'บิ๊กป้อม' เผย คสช. ความเห็นตรงกัน ปลด 'สมชัย' พ้นจาก กกต.

23 มี.ค. 2561 | 12:15 น.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเเละ รมว.กลาโหม ในฐานะรองหัวหน้า คสช. กล่าวหลังการต้อนรับการเยือนของ สมเด็จพิชัยเสนา เตีย บันห์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมกัมพูชา ในโอกาสเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป ไทย - กัมพูชา ( General Border Committee : GBC ) ครั้งที่ 13 ระหว่าง 20 - 21 มี.ค. 61 ณ โรงแรมดุสิตธานี กทม. ถึงกรณี ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้า คสช. ใช้มาตรา 44 ปลดนายสมชาย ศรีสุทธิยากร ออกจาก กกต. ว่า ในมาตรา 44 ก็ได้บอกในรายละเอียดไปหมดแล้ว ตามคำสั่งของหัวหน้า คสช. ให้ไปอ่านในคำสั่ง เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบ แม้ว่า กกต. ทำหน้าที่เป็นองค์กรอิสระ และเมื่อวันที่ 20 มี.ค. ได้มีการหารือกันในที่ประชุม คสช. และทุกคนก็มีความเห็นด้วย

‘วิษณุ’ ยัน 4 คน ทำงานต่อไปได้ เจ้าตัวพรัอมเป็นที่ปรึกษาพรรคต่าง ๆ
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการปลดนายสมชัยเนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นของตนเกี่ยวกับกระบวนการและกำหนดการเลือกตั้ง อีกทั้งนายสมชัยยังสมัครเข้ารับการคัดเลือกดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กกต. โดยไม่ได้ลาออกจากการปฏิบัติหน้าที่ กกต. ว่า ตนไม่ทราบว่ามีเหตุผลอื่นในการปลดนายสมชัยอีกหรือไม่ รวมถึงไม่ทราบว่า ใน 2 เหตุผล ที่ระบุในคำสั่งนั้น เหตุผลใดจะมีน้ำหนักมากกว่ากัน แต่เหตุผลที่ชี้แจงในราชกิจจานุเบกษาถือว่าชัดเจนอยู่แล้ว อย่าพูดเป็นอย่างอื่นให้เสียหายแก่ผู้ใด

 

[caption id="attachment_271191" align="aligncenter" width="503"] สมชาย ศรีสุทธิยากร สมชาย ศรีสุทธิยากร[/caption]

“เมื่อวานนี้ในการประชุม คสช. ได้มีการหารือถึงเรื่องดังกล่าว แต่รายละเอียดการหารือไม่สามารถพูดได้ ส่วนเมื่อคืนวานนี้ที่ตนได้พูดคุยกับนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. ในงานศพบิดา ผบ.ตร. นั้น เป็นเพียงการหารือในเรื่องทั่ว ๆ ไป เพราะมีหลายเรื่องที่อลเวงอยู่”

เมื่อถามว่า ในคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ระบุว่า นายสมชัยให้สัมภาษณ์สื่อจนทำให้เกิดความสับสน เป็นเพราะการให้สัมภาษณ์นั้นมีการแสดงความเห็นไปก้าวล่วงคสช. ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ และไม่คิดว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว แต่ไม่คิด ไม่ได้แปลว่าไม่กลัว อย่างไรก็ดี การจะมีหรือไม่มีนายสมชัย ไม่ได้กระทบต่อการทำงานของรัฐบาลให้ราบรื่นหรือสะดุดได้ เพราะต่างคนต่างทำงาน และยืนยันว่า การปลดนายสมชัยจะไม่กระทบโรดแมปการเลือกตั้ง


แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์

เมื่อถามว่า นายสมชัยยังสามารถสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นเลขาฯ กกต. ได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ทำได้ เพราะสมัครไปแล้ว เข้าสู่กระบวนการแล้ว การคัดเลือกเลขาฯ กกต. คนใหม่จะดำเนินการต่อไป เพราะมีตารางเวลาที่ชัดเจน เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่ากกต.ชุดปัจจุบันจะไม่เลือกนายสมชัยเป็นเลขาฯ กกต. เพราะมีความขัดแย้งกับรัฐบาล นายวิษณุ กล่าวว่า ใครจะไปรู้ เพราะ กกต. 4 คน ที่เหลืออยู่ คือ ผู้เลือก เรื่องนี้รัฐบาลไม่เกี่ยว สภาฯ ก็ไม่เกี่ยว นายสมชัยถูกปลดครั้งนี้ก็ยังมีคุณสมบัติที่จะสมัครเข้ารับการคัดเลือกเลขาฯ กกต.อยู่ เพราะผลประโยชน์ไม่ขัดกันแล้ว อีกทั้งการถูกปลดด้วย ม.44 ไม่ได้ทำให้นายสมชัยติดแบล็คลิสต์ในการสมัครตำแหน่งอื่น ๆ ด้วย

เมื่อถามว่า นายสมชัยจะไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมได้หรือไม่ นายวิษณุ อย่าไปคิดให้ท่าน เพราะท่านเพิ่งออกจากตำแหน่ง คิดแทนให้ไม่พอยังให้ตนไปร่วมสมคบคิดอีก ส่วนกรณีที่นายสมชัยโพสต์เฟซบุ๊กว่า เป็นเกียรติยิ่ง ที่ได้เปิดหน้า คสช. นายวิษณุ กล่าวว่า จะทำอะไรก็ทำไป ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นก็เป็นเรื่องที่คสช. จะต้องดำเนินการ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายสมชัยถูกปลดด้วยเหตุผลหนึ่งคือการแสดงความเห็น หมายความว่าหลังจากนี้จะไม่สามารถแสดงความเห็นได้ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ก็ยังมีการแสดงความคิดเห็นกันอยู่ ไม่เห็นเป็นอะไร


ect

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะเป็นหน้าที่ของ กกต. ชุดใหม่ หรือ เก่า นายวิษณุ กล่าวว่า “กกต.ชุดเก่า ที่เหลืออยู่ 4 คน สามารถทำงานได้ตามปกติ จัดการเลือกตั้งได้ แต่หาก กกต.ชุดใหม่ มาก็ให้เขาทำ เพราะ กกต. ที่สรรหามาใหม่ 7 คน น่าจะดีกว่า กกต. 4 คน อยู่แล้ว ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้น เชื่อว่ากกต.ชุดใหม่ เข้ามาทำงานได้แล้ว แต่เพราะหลายฝ่ายกังวลว่า หากเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับการคว่ำ 7 กกต. เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา จะทำอย่างไร กกต.ชุดเก่า จึงจำเป็นต้องอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดช่องว่าง ทั้งนี้ ในรัฐธรรมนูญระบุว่า การจัดการเลือกตั้งสามารถทำได้โดยต้องมี กกต. ไม่น้อยกว่า 4 คน ส่วนที่ในคำสั่งระบุถึงการต่ออายุให้กับ กกต. เนื่องจาก นายบุญส่ง น้อยโสภณ กกต. กำลังจะมีอายุครบ 70 ปี ในวันที่ 7 ส.ค. ส่วนต้นปี 2562 ที่ยังไม่มีการจัดการเลือกตั้ง ประธาน กกต. ก็จะมีอายุครบ 70 ปีเช่นกัน จึงต้องเขียนให้อยู่ต่อ จะได้หมดเรื่อง”

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ซึ่งถูกคำสั่งหัวหน้า คสช. ปลดจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มี.ค. เดินเข้ามายังสำนักงาน กกต. ศูนย์ราชการ ถนนเเจ้งวัฒนะ เพื่อเก็บของใช้ส่วนตัว เเละให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า หลังจากนี้ จะกลับไปทำงานกับมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (พีเน็ต) เพื่อจับตาการเลือกตั้งและการเมืองหลังจากนี้ ส่วนการแสดงความเห็นใด ๆ ทางการเมือง ยืนยันจะทำหน้าที่ตามบทบาทและสิ่งที่เป็นประโยชน์ โดยคำนึงถึงสิ่งที่สร้างสรรค์และเป็นสิ่งที่ควรพูด


โปรโมทแทรกอีบุ๊ก

นายสมชัย กล่าวว่า ไม่ได้ทำหน้าที่ กกต.แล้ว จึงให้ความเห็นต่อการจดแจ้งเป็นพรรคการเมืองไม่ได้ แต่หากชื่อพรรคที่ไม่ขัดกับกฎหมายพรรคการเมืองสามารถจดแจ้งได้ และจากนี้หากพรรคใดต้องการให้ตนเป็นที่ปรึกษาตนมีความยินดี เเละสุดสัปดาห์นี้จะขนของออกจากสำนักงาน กกต. ทั้งหมด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นายสมชัยปฏิเสธจะให้ความเห็นต่อคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ปลดออกจากตำแหน่งและไม่พูดถึงรายละเอียดของบทบาท กกต. ที่เหลือเพียง 4 คน ที่ต้องทำหน้าที่กำกับและจัดการเลือกตั้ง

 

[caption id="attachment_271195" align="aligncenter" width="503"] สมชาย ศรีสุทธิยากร สมชาย ศรีสุทธิยากร[/caption]

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมชัยได้เข้าไปให้กำลังใจ นายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ หนูหริ่ง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสังคม ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ ที่เตรียมเข้าจดแจ้งพรรคเกรียนเป็นพรรคใหม่ทางการเมือง

……………….
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
"บิ๊กป้อม" เผย "ยังอนุโลมนั่งท้ายกระบะ" ย้ำชัด! มาตรการยึดรถยังมีอยู่
ป.ป.ช. ยัน! สิ้นเดือน มี.ค. รู้ผล "นาฬิกาบิ๊กป้อม"


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว