที่เป็นปัญหาและอุปสรรคในเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วยนะครับ อย่างเต็มที่เท่าที่เราสามารถจะทำได้นะครับ” ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว