“กฤษฎา”มอบนโยบายขับเคลื่อนไทยนิยมฯงบกลาง 2.4หมื่นล.

23 มี.ค. 2561 | 09:10 น.
“กฤษฎา”มอบนโยบายขับเคลื่อนไทยนิยมฯ งบกลาง 2.4 หมื่นล้าน

kd7

23 มี.ค. 61 -นายกฤษฏา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เผยถึงการประชุมขับเคลื่อนการดำเนินงาน “การตลาดนำการผลิต” และโครงการไทยนิยมยั่งยืน ของกรมพัฒนาที่ดิน ซึ่งเป็นกรมแรกจาก 14 กรมในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกระทรวงได้งบกลางจากทางรัฐบาล 2.4 หมื่นล้านบาท กรมที่ได้สูงสุด คือ กรมชลประทาน จำนวน 1.3 หมื่นล้านบาท แนวทางการดำเนินงานโครงสร้างพื้นฐานด้านการพัฒนาแหล่งน้ำชลประทาน จำนวน 1,913 โครงการ แรงงาน 7,520 คน นอกจากนี้ยังมีโครงการก่อสร้างฝายชะลอน้ำในเขตปฏิรูปที่ดินของส.ป.ก. จำนวน 244 โครงการ 23 จังหวัด งบประมาณ 6.48 ล้านบาท เป็นต้น

kd8

 

ทั้งนี้ได้ตรวจเยี่ยมกรมพัฒนาที่ดิน พร้อมมอบนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนการดำเนินงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการบริหารงานด้านการเกษตรให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดการบูรณาการทำงานร่วมกัน ทั้งด้านข้อมูล การผลิต การตลาด เพื่อให้เศรษฐกิจฐานรากเกิดความเข้มแข็ง เพื่อพัฒนาภาคเกษตรกรรมของไทยสู่การเป็นภาคเกษตรชั้นนำของโลก โดยใช้การตลาดนำการผลิต และให้การบริหารจัดการสินค้าเกษตรเป็นไปอย่างมีเสถียรภาพทั้งราคาและการตลาด

kd3

ด้านนายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวว่า การดำเนินงานโครงการไทยนิยมยั่งยืน ในส่วนของกรมพัฒนาที่ดิน ประกอบด้วย 3 โครงการ ได้แก่ 1. โครงการเพิ่มทักษะอาชีพแก่เกษตรกรผู้ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านกิจกรรมฝึกอบรมหลักสูตร ถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านการพัฒนาที่ดิน เพื่อให้เกษตรกรได้มีการวางแผนการใช้ที่ดิน และการใช้เทคโนโลยีทางการเกษตรอย่างเหมาะสมตามสภาพของดินและการใช้ประโยชน์ที่ดิน สอดคล้องกับมาตรการโครงการรองรับการพัฒนาคุณภาพชีวิต มิติที่ 2 การฝึกอบรมอาชีพและการศึกษา และให้เกษตรกรกว่า 9,600 ราย ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาทรัพยากรที่ดิน การพัฒนาที่ดินเพื่อทำการเกษตรอย่างเหมาะสมและยั่งยืน 2. โครงการสร้างฝายชะลอน้ำของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผ่านกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,097 แห่ง ใน 45 จังหวัด
kd4

”กรมพัฒนาที่ดิน ได้น้อมนำแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เกี่ยวกับฝายมาประยุกต์ใช้ และพัฒนารูปแบบ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ทรัพยากรดินและน้ำในบริเวณพื้นที่ดำเนินโครงการ ให้มีแหล่งกักเก็บน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งเพื่อการทำเกษตรกรรม ลดปัญหาการชะล้างพังทลายของหน้าดิน และยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ โดยจะคัดเลือกพื้นที่ภายใต้เขตพัฒนาที่ดิน ที่มีศักยภาพในการพัฒนาและอยู่นอกเขตป่าไม้ และมีการชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เกษตรกรในพื้นที่โดยรอบเกี่ยวกับการใช้น้ำเพื่อการเกษตร การหยุดทำลายป่าไม้ ให้มีความรู้สึกรักหวงแหนและเต็มใจที่จะช่วยกันรักษาธรรมชาติให้เกิดความสมดุลต่อไป”
kd5

สุดท้าย โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสม ซึ่งมีจำนวนมากถึง 8.5 ล้านไร่ทั่วประเทศ เป้าหมาย 13 จังหวัด ช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างน้อย 860 ราย พื้นที่ทางการเกษตร 6,832 ไร่ งบประมาณกว่า 29 ล้านบาท ในการปลูกข้าวเพื่อผลิตสินค้าเกษตรอื่นที่เหมาะสม ที่มีกรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินการผ่านกิจกรรมการอนุรักษ์ดินและน้ำ เพื่อปรับเปลี่ยนการผลิตพืชในพื้นที่ไม่เหมาะสม(N) ไปทำเกษตรผสมผสานในพื้นที่ไม่เหมาะสมแทนการปลูกข้าว ภายใต้นโยบายการปรับเปลี่ยนโครงสร้างการผลิตตามแผนที่เกษตรเพื่อการบริหารจัดการเชิงรุก(Agri-Map) ที่ใช้เป็นแผนที่สำหรับบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ การเพาะปลูก ผลผลิตรายจังหวัด ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัจจุบันและอนาคต

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว