ไมเนอร์ปูพรมร้านอาหารไทย รุก 30 สาขาต่างแดนผนึกม.กรุงเทพปั้นคนรุ่นใหม่
ไมเนอร์ เดินหน้ารุกธุรกิจร้านอาหารไทยในต่างประเทศ จ่อเปิดเพิ่ม 30 แห่ง ชู “ไทยเอ็กซ์เพรส” หัวหอกหลัก หลังอาหารไทยรั้ง Top 3 เป็นรองแค่อาหารจีน-ญี่ปุ่น ล่าสุดจับมือม.กรุงเทพ ปั้นหลักสูตรใหม่ “เจ้าของร้านอาหารไทยมืออาชีพ” เจาะตลาดคนรุ่นใหม่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง
นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ -Global Thai Concepts บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารไทยในเครือไมเนอร์ในต่างประเทศเปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศทั้งรูปแบบที่บริษัทเป็นผู้ลงทุนเองและการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อย่างเอสเอสพี อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดให้บริการ 6 แบรนด์ ได้แก่ แกร็บไทย,ร้านเบซิล,ไทยเอ็กซ์เพรส,ร้านไทยซูเปอร์โบว์ และร้านที่ร่วมทุนกับ ได้แก่ ภัทรา,สุดา ทั้งสิ้น 90 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั้งในเอเชียและยุโรป โดยปีนี้มีแผนขยายสาขาเพิ่ม 30 แห่งในต่างประเทศ โดยจะโฟกัสที่ภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าร้านอาหารไทยกำลังได้รับความนิยมและมีโอกาสทางการเติบโตสูง ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบที่บริษัทเข้าไปลงทุนเองและรูปแบบแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกาเมียนมาและเวียดนาม เป็นต้น
[caption id="attachment_270406" align="aligncenter" width="335"]
อรรถ ประคุณหังสิต[/caption]
“ปัจจุบันร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้รับความนิยมติดอันดับท็อป 3 รองจากอาหารจีนและญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสทางการเติบโตในตลาดโลกนั้นยังมีสูง จากความนิยมในระยะยาว ขณะเดียวกันต่างชาติเริ่มเข้าถึงและคุ้นเคยกับอาหารไทยมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงเดินหน้าลงทุนขยายสาขาในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบการลงทุนเองและแฟรนไชส์”
สำหรับรูปแบบในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทจะให้ความสำคัญกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เช่น ในกลุ่มประเทศแถบยุโรปอย่างอังกฤษจะให้ความสำคัญกับการครีเอตการนำเสนอที่แตกต่าง หลากหลาย แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารไทยดั้งเดิมไว้ชัดเจน ขณะที่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย อย่างจีนจะให้ความสำคัญกับการนำเสนอเมนูยอดนิยมอาทิผัดไทย แกงเขียวหวาน ต้มยำกุ้ง เป็นต้น และมีราคาที่ไม่สูงแต่ต้องมีคุณภาพดี ขณะที่ในกลุ่มอาเซียนอย่างเวียดนามและกลุ่มประเทศใหม่ที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดจะเป็นการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยมีร้านไทยเอ็กซ์เพรส เป็นหัวหอกหลักในการทำตลาด
ล่าสุดทางสถาบันได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สร้างหลักสูตรเจ้าของร้านอาหารไทยมืออาชีพ (รอท.)เพื่อเป็นการพัฒนาคนที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารไทยให้ประสบความสำเร็จ เปิดคอร์สหลักสูตรลำดับที่ 6 เพื่อรองรับความต้องการของผู้เรียนที่ต้องการมีร้านอาหารไทยเป็นของตัวเอง อีกทั้งปัจจุบันแนวโน้มธุรกิจร้านอาหารไทยมีการเติบโตที่ดีและต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนาดกลาง ขนาดเล็กสามารถสร้างธุรกิจบริการร้านอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับรูปแบบการเรียนการสอนหลักสูตร “ร้านอาหารไทยมืออาชีพ”นั้น จะเปิดสอนอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ และใช้ระยะเวลา 15 สัปดาห์ต่อ 1 หลักสูตรมีบุคลากรมาหมุนเวียนกันสอน15-20ท่านตลอดหลักสูตร โดยตั้งเป้า 100% ของผู้ที่มาเรียนจะประสบความสำเร็จและมีร้านอาหารไทยเป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายรายได้สำหรับกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทยของไมเนอร์ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากประเทศในแถบยุโรป 30% และภูมิภาคเอเชีย 70% โดยมองว่าสำหรับกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทยในตลาดโลกนั้นยังสามารถสร้างการเติบโตได้ดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านกาแฟก็มองว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสทางการเติบโตได้ดีในระดับโลก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
นายอรรถ ประคุณหังสิต ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ -Global Thai Concepts บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านอาหารไทยในเครือไมเนอร์ในต่างประเทศเปิดเผยกับ“ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหารไทยในต่างประเทศทั้งรูปแบบที่บริษัทเป็นผู้ลงทุนเองและการร่วมมือกับพาร์ตเนอร์อย่างเอสเอสพี อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดให้บริการ 6 แบรนด์ ได้แก่ แกร็บไทย,ร้านเบซิล,ไทยเอ็กซ์เพรส,ร้านไทยซูเปอร์โบว์ และร้านที่ร่วมทุนกับ ได้แก่ ภัทรา,สุดา ทั้งสิ้น 90 แห่ง ที่กระจายอยู่ทั้งในเอเชียและยุโรป โดยปีนี้มีแผนขยายสาขาเพิ่ม 30 แห่งในต่างประเทศ โดยจะโฟกัสที่ภูมิภาคเอเชียเป็นหลัก เนื่องจากมองว่าร้านอาหารไทยกำลังได้รับความนิยมและมีโอกาสทางการเติบโตสูง ซึ่งจะมีทั้งรูปแบบที่บริษัทเข้าไปลงทุนเองและรูปแบบแฟรนไชส์ ไม่ว่าจะเป็น ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกาเมียนมาและเวียดนาม เป็นต้น
[caption id="attachment_270406" align="aligncenter" width="335"]
“ปัจจุบันร้านอาหารไทยในต่างประเทศได้รับความนิยมติดอันดับท็อป 3 รองจากอาหารจีนและญี่ปุ่น ซึ่งแน่นอนว่าโอกาสทางการเติบโตในตลาดโลกนั้นยังมีสูง จากความนิยมในระยะยาว ขณะเดียวกันต่างชาติเริ่มเข้าถึงและคุ้นเคยกับอาหารไทยมากขึ้น ดังนั้นบริษัทจึงเดินหน้าลงทุนขยายสาขาในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ทั้งรูปแบบการลงทุนเองและแฟรนไชส์”
สำหรับรูปแบบในการขยายตลาดต่างประเทศของบริษัทจะให้ความสำคัญกับความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เช่น ในกลุ่มประเทศแถบยุโรปอย่างอังกฤษจะให้ความสำคัญกับการครีเอตการนำเสนอที่แตกต่าง หลากหลาย แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นอาหารไทยดั้งเดิมไว้ชัดเจน ขณะที่ประเทศในภูมิภาคเอเชีย อย่างจีนจะให้ความสำคัญกับการนำเสนอเมนูยอดนิยมอาทิผัดไทย แกงเขียวหวาน ต้มยำกุ้ง เป็นต้น และมีราคาที่ไม่สูงแต่ต้องมีคุณภาพดี ขณะที่ในกลุ่มอาเซียนอย่างเวียดนามและกลุ่มประเทศใหม่ที่บริษัทจะเข้าไปทำตลาดจะเป็นการขยายสาขาในรูปแบบแฟรนไชส์ โดยมีร้านไทยเอ็กซ์เพรส เป็นหัวหอกหลักในการทำตลาด
สำหรับรูปแบบการเรียนการสอนหลักสูตร “ร้านอาหารไทยมืออาชีพ”นั้น จะเปิดสอนอย่างเป็นทางการในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ และใช้ระยะเวลา 15 สัปดาห์ต่อ 1 หลักสูตรมีบุคลากรมาหมุนเวียนกันสอน15-20ท่านตลอดหลักสูตร โดยตั้งเป้า 100% ของผู้ที่มาเรียนจะประสบความสำเร็จและมีร้านอาหารไทยเป็นของตัวเอง
อย่างไรก็ตามบริษัทวางเป้าหมายรายได้สำหรับกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทยของไมเนอร์ในต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมาอย่างแน่นอน แบ่งเป็นรายได้ที่มาจากประเทศในแถบยุโรป 30% และภูมิภาคเอเชีย 70% โดยมองว่าสำหรับกลุ่มธุรกิจร้านอาหารไทยในตลาดโลกนั้นยังสามารถสร้างการเติบโตได้ดี ขณะที่กลุ่มธุรกิจร้านกาแฟก็มองว่าเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่มีโอกาสทางการเติบโตได้ดีในระดับโลก
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561
