1 เม.ย. "อภิสิทธิ์" ตอบสังคม ทิศทางการเมืองของปชป.
- 22 มี.ค. 61 - อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการปลดล็อคทางการเมืองในไม่กี่วันข้างหน้าในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเเละหัวหน้าคสช. ระบุว่า เดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้ง เเละต้นเดือนเมษายน พรรคต่างๆจะปฏิบัติภารกิจทางการเมืองได้หลังโดนเเช่งเเข็งตามคำสั่งหัวหน้าคสช.เมื่อหลายปีก่อน
จังหวะก้าวของพรรคเก่าเเก่พรรคหนึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ว่าที่พรรคการเมืองใหม่ๆรอการอนุมัติจากกกต.มากมาย ต่างๆนานาเหล่านี้คือคู่เเข่งโดยตรงของพรรคประขาธิปัตย์ เพราะเเม้เเต่คนกันเองบางคน ยังเบนหัวเรือเพื่อสร้างพรรคในอุดมคติของตัวเองเเล้ว
จากนี้ไปหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะอธิบายการเดินหน้าของพรรคเเละการเมืองไทยในอนาคตอันใกล้...
@ อดีตส.ส.และสมาชิกพรรคที่มีอยู่ในมือขณะมีจำนวนเท่าไร
นอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศประเทศ และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานีซึ่งออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ ก็ยังไม่มีอดีตส.ส.คนไหนเลยที่เข้ามาบอกว่าไม่อยากทำงานต่อกับพรรค
@ อดีตส.ส.เเละอดีตผู้สมัคร ส.ส.คงใกล้เคียงกับการเลือกตั้งครั้งก่อน
ใช่ คงไม่มีอะไรผิดปกติ การเลือกตั้งทุกครั้งก็จะมีคนลาออกอยู่บ้าง 1-2 คน ไม่เยอะหรอก
@ มีอดีตส.ส.หน้าคนใหม่จะย้ายเข้าสังกัดหรือไม่
มีครับ
@ หน้าใหม่เป็นระดับบิ๊กเซอร์ไพรส์ เเละเคยเป็นส.ส.หลายสมัยหรือไม่
ไม่ เราไม่ได้มุ่งเรื่องของส.ส.พรรค ตอนนี้เราพยายามดึงคนรุ่นใหม่ และคนที่มีพื้นฐานที่หลากหลายมากขึ้นมากกว่า
@ หากนายสุเทพเเละคนใกล้ชิดตั้งพรรคการเมืองขึ้นจริง พรรคประชาธิปัตย์จะมีทิศทางใดก่อนการเลือกตั้งที่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปหรือไม่
ถ้าตั้งพรรคขึ้นมา ทุกพรรคก็ต้องแข่งขันกัน เรื่องนี้ต้องถามท่านสุเทพ ผมเห็นอยู่ว่านายธานีบอกว่าจะเดินต่อ เราก็สันนิษฐานว่าจะต้องเดินต่อ ซึ่งต้องเป็นอีกพรรคหนึ่งที่ต้องมาแข่งขันกัน
@ สองพรรคนี้จะจับมือเป็นพันธมิตรกันหรือไม่
ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากว่าอะไรที่มันเป็นจุดยืนร่วมกัน เช่น สมมุติว่าพรรคใหม่ที่จะตั้งขึ้นสนับสนุนงานปฏิรูป ซึ่งเราสนับสนุนอยู่แล้ว มันก็บอกว่าแนวทางบางอย่างมันก็ไปด้วยกัน แต่ว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษที่บอกว่าจะต้องปฏิบัติในแง่ของการแข่งขัน
@ นายธานีบอกว่าขอเป็นที่ 2 ในทุกพื้นที่ที่ลงแข่งขัน เหมือนไปเก็บตกคะแนนเพื่อให้ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
ผมไม่ทราบ อันนี้มันเป็นกลยุทธ์แต่ละพรรค ทางนั้นก็วางวิธีของพวกเขาไป พรรคประชาธิปัตย์ก็มุ่งหน้าให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด เพราะระบบใหม่ คะแนนเสียงก็นำมาแปรเป็นจำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อยู่แล้ว พวกเราก็เดินหน้าว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะมีข้อเสนอให้กับผู้เลือกตั้งตามที่พวกเขาเห็นว่าเราพึ่งพาได้ เรานำพาอนาคตประเทศได้ แล้วสนับสนุนเรา เราคิดแค่นี้ สำหรับผมตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเราแข่งขันกับตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่จะลงสนามการเมือง โลกกับประเทศมันเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับ 7 ปีที่แล้วที่มีการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย แม้แต่เทียบกับเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 โลกก็เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ฉะนั้นพรรคที่จะหาคำตอบให้สังคมได้ก็ต้องเข้าใจความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ มีข้อเสนอที่มาตอบโจทย์ตรงนี้ได้หมด เช่น เรื่องสังคมสูงวัย เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องคอร์รัปชั่น ที่ยังไม่สามารถจัดการได้
@ ตอนนี้คสช.ห้ามพูดเรื่องนโยบายพรรค
ใครไม่ให้พูด แต่ก่อนที่จะถึงนโยบายเราต้องพูดเรื่องหลักคิดอุดมการณ์ ผมบอกได้เลยว่าวันนี้สังคมมีทางเลือกชัดเจน ทางเลือกคือ 1.รัฐราชการอนุรักษ์นิยมตามที่คสช.ทำอยู่ 2.ประชานิยม ที่กลับไปหาการทุจริตคอร์รัปชั่น 3.เสรีนิยมประชาธิปไตย ทางเลือกนี้เป็นของพวกเรา ยืนยันว่าเราจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จากนั้นเสรีนิยมประชาธิปไตยก็ต้องมาแปลงเป็นเรื่องๆว่า นโยบายมีอะไรบ้าง ส่วนพรรคใหม่จะเสนอเป็นทางเลือกใดก็ว่ากันไป เราต้องมองตรงนี้ก่อน เพราะประเทศจะมาแข่งขันกันเป็นเรื่องๆไม่ได้แล้ว เช่น ใครจะให้ค่าแรงสูงกว่ากันมันไม่ใช่แล้ว ต้องมาพูดว่าตกลงเราจะเดินแบบคสช.หรือไม่ หรือเราจะเดินแบบประชานิยม
@ ทำไมพรรคประขาธิปัตย์ยังประกาศเป็นพรรคทางเลือกอยู่
ทางเลือกมีเป้าหมายเป็นทางหลัก แต่ผมให้เกียรติทางเลือกอื่น ผมจะมาบอกว่าผมเป็นหลักคนเดียวได้อย่างไร ใครจะเป็นหลักไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่ที่พรรค เเละขึ้นอยู่ที่คนเลือกตั้ง ถ้าคนเลือกตั้งเลือกคนของพรรคคุณมาเยอะ พรรคของคุณก็เป็นหลัก หากคนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกคนของพรรคคุณมาน้อย ทางเลือกไหนก็ยังไม่รู้เลย ผมเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย ผมจึงบอกว่าประชาชนต้องมีทางเลือก
@ พรรคทางเลือกที่มีเป้าหมายเป็นทางหลักคิดจะจับมือกับพรรคไหนหรือกลุ่มไหนหรือไม่
ผมบอกไว้เลยว่าพรรคของผมต้องเป็นหลัก ต้องไปถามว่าใครจะจับมือกับพรรคของผม แต่ไม่ใช่ใครก็ได้ ต้องดูว่าใครยอมรับแนวทางความคิดที่พวกเราทำ เช่น ผมเอาเรื่องกระจายอำนาจคุณเอาหรือไม่ ผมไม่ยอมให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่น พวกคุณจะเอาด้วยหรือไม่
@ หากพรรคขนาดกลางรวมตัวกันและเสนอพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมขบวนด้วยหรือไม่
ผมยังไม่รู้เลยว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯคนนอกหรือคนใน ผมสมมุติว่า หากพรรคต่างๆรวบรวมเสียงมาได้ ถามว่าพรรคของผมจะไปร่วมหรือไม่ พวกเราก็ต้องดูก่อนว่าแนวทางของพวกเขาตรงกับแนวทางที่พรรคของผมไปหาเสียงหรือไม่ ปรับเข้ากันได้หรือไม่ หากปรับเข้ากันไม่ได้ก็ไม่ไป จะไปทำไม ผมก็ต้องซื่อสัตย์ ซื่อตรงกับคนที่สนับสนุนพรรคของผม
@ เเปลว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ปิดทางของตัวเอง เพราะถ้าปรับตรงกันได้ก็จะเข้าร่วม
ถ้ามันตรงกัน มันก็ร่วมได้ แต่ตอนนี้มันมีอะไรที่ไม่ตรงกันเยอะพอสมควร ชัดเจนแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอากระจายอำนาจ แนวคิดระบบเศรษฐกิจก็ไม่ได้แก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างในเรื่องทุนขนาดใหญ่ ไม่ได้แก้โครงสร้างการดูแลภาคการเกษตร
@ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะเชิญพรรคการเมืองต่างๆ หารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง และให้พรรคการเมืองนำนโยบายไปบอกสังคมว่าจะทำอะไรบ้าง
ผมก็ฟังอยู่ ตอนนี้ยังงงๆอยู่ว่าตกลงพล.อ.ประยุทธ์จะให้บอกหรือไม่ให้บอก นโยบายพรรคของผมให้ไปหลายเรื่องแล้ว อาทิ การทุจริตคอร์รัปชั่น ในยุคของผมใครมีปัญหานำออกไปก่อน บัตรคนจนทำไมต้องบังคับให้ใช้เพียง 2 ร้าน ให้เป็นเงินสดทำได้ไหม? วิธีของผมไม่ต้องมาขอ ผมให้เลย เงินจะได้หมุนไปในชุมชน จะได้ช่วยเหลือแม้ค้าในตลาดสด ให้เลยไม่ต้องขอ และการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ไม่ใช่แก้จนประมงพื้นบ้านไม่เหลือ ต้องทำให้ประมงพื้นบ้านอยู่ได้ แต่เราต้องสามารถดำเนินการต่างประเทศ เพื่อให้สหภาพยุโรปเข้าใจและยอมรับ เเบบนี้พรรคประชาธิปัตย์ให้มาตลอดไม่ต้องขอ แล้วพวกเขาทำหรือเปล่า?
@ ตามโรดแมปแล้วเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้งหรือไม่
อยู่ประมาณนั้น ผมไม่ได้ยึดติดหรอก ไม่ได้ดูฤกษ์ไว้ว่าจะเดือนไหน
@ พรรคมีความพร้อมลงสนามเลือกตั้งหรือไม่
พร้อม พรรคการเมืองในระบบรัฐสภาต้องพร้อมอยู่แล้ว ปัญหาที่เป็นเรื่องจะวุ่นวาย คือการไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง ผมมองว่าทุกพรรคก็พร้อม ผมไม่ค่อยเห็นเหตุผลว่าทำไมถึงสร้างปัญหานี้ การที่พรรคการเมืองจะประชุมทำตามกฎหมาย ผมมองไม่เห็นเลยว่าจะกระทบความมั่นคง พรรคการเมืองที่จะทำให้กระทบความมั่นคง ไม่รอปลดล็อคหรอก พวกเขาอยากจะทำอะไร ก็ทำอยู่แล้ว เเละไม่รอเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีวาระการประชุมเพื่อจะป่วนเมืองหรอก
@ เมื่อคสช.ปลดล็อคการเมืองแล้ว จะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง
สัปดาห์หน้าผมจะบอก เพราะวันที่ 1 เม.ย. จะเริ่มกระบวนการยืนยันสมาชิกพรรค ผมสอบถามกกต.และคสช.ไปแล้วเเต่พวกเขาไม่ตอบ คสช.ให้เหตุผลตอนรีเซ็ตสมาชิกพรรคว่าเหตุที่ต้องทำอย่างไรนี้ เนื่องจากสมาชิกพรรคต้องรู้ว่าเมื่อมีกฎหมายใหม่ พรรคการเมืองจะมีนโยบายและข้อบังคับอย่างไร แต่ว่าไม่ให้พวกเราประชุมพรรค พวกเราก็มีมติอย่างเป็นทางการไม่ได้ พวกเราเคยหารือไปแล้ว ก็ไม่มีคำตอบ แต่วันที่ 1 เม.ย. ผมคงต้องแถลงเพื่อบอกว่าแนวทางที่ผมตั้งใจไว้ แม้จะไม่เป็นมติพรรค เเต่ต้องบอกว่า มันมีอะไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจของสมาชิกพรรค ผมจะได้พูดเป็นเรื่องเป็นราว ลำดับให้ขั้นตอนของพรรคทั้งหมด
@ กติกาที่คสช.เขียนไว้สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้พรรคการเมืองทำผิดกฎหมายหรือไม่
ผมไม่คิดจะทำอะไรผิดกฎหมาย ผมคิดว่าเราทำทันตามกรอบเวลาที่กฎหมายเขียนไว้ และตั้งใจทำมากกว่าที่กฎหมายเขียนด้วย ดังนั้นไม่ต้องเอาพวกผมไปอ้าง
ตอนนี้แม่น้ำ 5 สายของคสช.สร้างปัญหาขึ้นมาเอง เมื่อออกกฎหมายมาแล้วก็ไม่มั่นใจว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะเอาความชัดเจนจากศาลก็กลัวว่าจะกระทบการเลือกตั้ง มันจึงกล้าๆกลัวๆ ความจริงทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องกลัวเลย เพราะพล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกจากกกต.ยังปลดได้เลย ผมจึงบอกว่าสมมุติว่า พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่มั่นใจว่ากฎหมายมีปัญหาหรือไม่ให้ส่งศาล แต่ถ้าส่งศาลแล้วรู้ว่าเวลามันเคลื่อนออกไป ก็ออกเป็นนโยบายให้สนช.เอานำปม 90 วันออกไป แล้วให้บังคับใช้กฎหมายทันทีทุกอย่างมันก็จบ ก็เลือกตั้งได้ตามเดิม เเต่มันอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ จะบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ยุ่งไม่เกี่ยว มันไม่ใช่ กฎหมายพรรคการเมืองพล.อ.ประยุทธ์ก็แก้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ทำได้หมด มันไม่ใช่ว่าถ้าส่งศาลแล้วทุกอย่างจะช้า ถ้าไม่ส่งศาลเกิดความไม่มั่นใจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ทำได้ทั้ง 2 อย่าง ทำกฎหมายให้มันชัด และเลือกตั้งตามกรอบเวลาเดิม พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจทำได้หมด อยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่
@ ถ้าให้เปรียบคสช.เหมือนทีมฟุตบอลจะเปรียบเป็นทีมอะไร
(หัวเราะ) คสช.นั้นเปรียบยาก เพราะว่าแสดงตัวเป็นกรรมการอยู่ แต่ไม่ปิดทางที่จะลงมาเล่นเอง มันไม่มีทีมไหนบนโลกใบนี้ที่มีลักษณะนี้ ผมจึงเปรียบเทียบคสช.เป็นทีมฟุตบอลไมได้
@ แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นทีมอะไร
ไม่ได้หรอก ผมไปมีความเห็นว่าทีมไหนดีไม่ดี ผมทำไม่ได้หรอก ส่วนทีมนิวคาลเซิล (ทีมโปรดของนายอภิสิทธิ์) ใครจะมาเทคโอเวอร์ก็ได้ ช่วยเอาเจ้าของเก่าออกไปที (ยิ้ม)
จังหวะก้าวของพรรคเก่าเเก่พรรคหนึ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้ว่าที่พรรคการเมืองใหม่ๆรอการอนุมัติจากกกต.มากมาย ต่างๆนานาเหล่านี้คือคู่เเข่งโดยตรงของพรรคประขาธิปัตย์ เพราะเเม้เเต่คนกันเองบางคน ยังเบนหัวเรือเพื่อสร้างพรรคในอุดมคติของตัวเองเเล้ว
จากนี้ไปหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะอธิบายการเดินหน้าของพรรคเเละการเมืองไทยในอนาคตอันใกล้...
@ อดีตส.ส.และสมาชิกพรรคที่มีอยู่ในมือขณะมีจำนวนเท่าไร
นอกจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศประเทศ และนายธานี เทือกสุบรรณ อดีตส.ส.สุราษฎร์ธานีซึ่งออกมาให้ข่าวเกี่ยวกับการจดทะเบียนจัดตั้งพรรคใหม่ ก็ยังไม่มีอดีตส.ส.คนไหนเลยที่เข้ามาบอกว่าไม่อยากทำงานต่อกับพรรค
@ อดีตส.ส.เเละอดีตผู้สมัคร ส.ส.คงใกล้เคียงกับการเลือกตั้งครั้งก่อน
ใช่ คงไม่มีอะไรผิดปกติ การเลือกตั้งทุกครั้งก็จะมีคนลาออกอยู่บ้าง 1-2 คน ไม่เยอะหรอก
@ มีอดีตส.ส.หน้าคนใหม่จะย้ายเข้าสังกัดหรือไม่
มีครับ
@ หน้าใหม่เป็นระดับบิ๊กเซอร์ไพรส์ เเละเคยเป็นส.ส.หลายสมัยหรือไม่
ไม่ เราไม่ได้มุ่งเรื่องของส.ส.พรรค ตอนนี้เราพยายามดึงคนรุ่นใหม่ และคนที่มีพื้นฐานที่หลากหลายมากขึ้นมากกว่า
@ หากนายสุเทพเเละคนใกล้ชิดตั้งพรรคการเมืองขึ้นจริง พรรคประชาธิปัตย์จะมีทิศทางใดก่อนการเลือกตั้งที่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปหรือไม่
ถ้าตั้งพรรคขึ้นมา ทุกพรรคก็ต้องแข่งขันกัน เรื่องนี้ต้องถามท่านสุเทพ ผมเห็นอยู่ว่านายธานีบอกว่าจะเดินต่อ เราก็สันนิษฐานว่าจะต้องเดินต่อ ซึ่งต้องเป็นอีกพรรคหนึ่งที่ต้องมาแข่งขันกัน
@ สองพรรคนี้จะจับมือเป็นพันธมิตรกันหรือไม่
ไม่มีอะไรพิเศษ นอกจากว่าอะไรที่มันเป็นจุดยืนร่วมกัน เช่น สมมุติว่าพรรคใหม่ที่จะตั้งขึ้นสนับสนุนงานปฏิรูป ซึ่งเราสนับสนุนอยู่แล้ว มันก็บอกว่าแนวทางบางอย่างมันก็ไปด้วยกัน แต่ว่าไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษที่บอกว่าจะต้องปฏิบัติในแง่ของการแข่งขัน
@ นายธานีบอกว่าขอเป็นที่ 2 ในทุกพื้นที่ที่ลงแข่งขัน เหมือนไปเก็บตกคะแนนเพื่อให้ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์
ผมไม่ทราบ อันนี้มันเป็นกลยุทธ์แต่ละพรรค ทางนั้นก็วางวิธีของพวกเขาไป พรรคประชาธิปัตย์ก็มุ่งหน้าให้ได้คะแนนเสียงมากที่สุด เพราะระบบใหม่ คะแนนเสียงก็นำมาแปรเป็นจำนวนส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อยู่แล้ว พวกเราก็เดินหน้าว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะมีข้อเสนอให้กับผู้เลือกตั้งตามที่พวกเขาเห็นว่าเราพึ่งพาได้ เรานำพาอนาคตประเทศได้ แล้วสนับสนุนเรา เราคิดแค่นี้ สำหรับผมตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือเราแข่งขันกับตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่จะลงสนามการเมือง โลกกับประเทศมันเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อเทียบกับ 7 ปีที่แล้วที่มีการเลือกตั้งครั้งสุดท้าย แม้แต่เทียบกับเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2557 โลกก็เปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว ฉะนั้นพรรคที่จะหาคำตอบให้สังคมได้ก็ต้องเข้าใจความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ มีข้อเสนอที่มาตอบโจทย์ตรงนี้ได้หมด เช่น เรื่องสังคมสูงวัย เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องคอร์รัปชั่น ที่ยังไม่สามารถจัดการได้
@ ตอนนี้คสช.ห้ามพูดเรื่องนโยบายพรรค
ใครไม่ให้พูด แต่ก่อนที่จะถึงนโยบายเราต้องพูดเรื่องหลักคิดอุดมการณ์ ผมบอกได้เลยว่าวันนี้สังคมมีทางเลือกชัดเจน ทางเลือกคือ 1.รัฐราชการอนุรักษ์นิยมตามที่คสช.ทำอยู่ 2.ประชานิยม ที่กลับไปหาการทุจริตคอร์รัปชั่น 3.เสรีนิยมประชาธิปไตย ทางเลือกนี้เป็นของพวกเรา ยืนยันว่าเราจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์ จากนั้นเสรีนิยมประชาธิปไตยก็ต้องมาแปลงเป็นเรื่องๆว่า นโยบายมีอะไรบ้าง ส่วนพรรคใหม่จะเสนอเป็นทางเลือกใดก็ว่ากันไป เราต้องมองตรงนี้ก่อน เพราะประเทศจะมาแข่งขันกันเป็นเรื่องๆไม่ได้แล้ว เช่น ใครจะให้ค่าแรงสูงกว่ากันมันไม่ใช่แล้ว ต้องมาพูดว่าตกลงเราจะเดินแบบคสช.หรือไม่ หรือเราจะเดินแบบประชานิยม
@ ทำไมพรรคประขาธิปัตย์ยังประกาศเป็นพรรคทางเลือกอยู่
ทางเลือกมีเป้าหมายเป็นทางหลัก แต่ผมให้เกียรติทางเลือกอื่น ผมจะมาบอกว่าผมเป็นหลักคนเดียวได้อย่างไร ใครจะเป็นหลักไม่ได้ เพราะขึ้นอยู่ที่พรรค เเละขึ้นอยู่ที่คนเลือกตั้ง ถ้าคนเลือกตั้งเลือกคนของพรรคคุณมาเยอะ พรรคของคุณก็เป็นหลัก หากคนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้ง เลือกคนของพรรคคุณมาน้อย ทางเลือกไหนก็ยังไม่รู้เลย ผมเป็นเสรีนิยมประชาธิปไตย ผมจึงบอกว่าประชาชนต้องมีทางเลือก
@ พรรคทางเลือกที่มีเป้าหมายเป็นทางหลักคิดจะจับมือกับพรรคไหนหรือกลุ่มไหนหรือไม่
ผมบอกไว้เลยว่าพรรคของผมต้องเป็นหลัก ต้องไปถามว่าใครจะจับมือกับพรรคของผม แต่ไม่ใช่ใครก็ได้ ต้องดูว่าใครยอมรับแนวทางความคิดที่พวกเราทำ เช่น ผมเอาเรื่องกระจายอำนาจคุณเอาหรือไม่ ผมไม่ยอมให้มีการทุจริตคอร์รัปชั่น พวกคุณจะเอาด้วยหรือไม่
@ หากพรรคขนาดกลางรวมตัวกันและเสนอพล.อ.ประยุทธ์ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคประชาธิปัตย์จะร่วมขบวนด้วยหรือไม่
ผมยังไม่รู้เลยว่าพล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯคนนอกหรือคนใน ผมสมมุติว่า หากพรรคต่างๆรวบรวมเสียงมาได้ ถามว่าพรรคของผมจะไปร่วมหรือไม่ พวกเราก็ต้องดูก่อนว่าแนวทางของพวกเขาตรงกับแนวทางที่พรรคของผมไปหาเสียงหรือไม่ ปรับเข้ากันได้หรือไม่ หากปรับเข้ากันไม่ได้ก็ไม่ไป จะไปทำไม ผมก็ต้องซื่อสัตย์ ซื่อตรงกับคนที่สนับสนุนพรรคของผม
@ เเปลว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ปิดทางของตัวเอง เพราะถ้าปรับตรงกันได้ก็จะเข้าร่วม
ถ้ามันตรงกัน มันก็ร่วมได้ แต่ตอนนี้มันมีอะไรที่ไม่ตรงกันเยอะพอสมควร ชัดเจนแล้วว่าพล.อ.ประยุทธ์ ไม่เอากระจายอำนาจ แนวคิดระบบเศรษฐกิจก็ไม่ได้แก้ปัญหาในเชิงโครงสร้างในเรื่องทุนขนาดใหญ่ ไม่ได้แก้โครงสร้างการดูแลภาคการเกษตร
@ พล.อ.ประยุทธ์บอกว่าในเดือนมิถุนายนนี้จะเชิญพรรคการเมืองต่างๆ หารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง และให้พรรคการเมืองนำนโยบายไปบอกสังคมว่าจะทำอะไรบ้าง
ผมก็ฟังอยู่ ตอนนี้ยังงงๆอยู่ว่าตกลงพล.อ.ประยุทธ์จะให้บอกหรือไม่ให้บอก นโยบายพรรคของผมให้ไปหลายเรื่องแล้ว อาทิ การทุจริตคอร์รัปชั่น ในยุคของผมใครมีปัญหานำออกไปก่อน บัตรคนจนทำไมต้องบังคับให้ใช้เพียง 2 ร้าน ให้เป็นเงินสดทำได้ไหม? วิธีของผมไม่ต้องมาขอ ผมให้เลย เงินจะได้หมุนไปในชุมชน จะได้ช่วยเหลือแม้ค้าในตลาดสด ให้เลยไม่ต้องขอ และการแก้ปัญหาการประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ไม่ใช่แก้จนประมงพื้นบ้านไม่เหลือ ต้องทำให้ประมงพื้นบ้านอยู่ได้ แต่เราต้องสามารถดำเนินการต่างประเทศ เพื่อให้สหภาพยุโรปเข้าใจและยอมรับ เเบบนี้พรรคประชาธิปัตย์ให้มาตลอดไม่ต้องขอ แล้วพวกเขาทำหรือเปล่า?
@ ตามโรดแมปแล้วเดือนกุมภาพันธ์ 2562 จะมีการเลือกตั้งหรือไม่
อยู่ประมาณนั้น ผมไม่ได้ยึดติดหรอก ไม่ได้ดูฤกษ์ไว้ว่าจะเดือนไหน
@ พรรคมีความพร้อมลงสนามเลือกตั้งหรือไม่
พร้อม พรรคการเมืองในระบบรัฐสภาต้องพร้อมอยู่แล้ว ปัญหาที่เป็นเรื่องจะวุ่นวาย คือการไม่ปลดล็อคพรรคการเมือง ผมมองว่าทุกพรรคก็พร้อม ผมไม่ค่อยเห็นเหตุผลว่าทำไมถึงสร้างปัญหานี้ การที่พรรคการเมืองจะประชุมทำตามกฎหมาย ผมมองไม่เห็นเลยว่าจะกระทบความมั่นคง พรรคการเมืองที่จะทำให้กระทบความมั่นคง ไม่รอปลดล็อคหรอก พวกเขาอยากจะทำอะไร ก็ทำอยู่แล้ว เเละไม่รอเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค โดยมีวาระการประชุมเพื่อจะป่วนเมืองหรอก
@ เมื่อคสช.ปลดล็อคการเมืองแล้ว จะมีขั้นตอนดำเนินการอย่างไรบ้าง
สัปดาห์หน้าผมจะบอก เพราะวันที่ 1 เม.ย. จะเริ่มกระบวนการยืนยันสมาชิกพรรค ผมสอบถามกกต.และคสช.ไปแล้วเเต่พวกเขาไม่ตอบ คสช.ให้เหตุผลตอนรีเซ็ตสมาชิกพรรคว่าเหตุที่ต้องทำอย่างไรนี้ เนื่องจากสมาชิกพรรคต้องรู้ว่าเมื่อมีกฎหมายใหม่ พรรคการเมืองจะมีนโยบายและข้อบังคับอย่างไร แต่ว่าไม่ให้พวกเราประชุมพรรค พวกเราก็มีมติอย่างเป็นทางการไม่ได้ พวกเราเคยหารือไปแล้ว ก็ไม่มีคำตอบ แต่วันที่ 1 เม.ย. ผมคงต้องแถลงเพื่อบอกว่าแนวทางที่ผมตั้งใจไว้ แม้จะไม่เป็นมติพรรค เเต่ต้องบอกว่า มันมีอะไรบ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจของสมาชิกพรรค ผมจะได้พูดเป็นเรื่องเป็นราว ลำดับให้ขั้นตอนของพรรคทั้งหมด
@ กติกาที่คสช.เขียนไว้สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้พรรคการเมืองทำผิดกฎหมายหรือไม่
ผมไม่คิดจะทำอะไรผิดกฎหมาย ผมคิดว่าเราทำทันตามกรอบเวลาที่กฎหมายเขียนไว้ และตั้งใจทำมากกว่าที่กฎหมายเขียนด้วย ดังนั้นไม่ต้องเอาพวกผมไปอ้าง
ตอนนี้แม่น้ำ 5 สายของคสช.สร้างปัญหาขึ้นมาเอง เมื่อออกกฎหมายมาแล้วก็ไม่มั่นใจว่าจะขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จะเอาความชัดเจนจากศาลก็กลัวว่าจะกระทบการเลือกตั้ง มันจึงกล้าๆกลัวๆ ความจริงทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ต้องกลัวเลย เพราะพล.อ.ประยุทธ์มีอำนาจเบ็ดเสร็จ ปลดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ออกจากกกต.ยังปลดได้เลย ผมจึงบอกว่าสมมุติว่า พล.อ.ประยุทธ์ หากไม่มั่นใจว่ากฎหมายมีปัญหาหรือไม่ให้ส่งศาล แต่ถ้าส่งศาลแล้วรู้ว่าเวลามันเคลื่อนออกไป ก็ออกเป็นนโยบายให้สนช.เอานำปม 90 วันออกไป แล้วให้บังคับใช้กฎหมายทันทีทุกอย่างมันก็จบ ก็เลือกตั้งได้ตามเดิม เเต่มันอยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่ จะบอกว่าพล.อ.ประยุทธ์ไม่ยุ่งไม่เกี่ยว มันไม่ใช่ กฎหมายพรรคการเมืองพล.อ.ประยุทธ์ก็แก้แล้ว พล.อ.ประยุทธ์ทำได้หมด มันไม่ใช่ว่าถ้าส่งศาลแล้วทุกอย่างจะช้า ถ้าไม่ส่งศาลเกิดความไม่มั่นใจ ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ทำได้ทั้ง 2 อย่าง ทำกฎหมายให้มันชัด และเลือกตั้งตามกรอบเวลาเดิม พล.อ.ประยุทธ์ใช้อำนาจทำได้หมด อยู่ที่ว่าจะทำหรือไม่
@ ถ้าให้เปรียบคสช.เหมือนทีมฟุตบอลจะเปรียบเป็นทีมอะไร
(หัวเราะ) คสช.นั้นเปรียบยาก เพราะว่าแสดงตัวเป็นกรรมการอยู่ แต่ไม่ปิดทางที่จะลงมาเล่นเอง มันไม่มีทีมไหนบนโลกใบนี้ที่มีลักษณะนี้ ผมจึงเปรียบเทียบคสช.เป็นทีมฟุตบอลไมได้
@ แล้วพรรคประชาธิปัตย์เป็นทีมอะไร
ไม่ได้หรอก ผมไปมีความเห็นว่าทีมไหนดีไม่ดี ผมทำไม่ได้หรอก ส่วนทีมนิวคาลเซิล (ทีมโปรดของนายอภิสิทธิ์) ใครจะมาเทคโอเวอร์ก็ได้ ช่วยเอาเจ้าของเก่าออกไปที (ยิ้ม)