เงินบาทขยับแข็งค่าเปิด 31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังเงินยูโร-ปอนด์แข็งค่า
เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้นเปิดที่ระดับ 31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังเงินดอลลาร์รับแรงกดดันจากเงินยูโรและปอนด์แข็งค่าขึ้น จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ-ปัญหาการเมืองสหรัฐฯ ส่งผลตลาดปิดรับความเสี่ยง มองกรอบค่าเงินวันนี้ 31.15-31.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นจาก 31.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นวันที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 90 จุด สู่ระดับ 89.45 หลังค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น จากรายงานข่าวที่ระบุว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะเริ่มพิจารณาถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินปอนด์อังกฤษที่ปรับตัวขึ้น หลังการเจรจา Brexit เริ่มมีทิศทางที่สดใสขึ้น
อนึ่ง ในระยะนี้ตลาดจะรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และยังคงกังวลความเสี่ยงทางการเมืองสหรัฐฯ รวมไปถึงมาตรการกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดการเงินโดยรวมยังคงไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากนัก
สำหรับวันนี้ ตลาดจะจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย เพื่อหาแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน(core CPI) ของอังกฤษสามารปรับตัวลดลง จากระดับ 2.7% สู่ระดับ 2.5% จะช่วยหนุนโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) คงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกสักระยะ อย่างไรก็ดี หากตัวเลขเงินเฟ้ออังกฤษสูงกว่าคาด จะช่วยหนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และช่วยให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าได้ต่อ วันนี้มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 31.15-31.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยค่าเงินบาทอาจจะได้รับแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นจากแนวโน้มการเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกที่รอให้บาทอ่อนใกล้ระดับ 31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี ระบุค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ แข็งค่าขึ้นจาก 31.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ณ สิ้นวันที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวลดลงหลุดระดับ 90 จุด สู่ระดับ 89.45 หลังค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น จากรายงานข่าวที่ระบุว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะเริ่มพิจารณาถึงแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินปอนด์อังกฤษที่ปรับตัวขึ้น หลังการเจรจา Brexit เริ่มมีทิศทางที่สดใสขึ้น
อนึ่ง ในระยะนี้ตลาดจะรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และยังคงกังวลความเสี่ยงทางการเมืองสหรัฐฯ รวมไปถึงมาตรการกีดกันทางการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อาจจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ทำให้ตลาดการเงินโดยรวมยังคงไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ มากนัก
สำหรับวันนี้ ตลาดจะจับตารายงานการประชุมของธนาคารกลางออสเตรเลีย เพื่อหาแนวโน้มเศรษฐกิจและโอกาสในการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ นอกจากนี้หากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน(core CPI) ของอังกฤษสามารปรับตัวลดลง จากระดับ 2.7% สู่ระดับ 2.5% จะช่วยหนุนโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) คงอัตราดอกเบี้ยต่อไปอีกสักระยะ อย่างไรก็ดี หากตัวเลขเงินเฟ้ออังกฤษสูงกว่าคาด จะช่วยหนุนโอกาสการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ และช่วยให้ค่าเงินปอนด์แข็งค่าได้ต่อ วันนี้มองเงินบาทมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวในช่วงกรอบ 31.15-31.25 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยค่าเงินบาทอาจจะได้รับแรงหนุนให้แข็งค่าขึ้นจากแนวโน้มการเทขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกที่รอให้บาทอ่อนใกล้ระดับ 31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ
