แบรนด์ดังโหน‘ออเจ้า’ จ่อโกอินเตอร์ตีตลาดจีนฮ่องกง-ทวิตเตอร์ขึ้นที่1โลก

24 มี.ค. 2561 | 15:00 น.
กระแส “ออเจ้า” แรงเว่อร์!ทั่วไทย ดังไกลทั่วโลก ดันเรตติ้งช่อง 33 แซงหน้าขึ้นอันดับ 1 เบียดละครหลังข่าวเขย่าบัลลังก์ช่อง 7 ทวิตเตอร์พุ่งติดเบอร์ 1 ของโลก ผู้บริหารช่องชี้ความสำเร็จ ความลงตัวในทุกภาคส่วน ขณะที่ภาครัฐเตรียมขนไปตีตลาดจีนและฮ่องกง

แรงทั่วหล้า สะท้านทั้งแผ่นดิน ยามนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ไม่พูดถึง “ออเจ้า” ละครย้อนยุคจากบุพเพสันนิวาส โดยบริษัท บรอดคลาสไทยเทเลวิชั่น จำกัด ที่กำลังออกอากาศทางช่อง 33 HD เนื้อหาของเรื่องไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ในช่วงกรุงศรีอยุธยาเท่านั้น แต่ยังได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการละครไทยและวงการทีวีดิจิตอล กับปรากฏการณ์สำคัญไม่ว่าจะเป็น การขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 1 ของโลก การสร้างเรตติ้งให้กับช่อง 33 HD แซงหน้าละครของช่อง 7 (ช่อง 35 HD) กระแสความดังของ “บุพเพสันนิวาส” ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในเมืองไทยเท่านั้น แต่ไปไกลถึงประเทศจีน เกาหลี เวียดนาม และล่าสุดยังถูกนำไปแปลเป็นภาษารัสเซีย ทำให้ภาครัฐและผู้เกี่ยวข้องเตรียมนำละครไปขายลิขสิทธิ์สร้างรายได้ต่อเนื่องด้วย

ปรากฏการณ์ความสำเร็จของละคร “บุพเพสันนิวาส” นายสุบัณฑิต สุวรรณนพ รองหัวหน้าคณะผู้บริหารส่วนปฏิบัติการ บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเป็นเพราะความลงตัวในทุกองค์ประกอบ ทั้งบทประพันธ์ บทละคร ผู้กำกับ นักแสดง การผลิต และช่วงเวลาที่ออกอากาศ ส่งผลให้เรตติ้งทั่วประเทศพุ่งสูงสุดถึง 14.759 ในช่วงวันที่ 15 มีนาคม 2561 ซึ่งออกอากาศเป็นตอนที่ 7 ส่วนเรตติ้งของละครเรื่อง ชาติลำชี ของช่อง 7 (ช่อง 35 HD) มีเรตติ้ง 3.614 ส่วนรายการนักร้องซ่อนแอบ ของช่องเวิร์คพ้อยท์ มีเรตติ้ง 1.869 ละครเรื่อง ดาวจรัสฟ้า ของช่องวัน มีเรตติ้ง 1.625 ที่ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีเรตติ้ง 2.3

mp36-3350-a สำหรับเรตติ้งสำคัญของละคร บุพเพสันนิวาส คือ การได้ฐานกลุ่มผู้ชม กลุ่ม F15+ BU UM หรือกลุ่มผู้หญิงอายุมากกว่า 15 ปี เป็นคนกรุงเทพฯ และหัวเมือง ที่มีรายได้มากกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน เป็นแฟนเป้าหมายผู้ชมช่อง 33 โดยเฉพาะ ที่ได้เรตติ้งถึง 23.697 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีเรตติ้ง 23.058 ซึ่งสินค้าที่ลงโฆษณาจะเป็นกลุ่มพรีเมียมเพื่อจับกลุ่มเป้าหมายดังกล่าวเป็นหลัก ถือว่าเรตติ้งที่ได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เพราะช่องคู่แข่งมีความแข็งแรงในด้านเรตติ้ง โดยเฉพาะเรตติ้งทั่วประเทศ ที่ละครเรื่องดังกล่าวสามารถเจาะตลาดได้ทั่วประเทศ และยังสามารถดึงกลุ่มวัยรุ่นให้กลับมาดูละครได้ด้วย

“ที่ผ่านมาละครของกลุ่มช่อง 3 ทำอย่างพิถีพิถันในทุกเรื่อง และทำการตลาดทุกเรื่อง ส่วนละครเรื่องนี้ถือว่ามาได้ถูกที่ถูกเวลา ซึ่งละครพีเรียด ละครประวัติศาสตร์ก็มีคนทำเยอะ แต่ละครเรื่องนี้มาในช่วงที่คนไทยขาดละครประวัติศาสตร์ และขาดอะไรที่ทำให้จิตใจมันชุ่มชื่น ทำให้ความรักในประเทศชาติ รักความเป็นไทย ที่มันขาดหายไปนานพอสมควร ละครเรื่องนี้ทำให้คนดูเชื่อว่า เขาย้อนเวลากลับไปในช่วงอยุธยาจริงๆ ได้เจอคนที่มีชีวิตจริงๆ และสิ่งที่นางเอกเป็นในปัจจุบัน พอกลับไปในยุคอดีตมันทำให้คนในยุคปัจจุบันภูมิใจในความเป็นไทย ทำให้คนมีประสบการณ์ร่วม อะไรที่คนดูมีประสบการณ์ร่วม และเกิดการเชียร์ตัวละคร ตัวละครเป็นที่รักของคนดู ละครเรื่องนั้นมีโอกาสประสบความสำเร็จสูง”

อย่างไรก็ตาม สำหรับละคร เรื่องบุพเพสันนิวาส เรตติ้งอาจจะยังไม่สูงเท่ากับละครเรื่องนาคี ที่ได้ออกอากาศไปก่อนหน้านี้ ที่สามารถทำเรตติ้งทั่วประเทศไปได้ 17.291 ซึ่งอาจจะต้องจับตาดูต่อไปว่าเรตติ้งละคร บุพเพสันนิวาส จะสูงเท่าไร เพราะละครเพิ่งออกอากาศได้เพียง 50% ยังเหลือละครอีกประมาณ 7 ตอน แต่จากความสำเร็จเพียงตอนแรกที่ละครออกอากาศและมีการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง สามารถทำเรตติ้งได้ทะลุ 11.4 เมื่อออกอากาศในตอนที่ 5 เท่านั้น ความสำเร็จของละครยังสามารถวัดได้จากอัตราการซื้อโฆษณาที่ปัจจุบันถือว่าเต็ม 100% ซึ่งอาจจะเป็นเพียงละครเรื่องเดียวเท่านั้นที่สามารถทำได้

แบนเนอร์รายการฐานยานยนต์ นายสุบัณฑิต กล่าวอีกว่า การต่อยอดของละครเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม คงจะทำไปโดยธรรมชาติ เหมือนกับละครเรื่องอื่นๆ ที่ปัจจุบันมีต่างประเทศให้ความสนใจและเข้าซื้อละครของช่องอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งต้องพิจารณาในส่วนของ การเจรจาว่าจะเป็นอย่างไร เพราะปัจจุบันต้องถือว่าละครได้รับความนิยมไม่เฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ในประเทศจีนก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เห็นได้จากเทรนด์ทวิตเตอร์ ในช่วงเวลาหนึ่งขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกด้วย มีผู้ทวิตกว่า 2 ล้าน ทวิตในช่วงวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา

ความสำเร็จของละครบุพเพสันนิวาส ยังเห็นได้จากการที่แบรนด์สินค้า ใช้จังหวะและโอกาสเข้ามาจับกระแส “ออเจ้า” ที่กำลังฮิต เพื่อทำการตลาดในมุมต่างๆ สอดคล้องไปกับเนื้อหาของละครที่ออกอากาศ เช่น ช่วงที่นางเอกสาธิตเครื่องกรองนํ้า โฮมโปรซึ่งจัดจำหน่ายวัสดุและสินค้าตกแต่งบ้านก็ส่งโปรโมชันผ่านแอพพลิเคชันไลน์ นำเสนอขายสินค้าเพียงละครออกอากาศไม่กี่นาที หรือแม้แต่นํ้าปลาหวานที่นางเอกทำขึ้นในละคร ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตก็ส่งโปรโมชันของนํ้าปลาหวานออกมาขายด้วย ยังมีสินค้าอีกหลากหลายแบรนด์ในใช้กระแส “ออเจ้า” นี้ มาเป็นคอนเทนต์เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าของตนเองด้วย

แม้แต่สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำละคร ปัจจุบันก็พบว่ากำลังเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปตามรอยละครอย่างมาก และมีการแต่งกายด้วยชุดไทยด้วย กระแสความดังของละคร ยังทำให้หน่วยงานภาครัฐ อย่างทีมไทยแลนด์ เตรียมนำเอาละครเรื่องดังกล่าวไปร่วมงาน Hong Kong Filmart 2018 ที่ฮ่องกง เพื่อเสนอขายลิขสิทธิ์ร่วมกับรายการคอนเทนต์ต่างๆ ของผู้ผลิตไทยรายอื่นๆ ด้วย หรือแม้แต่ประเทศจีน ก็เป็นเป้าหมายที่ทางกระทรวงพาณิชย์ เตรียมนำเอาละครไปบุกตลาด ด้วยการเชิญผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของจีนเดินทางมาไทย เพื่อเจรจาความร่วมมือระหว่างกัน และการซื้อขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ของไทย จากก่อนหน้านี้ที่ภาพยนตร์เรื่อง ฉลาดเกมส์โกง ที่ไปทำรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท ทั่วประเทศจีนและเอเชียแล้ว จึงต้องการต่อยอดความสำเร็จของละครเรื่องนี้ ที่กลายเป็นกระแสฮิตของชาวจีนในปัจจุบัน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว