จี้รัฐฟื้นดีสนี่ย์แลนด์อีสาน ปัดฝุ่น‘จูราสสิก พาร์ก’ดึงทัวร์จีนบูมท่องเที่ยว

ประธาน ภาคอีสาน TTAA คนใหม่ขอให้รัฐบาลฟื้นแนวคิดลงทุนสร้าง “จูราสสิก พาร์ก” ตอกยํ้าเป็นแหล่งฟอสซิลไดโนเสาร์ดึกดำบรรพ์ระดับโลก

[caption id="attachment_270358" align="aligncenter" width="503"] ทินกร ทองเผ้า[/caption]

นายทินกร ทองเผ้า ประ ธานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมไทยบริการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ TTAA เปิดเผยว่า อยากให้รัฐบาลปัจจุบันทบทวนแนวความคิดเดิมของหลายรัฐบาลที่จะใช้พื้นที่ภาคอีสานก่อสร้างสวนสนุกขนาดใหญ่ เพื่อดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาภาคอีสาน พร้อมทั้งเปิดช่องทางของกฎหมาย ข้อระเบียบต่างๆ ให้เอื้ออำนวยต่อนักลงทุนทั้งในและนอกประเทศ ให้เกิดความจูงใจในการเข้ามาลงทุน อยากให้รัฐบาลและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย รื้อฟื้นแนวความคิด ลงทุนก่อสร้าง สวนสนุกขนาดใหญ่ลักษณะดีสนีย์แลนด์ ในพื้นที่ภาคอีสานกลางที่ทุ่งกุลาร้องไห้ เอากลับมาวางแผนการหรือบรรจุเอาไว้ในแผนการพัฒนาภาคใหม่อีกครั้ง เพราะน่าจะเกิดประโยชน์ในหลายๆ ด้าน ที่เห็นชัดเจนคือ การลงทุน การสร้างงาน สร้างรายได้ ให้กับพื้นที่ชุมชน

“อีกโครงการหนึ่งคือ การลงทุนก่อสร้างสวนไดโนเสาร์ ดึกดำบรรพ์ หรือสวนจูราสสิก พาร์ก ในพื้นที่จังหวัดหรือบริเวณที่นักวิชาการขุดค้นพบซากโครงกระดูกของไดโนเสาร์ ในพื้นที่หลายจังหวัดของภาคอีสาน เช่นที่จังหวัดขอนแก่น นครราชสีมา กาฬสินธุ์ แม้กระทั่งจังหวัดหนองบัวลำภู จนกระทั่งได้มีการตั้งเป็นแหล่งค้นคว้าทางวิชาการหลายแห่งแล้ว และเพื่อเป็นการเผยแพร่แหล่งความรู้วัฒนธรรม อารยธรรมของประเทศไทยได้อีกทางหนึ่งด้วย ที่ผ่านมาเราเสีย โอกาสทั้งๆ ที่เรามีแหล่งความรู้เรื่องราวอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของประเทศ เพราะแหล่งกำเนิดไดโนเสาร์ที่ถูกค้นพบของภาคอีสาน ถือว่าเป็นแหล่งความรู้ ที่เกี่ยวข้องกับไดโนเสาร์ในบริเวณภูมิภาคนี้ของโลกมีอยู่ไม่กี่แห่ง สามารถเป็นจุดดึงดูดผู้คนให้เดินทางเข้าสู่พื้นที่ด้วยหลายประการ”

นายทินกร กล่าวต่อไปว่า แนวทางการดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาสู่ภาคอีสาน โดยปัจจุบันนี้นักท่องเที่ยวจีนเป็นคนจีนรุ่นใหม่ที่มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีฐานะมีกำลังซื้อสูง และเป็นกลุ่มท่องเที่ยวที่มีการเรียนกฎระเบียบที่ทางการจีนบอกกล่าวสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เป็นกลุ่มคนที่ค่อนข้างมีความรู้ และใช้เครื่องมือสื่อสารสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว ทั้งการจองที่พัก จองทัวร์ รวมทั้งหาแหล่งท่องเที่ยวเอง พร้อมที่จะซื้อการบริการการท่องเที่ยว เป็นกลุ่มที่นิยมเดินทางไปกันเอง ไม่ผ่านบริษัททัวร์ในประเทศจีน และกำลังมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยที่เดินทางผ่านกรุงเวียงจันทน์ผ่านด่านสากลเข้ามาภาคอีสาน ด้วยการเดินทางด้วยเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำจากมณฑลต่างๆ ของจีนมายังเวียงจันทน์ ส่วนหนึ่งก็จะเดินทางผ่านมายังภาคอีสานตอนบนตามช่องทางด่านสากล

“เราอยากได้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เข้ามาในภาคอีสาน และเห็นว่าภาคอีสานมีความพร้อมที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจีนแล้วทุกอย่าง ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว การบริการ ซึ่งขณะนี้มีเอเยนต์ทัวร์หลายแห่งของภาคอีสานมีการประสานความร่วมมือกับพื้นที่ที่มีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาท่องเที่ยว เช่น เชียงใหม่ เชียงราย กรุงเทพฯ หรือแม้กระทั่งในกรุงเวียงจันทน์ ขายบริการให้กับนักท่องเที่ยวจีน และก็มีนักท่องเที่ยวจีนจำนวนหนึ่งเดินทางเข้าสู่อีสานและมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ”

อนึ่ง สนามบินนานาชาติอุดรธานีมีตัวเลขคนเดินทางเพิ่มขึ้นทุกปี โดยในปี 2559 มีเที่ยวบินขึ้น-ลง จำนวน 15,755 เที่ยวบิน มีผู้โดยสารรวม 2,329,054 คน และปี 2560 มีเที่ยวบินขึ้น-ลงจำนวน 17,857 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสาร 2,527,791 คน

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,350 วันที่ 22 - 24 มีนาคม พ.ศ. 2561